จากคดีผู้กำกับโจ้ กับพวกใช้ถุงคลุมหัวผู้ต้องหาจนเสียชีวิต หนึ่งประเด็นสงสัย คือ ใบรับรองการตายของเหยื่อ ออกโดยรพ.สวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์ ระบุว่า ผู้ต้องหาเสียชีวิตจากพิษของแอมเฟตามีน ไม่ใช่ร่องรอยการถูกทำร้าย เอกสารนี้มีผลทางคดีหรือไม่?
ใบรับรองการตายของผู้ต้องหาคดียาเสพติด ของ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์
อัพเดต : ผบ.ตร.ลงดาบ 6 ตำรวจ ร่วมก๊วน "ผู้กำกับโจ้" ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
โจรในคราบเครื่องแบบที่ไม่ธรรมดา
คดี "ผู้กำกับโจ้" หรือ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ใช้ถุงคลุมหัวรีดเงินจากผู้ต้องหาจำนวน 2 ล้านบาทจนผู้ต้องหาเสียชีวิต กำลังถูกวิพากย์วิจารณ์มากมาย หลายแง่มุม ตีแผ่อีกหนึ่งเรื่องราวฉาว ของวงการสีกากีไทย งานนี้เรียกว่า ตัวเล็ก ตัวใหญ่ได้หนาวๆร้อนๆ ตามๆกัน เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ที่รับไม่ได้ นายกฯสั่งฟันไม่เว้น แต่พอเรื่องแดงงานเข้า ผกก.โจ้รัวๆ ก็ไม่ได้มีแค่เรื่องในคลิปฉาว แต่ทั้งสื่อและโซเชียลพากันขุดวีรกรรมในอดีตมากมายว่า เช่นว่า เป็นไฮโซ คบดารา หรือ คนในวงการหลายคน ร่ำรวยอู้ฟู่ผิดปกติครอบครองรถหรูหลักสิบล้าน หลายสิบคัน! ทั้งยังมีแชทหลุดกับอดีตแฟนดาราสาวว่า มีนอมินี ถือเงินให้กว่า 200 ล้าน!! อุบร๊ะ ยิ่งสาวยิ่งเจอไม่ธรรมดาจริงๆ!
ความคืบหน้าทางคดี
ผกก.โจ้ พร้อมพวก โดนตั้งข้อหาหนักถึง 3 ข้อหา โดยเฉพาะร่วมฆ่า ซึ่งโทษสูงสุดประหารชีวิต ดูเหมือนโจ้จะรู้ชะตากรรมตัวเองดี แผ่นแนบหายตัวไปอย่างไร่ร่องรอย ตั้งแต่ 23 ส.ค. 64 ที่ผ่านมาโดยมีรายงานว่าพบแถวๆ ชายแดนจังหวัดตาก จากนั้นไม่พบตัวอีก
ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ ผกก.โจ้ ออกจากราชการเรียบร้อย ตอนนี้กำลังเร่งตามตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกระบวนการนี้อีก 3 คน ได้ตัวแล้ว 4 คน
ใบรับรองการตาย ไม่ตรงกับคลิป!
อีกเรื่องที่สังคมคาใจ คือ หลักฐานทางการแพทย์ที่ไม่สอดคล้องกับความจริง ใบรับรองการตาย ของผู้ต้องหาเหยื่อโจ้ ที่แพทย์ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ลงในวันที่ 6 ส.ค. ระบุ สัณนิฐานว่าเกิดจากพิษของแอมเฟตามีน (สารเสพติดที่พบในร่างกายผู้ตาย) แต่ มันขัดแย้งกับเรื่องราวในคลิป ที่ผู้ตายถูกถุงคลุมหัวจนน็อค จนทำให้สังคมสงสัยว่า หมอลงแบบนั้นเพราะอะไร? ผิดจรรยาบรรณแพทย์หรือไม่? และใบรับรองการตายนี้ถือเป็นหลักฐานทางคดี ที่จะทำให้โทษโจ้เบาลงหรือไม่?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
หนังสือรับรองการตาย ไม่ใช่ใบชันสูตรศพ
แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์
อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม อธิบายว่า ปกติการตรวจสอบการตายผิดธรรมชาติ แพทย์ต้องหาสาเหตุ 3 อย่าง
การตาย พฤติการณ์ และกลไก เพื่อออกใบรับรองการตาย ให้ญาตินำไปออกใบมรณะบัตรเก็บสถิติแต่ในทางนิติเวชยังต้องผ่าศพใช้เวลาอย่างละเอียด
กรณีนี้ใบรับรองดังกล่าวไม่ใช่ใบชันสูตร
