วานนี้ 27 ส.ค. ศบค.พิจารณา คลายล็อกปรับลด มาตรการต่างๆให้ภาคธุรกิจ ร้านอาหาร กลับมาเปิดได้อีกครั้ง เนื่องจากผู้ติดเชื้อลด งานนี้เสียงแตก ผู้ประกอบการขานรับ แต่หมอและนักวิชาการเตือน อาจเกิดwave5 นั่งทานในร้านเสี่ยงแพร่เชื้อ ประชาชนต้องรู้ข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันตัว
ขณะนี้ทั่วโลกยอมรับว่า เรายังไม่สามารถเอาชนะโควิด19 ได้ คำถามสำคัญคงไม่ใช่จะเอาชนะโควิดอย่างไร แต่อาจคือเราจะอยู่ร่วมกับโควิดอย่างไร แม้ว่าจะยังมีผู้ติดเชื้อแต่ต้องทำให้ทั้งสาธารณสุข และ เศรษฐกิจ สามารถเดินควบคู่กันไปกันด้วย แต่ต้องลดยอดผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยหนักลงให้ได้ แน่นอนว่าหากคลายล็อกย่อมมีทั้งคนที่เห็นด้วย และ คัดค้าน
ข้อมูลจากหลายประเทศ ที่จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงเมื่อล็อกดาวน์เข้ม แต่พอคลายล็อกยอดผู้ติดเชื้อพุ่งจนต้องล็อกซ้ำ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส แม้แต่อเมริกา ล่าสุด อิสราเอล ยืนยันแล้วว่า แม้จะมีการฉีด mRNA จนเกิดภูมิคุ้มกันในประชากร แต่ยอดผู้ติดเชื้อก็พุ่งอีกครั้งแสดงให้เห็นว่า แม้วัคซีนที่เป็นที่มีประสิทธิภาพต่อเชื้อเดลต้ามากสุด ก็ไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ ถ้าหากคลายมาตรการควบคุมโรค หากวันนี้ประเทศไทยจะเริ่มคลายล็อก ประชาชนควรรู้อะไรบ้าง เพื่อป้องกันตัวเองให้เท่าทัน
คลายล็อก 1 ก.ย. นี้อะไรบ้าง?
1. การยกระดับมาตรการตามหลัก COVID-Free Setting และ Universal Prevention ให้เหมาะกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
2. การเปิดกิจการ/กิจกรรม สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ได้แก่
- เคอร์ฟิว 21.00-04.00 น.
- เดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่เมื่อมีเหตุจำเป็น
- สื่อสารให้ผู้ที่มีประวัติเสี่ยง หรือผู้ติดเชื้อ เดินทางตามโครงการรับคนกลับบ้าน/รับผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา
- ระบบขนส่งสาธารณะ ผู้โดยสาร ไม่เกิน 75 %
สวมหน้ากากตลอดเวลา ห้ามรับประทานอาหาร
- หากเดินทางระยะไกล ควรแวะพักทุก 2- 3 ชั่วโมง
- การกำกับติดตามมาตรการโดยผู้ประกอบการ คมนาคม และ สำนักงานการบินพลเรือน
ร้านอาหาร
- ไม่มีเครื่องปรับอากาศ นั่งรับประทานได้ 75% ความจุ
- ร้านอาหาร มีเครื่องปรับอากาศ ให้นั่งรับประทานได้ 50 %
ห้างสรรพสินค้า เปิดได้ ถึง 20.00 น.
- ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม เฉพาะตัดผม 1 ชั่วโมง
- ร้านนวดเท้า
- คลินิกเสริมความงาม เปิดขายสินค้าเท่านั้น
-ร้านอาหาร เปิดได้ เงื่อนไข ร้านที่มี เครื่องปรับอากาศ
*กลุ่มที่ 2 ยังไม่เปิด
สถาบันกวดวิชา - โรงภาพยนตร์ - สปา - สวนสนุก สวนน้ำ - ฟิตเนส ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ ห้องจัดประชุม/จัดเลี้ยง
สถานศึกษา
ใช้อาคารของสถานศึกษาได้ เป็นไปตามหลัก กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุดมศึกษาฯ และกระทรวงสาธารณสุขกำหนด
สนามกีฬา
สวนสาธารณะ ร่มแต่โล่งแจ้ง เปิดได้ถึง 20.00 น.ไม่มีแอร์ ไม่มีผู้ชม จำกัดจำนวน และไม่ให้รวมกลุ่ม ตาม คกก.ควบคุมโรคจังหวัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ร้านอาหารเฮ ขานรับ Covid free ต่อลมหายใจ
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า ภาคธุรกิจ พร้อมขานรับมาตรการ 3 ส่วน คือ สถานที่ปลอดภัย พนักงานปลอดโรค และ ลูกค้าปลอดเชื้อ ร้านไหนผ่าน จะได้สัญลักษณ์ ไทย สต๊อป โควิด เชื่อว่าการคลายล็อกนี้จะทำให้ภาคธุรกิจฟื้นตัวเร็ว หลังล้มหายไปนับแสนร้าย เพราะประชาชนอยากออกจากบ้านอยู่แล้ว
ฝั่งหมอ และ นักวิชาการค้าน
แน่นอนว่ามุมตรงข้ามเศรษฐกิจ ก็คือมุมสาธารณสุขหากกิจกรรมใดที่จะส่งผลต่อยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ย่อมถือว่าเสี่ยง
อ.สันต์ เตือนจะเกิด WAVE5
หากคลายล็อกแบบชิงสุกก่อนห่าม
อาจารย์สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง’ อาจารย์พิเศษ(นิด้า) โพสต์ถึง สถานการณ์ระบาดในไทยมีข่าวดี ชี้ชัดตอนนี้ กราฟผู้ติดเชื้อเริ่มเป็นขาลง แต่การสู้กับเชื้อเดลต้า หากจะบอกว่าดีขึ้นแล้วพร้อมคลายล็อก ยังเร็วเกินไป เหมือนรีบชิงสุกก่อนห่าม ทั้งที่วัคซีนก็ยังฉีดไม่พอ พ.ย.-ธ.ค. เสี่ยงเกิด Wave#5 ติดเชื้อเพิ่มอีกเป็นล้าน New Case ต่อวัน 5,550 คน อดฉลองปีใหม่ เพราะต้องมา Lockdown อีกรอบ ที่ทำมาคือเสียเวลาเปล่า
แนะคลายล็อก พ.ย. รักษาตัวเลขผู้ติดเชื้อขาลงได้ต่อเนื่อง New Case ต่อวัน 850 คน เปิดเรียนได้ ฉีดวัคซีนเพียงพอ ไม่น่าจะเกิด Wave#5 ให้ต้องเหนื่อยกันอีกแล้ว
หมอธีระ ย้ำ นั่งทานในร้านไม่ปลอดภัย
ติดเชื้อเพิ่ม ใน 60 วัน
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุ 27 สิงหาคม 2564...
ติดเชื้อใหม่ 18,501 คน สูงเป็นอันดับ 12 ของโลก
แต่หากรวม จาก (ATK) จะเป็น20,828 คน อันดับ 9 ของโลก รัฐจำเป็นต้องรายงานทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนทันต่อสถานการณ์และใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสม
กิจกรรมใดหากมีคนอยู่ร่วมกันย่อมเสี่ยง WHO ยัน โควิด-19 ติดได้ผ่าน ละอองลอย ในอากาศ ยาวนานกว่าครึ่งวัน แม้ไม่มีคน เพราะฉะนั้นการเปิดร้านอาหารให้นั่งกินถือเป็นความเสี่ยง เสี่ยงทั้งต่อตัวผู้ประกอบกิจการ คนทำงาน และลูกค้า ถ้าเหมือนต่างประเทศ ไทยจะเห็นเคสติดเชื้อเพิ่ม ใน 41-100 วัน แต่อาจเร็วกว่านั้น ถ้าเปิดหลายกิจการพร้อมกัน
สุดท้ายผู้เขียนหวังว่า ไม่ว่ารัฐจะพิจารณาคลายล็อกแค่ไหน ประชาชนทุกคนมีส่วนป้องกันตัวเองได้ การออกจากบ้านทุกครั้งยังคงเป็นความเสี่ยงในการติดเชื้อ ลองพิจารณาข้อมูลให้รอบคอบ เพื่อตัดสินใจดูว่าจะใช้ชีวิตท่ามกลางโควิด19ให้ตัวเองปลอดภัย หวังว่าการคลายล็อกของศบค. จะเป็นการตัดสินใจอย่างถี่ถ้วน รอบคอบ และรอบด้านที่สุดเพื่อผลดีดังหวัง แต่หากถามว่า ควรคลายล็อกดีไหม? คงแล้วแต่ว่าใครมอง แต่เชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนกลัวตรงกันคือ หากคลายล็อก เปิดร้านรวงแล้วยอดผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่ง รัฐจัดการไม่ไหว (อีกครั้ง) ต้องมานั่งปิดใหม่อีกรอบ แบบนี้ประชาชนรับไม่ไหวแน่นอน