หลัง Bitcoin ETF มาวิเคราะห์ทิศทางคริปโตหลัง Halving เม.ย. 2024 จะไปทิศทางไหน

   กลต. สหรัฐ อนุมัติซื้อขาย กองทุน Spot Bitcoin ETF ข่าวดีรับต้นปี สำหรับวงการคริปโตทั่วโลก

       11 ม.ค. 2024 เกิดข่าวดีใหญ่สำหรับวงการคริปโตเคอเรนซี่ หลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐ ได้อนุมัติ Spot Bitcoin ETFs  โดยมีการอนุมัติคำขอของกองทุนที่ยื่นใบอนุญาติทั้งหมด 11 รายการ หลังยื่นขอยาวนานถึง 10 ปี ได้แก่ ARK 21Shares, Invesco Galaxy, VanEck, WisdomTree, Fidelity, Valkyrie, BlackRock, Grayscale, Bitwise, Hashdex and Franklin Templeton 

       โดย Bitcoin ETF หรือ Exchange Traded Fund คือ กองทุนที่มีนโยบายลงทุนโดยเข้าไปซื้อ Bitcoin เข้ามาถือครอง โดยนักลงทุนไม่ต้องถือครองโดยตรง ช่วยลดต้นทุนด้านค่าธรรมเนียมที่จะต่ำกว่าการซื้อโดยตรงผ่านแพลตฟอร์ม คล้ายๆกับการซื้อกองทุนหุ้นและพันธบัตร ข่าวนี้ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก ทำให้หลายๆคน อดยิ้มหวานไม่ได้

       แต่แน่นอนสำหรับในปี 2024 ใครที่อยู่ในวงการเทรดคริปโต คงลุ้นกับข่าวดีกลางปีอยู่แล้ว ว่าจะเกิด ปรากฏการณ์ Bitcoin Halving อีกครั้งในรอบ 4 ปี วันไหน?

คาดว่า ปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4 น่าจะเกิดประมาณช่วงวันที่ 16 -  25 เม.ย. 2567 ! สิ่งที่ตามมาคืออะไร?

        สิ่งที่ตามมาหลังจาก Bitcoin Halving ครั้งที่ 4 ตามการคาดการณ์ คือ ราคาของคริปโตเคอเรนซี่สกุลหลักอย่าง บิตคอยน์ Bitcoin อาจมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น ตามปัจจัยของ อุปสงค์ - อุปทาน แต่ก็ฟันธงไม่ได้ 100 % ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลายคนก็ไม่เชื่อเพราะในช่วงที่ผ่านมาราคาลงต่อเนื่อง และข่าวเสียหาย ได้สั่นคลอนความเชื่อมั่น สกุลเงินแห่งอนาคตอย่างหนัก และสำคัญคือ หลายคน ติดดอย ไม่เท่าไหร่ แต่ซ้ำราย บางรายลงไปตามคนอื่นผิดจังหวะ แทบสิ้นเนื้อประดาตัว! 

       แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าก็มีไม่น้อย ที่ได้กำไรอย่างงดงามกับการ Bloom ของคริปโตในปี 2021 และก็มีความหวังครั้งใหม่ในปีนี้ ราคาของคริปโตน่าจะเป็น ขาขึ้น? มาวิเคราะห์ทิศทางของ คริปโต และ Bitcoin หลังการ Halving กับ ชายผู้บุกเบิกวงการคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศไทย คุณท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา  CEO “Bitkub Capital Group”  ใน Springสรุปให้ Exclusive

 

ปี 2024 นี้ล่ะ ช่วยวิเคราะห์ทิศทางตลาดคริปโต หลังเกิด Bitcoin Halving ครั้งนี้ จะเป็นอย่างไร?

       ต้อง Disclaimer ก่อนว่ามันไม่มีใครบอกอนาคตได้ 100 % ถ้าบอกได้ทุกคนก็คงกลายเป็นมหาเศรษฐีกันหมด แต่เราเดาอนาคตโดยการศึกษาประวัติศาสตร์ได้ เพราะส่วนใหญ่ ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ผมอยู่ในวงการคริปโตมา 10 ปี เห็นมา 3 Halving แล้ว และมันก็จะมี Pattarn เดิมๆ

2013 Bloom 
2014 - 2016  Winter
2017 Bloom
2018 - 2020 Winter
2021 Bloom
2022 - 2023 Winter
2024 ถ้าตามสถิติ มันเกิดขึ้นตาม Pattern ก็น่าจะเกิดตามเดิม

 

โดย ปรากฎการณ์ Bitcoin Halving  น่าจะเกิดช่วงวันที่ 16 - 25 เม.ย. 2024 แล้วตามสถิติ 6 เดือนหลังจาก Halving จะเป็นช่วงที่ครึกครึ้นที่สุดของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล  
 

       แต่การมาของ Halving ครั้งที่ 4 นี้ จะบวกกับ Factor ใหม่เหมือนทุกๆครั้ง 2021 บวกกับ Defi Bloom  Halving ครั้งที่ 4 จาก 6.25 Bitcoin ที่ออกมาทุก 10 นาที จะเหลือ 3.125 บิตคอยน์ มันหารสองทุกสี่ปี

 

อนาคตของคริปโตเคอเรนซี่ จากนี้จะไปต่อหรือไม่เพราะซบเซามานาน? 

