อาถรรพ์ของมัมมี่โบราณบนเรือไททานิค มีอยู่จริงไหม? วันนี้ 15 เม.ย. ครบรอบ 109 ปี วันที่เรือ ไททานิค จมลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก โศกนาฏกรรมที่ยังคงถูกกล่าวถึงเสมอแม้ผ่านไปเป็นร้อยปี วันนี้โอ๋ขอรวบรวม 4เรื่อง ที่ไม่ได้ถูกกล่าวเอาไว้ในภาพยนตร์มาฝากกัน
รู้จัก ไททานิค จริงๆกันก่อน
ไททานิค (TITANIC) เรือเดินสมุทรของ บริษัท ไวท์ สตาร์ ไลน์ ออกเดินทางเที่ยวแรกและเที่ยวสุดท้าย จากเมืองเซาแธมป์ตัน อังกฤษ สู่ มหานครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 10 เมษายน ปี 1912 โดยมีผู้โดยสารและลูกเรือร่วมเดินทางกว่า 2,200 ชีวิต ใช้เวลาในการต่อเรือถึง 2 ปี แต่กลับใช้เวลาเพียง 2ชม. 40 นาที หลังชนภูเขาน้ำแข็ง ก่อนจมลงสู่ก้นบึ้งของมหาสมุทรตลอดกาล วันนี้โอ๋มีเรื่องราวที่ภาพยนตร์ชื่อเดียวกันนี้ ไม่ได้กล่าวเอาไว้เกี่ยวกับ ไททานิค ทั้งเรื่องจริงและเรื่องเล่ามาฝาก เดี๋ยวโอ๋สรุปให้
ว่ากันว่าบนเรือไททานิคนอกจากบรรดาผู้โดยสารและลูกเรือที่มีชีวิต ได้บรรทุก โลงพระศพของเจ้าหญิง อาเมน - รา แห่งราชวงศ์อียิปต์โบราณเอาไว้ด้วย(แต่ก็ไม่มีหลักฐานยืนยัน) พระองค์มีพระชนม์ชีพราวๆ 1,500 ปี ก่อนคริศตกาล พระศพของพระองค์ถูกบรรจุลงในโลงไม้ ฝังอยู่ในสุสานหลวง ลักซอร์ริมแม่น้ำไนล์ มีเสียงเล่าอ้างว่า ผู้ใดที่เกี่ยวข้อง หรือ ครอบครอง มักมีเหตุอันเป็นไป ประหลาด น่าสยดสยอง และความบังเอิญที่ว่านี้ เกิดขึ้นกับ เรือไททานิคด้วย ที่มาของโลงพระศพไม้ดังกล่าวมีแบบนี้
2.สตรีผู้มีตัวตนจริงๆจากเรือง ไททานิค
ถ้ารู้จักไททานิค ก็ต้องรู้จักเธอคนนี้ มากาเร็ต (มอลลี่) บราวน์ สตรีผู้รอดชีวิตที่กล้าหาญเยี่ยงชายชาตรี
อย่างที่รู้กันว่าปี 1900 ต้นๆ ผู้หญิงยังไม่ค่อยถูกนับหน้าถือตาในสังคมเท่าไหร่นัก แต่ไม่ใช่กับเธอคนนี้ เธอเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิต 710 ราย เนื่องจากมีสติพอจะสวมชูชีพ สวมเสื้อผ้าอบอุ่น และไปขื้นเรือบดทันทีที่ได้รับการแจ้งเตือน โดยไม่ได้ห่วงทรัพย์สินบนเรือเลย นอกจากนี้เธอยังให้กำลังใจคนรอบตัวที่อยู่ในอาการตื่นตระหนก และเธอได้รับการยกย่องว่าเป็นสตรีที่มีความกล้าหาญ ด้วยนิสัยเด็ดเดี่ยวของเธอ กล้ามีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ที่พายเรือชูชีพ เพราะต้องการให้เรือกลับไปช่วยผู้โดยสารคนอื่นที่ลอยกลางทะเลน้ำแข็ง
