มาไล่เรียงไทม์ไลน์ การฉีดวัคซีนในเด็กนักเรียน อายุ 12 - 17 ปีกันก่อนว่าเป็นอย่างไร หลัง ปลัดศธ. ลั่น ถ้าเป็นตามแผนเตรียมเปิดเรียน On site พร้อมกันทั่วประเทศ 15 พ.ย. นี้
เรียนออนไลน์ ไทยยังไม่พร้อม?
ก่อนหน้านี้มีเสียงสะท้อน จากเด็ก โรงเรียน และนักวิชาการมากมาย ถึงการเรียนออนไลน์เนื่องจากโควิด19 ว่าอยากให้หยุดเรียนไปเลย 1 ปี เพราะการเรียนออนไลน์นั้น มีปัญหามากมายและไม่ได้ประสิทธิภาพ
- น่าเบื่อ
- ใช้ไม่ได้กับทุกวัย
- เครียดมากเกินไป
- ไม่เจอตัว ครูสั่งงานเยอะ
- ถูกกวนสมาธิง่าย เดี๋ยวแม่ เดี๋ยวแมว
- อุปกรณ์ไม่พร้อม ฯลฯ
ทำให้เด็กเรียนไม่รู้เรื่อง สอบไม่ได้ จนมีภาพว่าผู้ปกครอง หรือ คุณยาย ต้องนั่งทำการบ้านแทน สะท้อนว่า การศึกษาของเด็กไทยแบบออนไลน์ขณะนี้ ไร้ประสิทธิภาพแค่ไหนด้าน รมว.ศึกษาธิการ ตรีนุช เทียนทอง ยอมรับ เรียนออนไลน์ไม่ดีเท่าเรียนที่โรงเรียน แต่เป็นระบบที่ทำเพื่อให้การเรียนรู้ของเด็กไม่หยุดชะงัก ท่ามกลางการระบาดของโควิด ซึ่งสิ่งที่จะทำให้เด็กๆ กลับมาเรียนที่โรงเรียนได้ ก็คือ วัคซีน ซึ่ง ต.ค. นี้ถือเป็นความหวัง เมื่อไทยได้ทยอยรับ วัคซีนที่ยอมรับให้ใช้ในเด็ก 12 - 17 ปีได้ แบบไฟเซอร์เข้ามา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ไทม์ไลน์ เริ่มฉีดวัคซีนในนักเรียน
2 กลุ่ม คือ
- อายุ 12 - 17 ปี 11 เดือน 29 วัน
- เรียนอยู่ระหว่าง ม.1 - ม.6 ปวช ปวส หรือ เทียบเท่า
10 - 17 กันยา
- โรงเรียนรวมรายชื่อ จำนวนนักเรียน
- ศธ สธ สธ.จังหวัด สถานศึกษา ทำความเข้าใจร่วม
17 - 22 กันยา
- โรงเรียน ประชุม ผู้ปกครอง นัดแนะ ทำความเข้าใจก่อนฉีด
21 - 24 กันยา
- ผู้ปกครอง เซ็นยินยอม ให้นักเรียน ฉีดวัคซีนไฟเซอร์
25 - 26 กันยา
- โรงเรียน นำส่งรายชื่อนักเรียนที่จะฉีดแก่ ศธ.จังหวัด และส่งถึง สธ.จังหวัด
28 - 30 กันยา
- สธ.จังหวัด วางแผนการฉีดแต่ละโรงเรียน
1 ตุลา
- โรงเรียนรับทราบแผนการฉีด จัดเตรียมสถานที่
4 ตุลา
- เริ่มจิ้มเข็มแรก ห่างกัน 3 - 4 สัปดาห์ ทยอยฉีดเข็ม 2 ให้ครบภายใน 15 พ.ย.
- นำร่องฉีดใน 29 จังหวัดสีแดงเข้ม ก่อนกระจายทั่วประเทศ 4.5 ล้านคน
15 พ.ย. เปิดเรียน On site
นายสุภัทร จำปาทอง ปลัด สธ. ระบุ
“ ภายใน 15 พ.ย. สถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ สังกัดคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) เปิดเรียนแบบ ON SITE ได้ 100% ทั่วประเทศ”
นั่นแปลว่า หากการฉีดวัคซีนเป็นไปตามแผน มีโอกาสที่หลายจังหวัดจะได้เปิดเทอมในวันที่ 15 พ.ย. นี้
ถ้าจะเปิดเรียนให้ปลอดภัย
ต้องยึดหลัก Sandbox Safety Zone in School 7 มาตรการ
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ระบุ
1. สถานศึกษาประเมินความพร้อมเปิดเรียนผ่าน TSC+
2. ทำกิจกรรมร่วมกันในรูปแบบ Small Bubble ในรร.สีแดง แดงเข้ม
3. อาหาร สะอาดตามหลักสุขาภิบาล
4. ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมให้ได้มาตรฐาน เช่น ระบบการระบายอากาศ การทำความสะอาดคุณภาพน้ำ และ การจัดการขยะ
5. เตรียมแผน School Isolation แผนเผชิญเหตุ หากพบผู้ติดเชื้อ
6. ดูแลการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน (Seal Route)
กรณีรถรับ-ส่งนักเรียน รถส่วนบุคคล และพาหนะโดยสารสาธารณะ
7. จัดให้มี School Pass นักเรียน ครู และบุคลากร จะเป็นข้อมูล เช่น ผลตรวจ ATK ภายใน 7 วัน ประวัติรับวัคซีน เพื่อความปลอดภัยเวลาเข้าออกโรงเรียน