         ผม (คุณท๊อป) อยู่ในวงการนี้มา 10 ปีแล้ว ช่วงคริปโต Winter ที่ตลาดมันซบเซา ปีนึงบูม 3 ปี winter จะมีคำถามช่วงที่ตลาดซบเซาเสมอว่า คริปโตคืออนาคตจริงหรือเปล่า? เสร็จปุ๊ป พอมันครบcycle ตลาดก็จะกลับมาครึกครึ้นอีกครั้ง  คนจะแห่เข้ามาใหม่ สร้างแอปพลิเคชั่น เม็ดเงินจะไหลเข้ามาใหม่ เป็น cycle ประจำที่ไม่ได้ผิดพลาดอะไร มันเป็น pattern เก่า ที่เกิดมาแล้ว 3 ครั้งในรอบ 10 ปี อย่างที่บอกเลย 

      แต่ Bitcoin Halving  ครั้งนี้จะมีปัจจัยใหม่ที่เรียกว่า เงินสถาบันที่ไหลเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin ETF 10 กว่าเจ้า ที่เป็นเงินสถาบันที่ใหญ่มากๆ เช่น BlackRock Fidelity  ยื่นขอ Filing กับ ก.ล.ต. สหรัฐ คนก็มองว่า wave หน้าจะขับเคลื่อนด้วยเงินสถาบันเป็นหลัก ซึ่งเยอะกว่ารายย่อยมากๆ เป็นผู้เล่นรายใหญ่ๆเยอะกว่า เพราะฉะนั้นคือ ซีเรียส Money นอกจากนั้นผู้เล่นที่เป็นสถาบันการเงินเก่า จะเข้ามาทำตัวเองเป็น ผู้ให้บริการขั้นพื้นฐานของโครงสร้างที่สำคัญของดิจิทัลเคอเรนซี่ เพราะฉะนั้นก็แปลว่ามันจะเข้าสู่จุดทึ่เรียกว่า Main steam กลายเป็นหนึ่งใน financial instrument ที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้แค่มีมือถือกับ อินเตอร์เนต มีโอกาสเข้าถึงอย่างเท่าเทียมกันในการลงทุนคริปโต

มีโอกาสมากน้อยแค่ไหน ที่จะนำเอาคริปโต มาใช้จับจ่ายซื้อของในชีวิตได้จริง
 

       ถ้าพูดถึงฝั่งเทคโนโลยี มันทำได้แล้ว สิ่งที่ต้องแก้คือฝั่งของกฎหมาย เรื่องของ ความหมายของคำว่าเงิน ในเมืองไทย เปลี่ยนครั้งสุดท้ายปี 2475  80 ปีมาแล้ว เปลี่ยนความหมายก่อน ถึงจะเอาคริปโตเคอเรนซี่ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนได้ ต้องอัพเดตให้ทันกับยุคสมัยของโลก 100% เกิดขึ้นได้จริง เพราะว่าเรื่องของความยั่งยืนของโลก หากเรายังตัดต้นไม้ทำลายป่า มาทำเงินเป็นกระดาษอยู่  แล้วโลกมันจะอยู่ได้ยังไง ประชากรเพิ่มขึ้นตลอด 1พันล้านคนทุกสิบปี ในเรื่องของความยั่งยืน ยังไงเงินจะเป็นกระดาษต่อไม่ได้แน่นอน เพราะฉะนั้นเงินต้องเป็นดิจิทัล 
 

เรียกความเชื่อมั่นหน่อย ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับ Bitkub ถึงขั้นต้องปลดพนักงาน?