หลังจากรอดชีวิตจากเรือไททานิค เธอยังคงทำงานเพื่อสังคมมากมาย จนได้รับรางวัล Legion of Honor ในปี 1932 จากการทำงานช่วยเหลือผู้รอดชีวิตไททานิก นิสัยเธอน่ายกย่องมาก ไม่ใช่คนที่ใช้เงินอย่างคนรวย แต่ใช้เงินไปกับการช่วยสังคมและแสวงหาความรู้เสมอค่ะ
3.ฉายาที่โอหัง นำมาสู่โศกนาฏกรรม (เรือที่ไม่มีวันจม Unsinkable)
ใครจะไปรู้ล่ะว่า ไททานิค กับฉายาว่า เรือที่ไม่มีวันจม จะเป็นเหตุทำให้เกิดความชะล่าใจต่างๆมากมาย ซึ่งได้มาจาก เจ. บรูซ อิสเมย์ ประธาน บริษัท ไวท์ สตาร์ไลน์ ซึ่งเป็นเจ้าของเรือไททานิคนั่นเอง โดยอิสเมย์ สั่งให้ลดเรือบดชูชีพบนเรือลงเพราะมันบดบังวิว ทั้งยังสั่งกัปตันให้เร่งเครื่องอย่างเต็มพิกัดเพื่อที่จะได้ไปถึงนิวยอร์คก่อนกำหนดจะได้ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งอย่างยิ่งใหญ่เพื่อการแข่งขันทางธุรกิจ ทั้งที่มีการแจ้งเตือนเรื่องระวังภูเขาน้ำแข็งอย่างต่อเนื่อง (ซึ่งก็ได้กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งจริงๆ)
4. ไททานิคจมเพราะพนักงานส่งโทรเลข
ไม่ใช่ความผิดทั้งหมดแต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในความชะล่าใจ ลองคิดดูว่าเมื่อบุคคลสำคัญ มหาเศรษฐี นักธุรกิจ ต้องมากิน อยู่ หลับ นอน บนเรือนานเกือบเดือน การติดต่อสื่อสารกับบริษัทบนฝั่ง ต้องใช้โทรเลขเป็นหลัก ซึ่งพนักงานโทรเลขบนเรือหมดเวลาไปกับบริการนี้ จนการติดต่อเพื่อแจ้งเตือนภัยจากเรือลำอื่นๆถูกละเลย
ในวันเกิดเหตุมีข้อมูลว่า ไททานิค ได้รับโทรเลขเตือนเรื่องภูเขาน้ำแข็งที่ลอยอยู่บริเวณใกล้เคียง ถึง 7 ฉบับ!!! แต่ไม่มีใครว่างพอจะสนใจมัน จนหัวค่ำเรือโดยสารแคลิฟอร์เนียเข้าไปติดอยู่ในวงล้อมของภูเขาน้ำแข็ง และหวังดีส่งโทรเลขแจ้งไททานิคที่ตามมาติดๆ แต่อนิจจาโทรเลขฉบับนี้ไม่ถึงมือกัปตันจนมันสายเกินแก้ได้
เรื่องราว ไททานิค เป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่นอกจากความอาลัยต่อการสูญเสีย เราอาจต้องขอบคุณเหตุการณ์ในครั้งนั้นที่เป็นบทเรียนสำคัญให้มนุษย์ เลิกประมาท เลิกจองหอง และทำให้เกิดการปรับปรุง พัฒนา ระบบรักษาความปลอดภัยทางทะเลให้ดีขึ้นอย่างในปัจจุบัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 109 ปีไททานิคล่ม : ตัวละครแห่งยุค"แจ็ค-โรส" มิตรภาพสวยงามในชีวิตจริง
- หนัง-ซีรี่ย์แนวเชื้อโรคระบาดแนะนำช่วงกักตัวโควิด : ใครไม่ดูถือว่าพลาด
- คนท้อง ติดโควิด19 อันตรายแค่ไหน?
- เปิดรายชื่อ จังหวัดที่ต้องกักตัว 14 วัน เช็กก่อนเดินกลับบ้านสงกรานต์