สอดคล้องกับข้อมูลจาก ศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี ผู้เชี่ยวชาญงานนิติเวช ม.ศรีนครินทร์วิโรฒน์ ระบุใน รายการโหนกระแส ว่า ใบรับรองการตาย ไม่ใช่ ใบชันสูตร เป็นแค่เอกสารที่ออกโดยกระทรวงมหาดไทย ใช้ให้ญาตินำไปออกใบมรณะบัตรเพื่อดำเนินการด้านฌาปนกิจกับวัดเท่านั้น ไม่มีผลทางคดี จากนี้หมอจะมีการชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง
โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ แจงด่วน
ที่มาหนังสือรับรองกายตาย
เมื่อวานนี้ 25 ส.ค. โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ได้ออกหนังสือชี้แจงถึงประเด็นนี้ โดยเล่าไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ดังนี้
5 สิงหาคม ช่วงค่ำผู้ต้องหาถูกส่งตัวมาจาก รพ. ปริ้นส์ปากน้ำโพ
6 สิงหาคม ช่วงบ่ายผู้ต้องหาเสียชีวิต ทราบประวัติจากตำรวจว่า ผู้ตายวิ่งหนีตำรวจที่จับยาแล้วล้มลงหมดสติ
7 สิงหาคม กลุ่มงานนิติเวชผ่าศพเบื้องต้นและออกใบรับรองการตาย สันนิษฐานว่า พิษจากสารแอมเฟตามีน เนื่องจากตรวจพบในปัสสาวะ
ขณะนี้รอผลตรวจระดับสารเมทแอมเฟตามีนในเลือดและผลการชันสูตรพลิกศพทั้งหมดเพื่อทำรายงานการชันสูตรฉบับสมบูรณ์ คาดว่าเสร็จสัปดาห์หน้า
หนังสือรับรองการตาย หลังการผ่าพิสูจน์
เป็นแค่ข้อมูลขั้นต้น ให้ญาติไปทำใบมรณะบัตร
รายงานการชันสูตรพลิกศพ จะมีผลตรวจละเอียดกว่า จะทำให้สรุปสาเหตุ การตายได้ถูกต้องแม่นยำ
ทำไมหมอเขียนแบบนั้น?
เราคงไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่า เหตุการณ์ ณ ขณะนั้นเกิดอะไรขึ้นจริง แต่จากข้อมูลที่ได้รับการรายงานมาระบุว่า หลังแพทย์นิติเวช ได้รับร่างผู้ต้องหา ได้ทำการชันสูตรเบื้องต้นตามกระบวนการ พบสารเสพติดแอมเฟตามีนในร่างกายผู้ตายจริง และไม่พบบาดแผลภายนอกร่างกายของผู้ตาย ดูสอดคล้องกับข้อมูลของตำรวจที่มาส่งร่างว่า ผู้ตายเสพยาเกินขนาด ซึ่งคำให้การของตำรวจโดยอาชีพคือน่าเชื่อถือ ซึ่งเมื่อวานจากในรายการโหนกระแส มีรายงานว่าทางตำรวจที่ส่งเคส ได้ร้องขอให้หมอ ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากสารเสพติดด้วยเนื่องจาก ผู้กำกับอาจไม่สบายใจ (แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้รับคำยืนยันจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์แต่อย่างใด)
จากข้อมูลทราบว่าหลังจากนั้นแพทย์นิติเวชได้ทำการ ชันสูตรร่างดังกล่าวอีกครั้งอย่างละเอียด เพื่อทำเป็น รายงานการชันสูตรฉบับสมบูรณ์
เราคงต้องรอดูว่า สุดท้ายสาเหตุการตายของผู้ต้องหาเหยื่อผู้กำกับโจ้รายนี้ คืออะไรในสัปดาห์หน้าจากรายงานผลชันสูตรฉบับสมบูรณ์ ที่เตรียมใช้ทางคดี เพื่อจะดูต่อว่าสอดคล้องกับความเห็นแพทย์ในใบรับรองการตายหรือไม่ มีรายงานว่าทางแพทยสภาทราบเรื่องแล้ว และอาจมีการตรวจสอบเรื่องนี้ ว่าผิดจรรยาบรรณแพทย์หรือไม่? เพราะไม่ใช่แค่สังคมคาใจ แต่หากมีการกระทำฉ้อฉลกลในแบบนี้ในทุกแวดวงวิชาชีพ ไม่อยากคิดว่าสังคมและกระบวนการยุติธรรมจะเละ ไม่เป็นท่าขนาดไหน แต่หากไม่ใช่ ก็ต้องตรวจสอบเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้สังคมหายคาใจนั่นเอง