 

       ใน 2 - 3 ปีที่ผ่านมามันเข้าสู่ช่วง Crypto Winter หนักกว่าคือ Global recession ที่ Central Bank ดึงเม็ดเงินออกจากตลาดโดยการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อคุมเงินเฟ้อ ซึ่งรายได้เป็นอะไรที่เราคุมไม่ได้ 100 % ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยภายนอก เช่น อยู่ดีเกิดสงครามรัสเซีย ยูเครน โควิด19 ขึ้นดอกเบี้ย ฯลฯ แต่ทั่วโลก 2 ปีที่ผ่านมาเราจะเห็นว่า บริษัท Tech company จะได้รับผลกระทบเยอะสุด ปลดคนถึง 2 แสนคนทั่วโลก ไม่ต่างกัน

       แต่วงการ คริปโต เกิดเหตุการณ์ Black Swon เข้าไปอีก ก็ล้มหายตายจากไปเพราะไม่มั่นคงพอ ถามว่า Bitkub เรากระทบไหม เราไม่ได้กระทบโดยตรง เพราะเราทุกอย่างถูกต้อง เรามี Infrastructure ที่มั่นคง เราอยู่มานานที่สุดในประเทศไทย แต่ถามว่ากระทบทางอ้อมไหม โดนกระทบทางอ้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราก็ควบคุมไม่ได้ เช่น คนเสียหายจาก ftx luna ซึ่งไม่ใช่ความผิดเรา เมื่อคนเสียหาย คนก็เทรดน้อยลง หรือเอาในวงการหุ้นยกตัวอย่างเช่น เฟดขึ้นดอกเบี้ย คุมเงินเฟ้อ ตลาดหุ้นก็ All - time low มันก็ไม่ใช่ความผิดของหลากหลายคนในตลาดหลักทรัพย์เหมือนกัน

ทีนี้ผมยังย้ำคำเดิมว่า Bitkub ทำได้ดีมาก เพราะว่าส่วนใหญ่ บริษัท Tech Company 2 ปีที่ผ่านมาอยู่ไม่รอดแล้ว หายไปแล้ว แม้แต่ในไทย แต่ Bitkub เรายังยืนแกร่ง ตอนนี้ก็ยังเป็น Infrastructure หลักของคนไทย

        และที่เราปรับลดคน จริงๆเราไม่ได้ลดคนเพราะกระทบทางอ้อม แต่มันเป็นการปรับเปลี่ยนด้วย เพราะเราโต 1,000 % ติดกัน 3 ปี ปีที่ 4 โต 2000 % จาก 200 คน เป็น 2,000 คน ใน 1 ปี แปลว่า 12 เดือนเรารับ 2,000 คน หนึ่งเดือนเฉลี่ย 200 คน มันไม่มีทางที่จะรับคนถูกต้อง 100 % ถือโอกาสเพื่อคัดคนที่ใช่ เขาเรียกว่าปรับฐานให้ฐานยั่งยืนมากขึ้น

คำแนะนำ นักเทรดมือใหม่?

ควรศึกษาสิ่งที่เราจะเข้ามาลงทุนให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ อย่าฟังเพื่อนมา อย่าทำตามเพื่อนทุกคนจะเรียนรู้ในเรทความเร็วทีต่างกันและเรื่องของ Money Management สำคัญมาก ไม่ควรไปกู้มาขายบ้าน กู้มาลงทุนไม่แนะนำเลย ขายบ้าน ขายรถมา ไม่แนะนำเลย ต้องรู้จักการกระจายไข่ในหลายตระกร้า นั่นเอง

 

       ฟัง คุณท๊อป พูดแล้วมีความหวัง แต่สุดท้ายจ๊ะโอ๋ต้องบอกว่า การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยงแต่การลงทุนอย่างหนึ่งที่ดีที่สุด คือ การลงทุนกับความรู้ เช่น ชมคลิปด้านบนของเรา ลองกระจายความเสี่ยงดูอย่าลงทุนในสินทรัพย์เพียงอย่างเดียว เพราะโอ๋ก็ต้องขอเตือนว่า คริปโตเคอเรนซี่ ถือเป็นการลงทุนที่ความเสี่ยงอยู่ในระดับที่สูงมากๆ ขอให้ดูความพร้อมของตัวเองก่อน และดูว่าเราเหมาะกับการลงทุนแบบไหน ที่สำคัญ เอาเงินเย็น (เงินที่ถ้าหายไปแล้วไม่เดือดร้อน) มาลงทุนนะ เพราะว่าการลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง แต่ก็หวังว่าความรู้นี้จากปาก คุณท๊อป จิรายุส น่าจะพอเป็นประโยชน์ ให้ทุกคนนำไปประกอบการตัดสินใจได้ ก่อนลงทุนในคริปโตได้ไม่มากก็น้อย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ถอดแนวคิด “ท็อป จิรายุส” นัมเบอร์วันโลกการเงินดิจิทัล

• รวมศัพท์ Defi การเงินดิจิทัลควรต้องรู้ ก่อนจะเทรดคริปโต Bitcoin Eth Mana ADA

• Bitkub (บิทคับ) ใต้ SCBX มีเหรียญไหนน่าซื้อ อนาคตดี ราคาพุ่งอีกบ้าง?