ผลการศึกษาการฉีดวัคซีนไฟเซอร์กับเด็กอายุ 5-11 ปีในสหรัฐ พบว่ามีสัญญาณที่ดี โดยในการทดลองเฟส 2 กับเด็กจำนวน 2,268 คน พบว่า มีความปลอดภัย มีภูมิต้านทานสูงขึ้นตามเวลา แม้จะมีผลข้างเคียงอยู่เล็กน้อย
บริษัทผลิตวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) เปิดเผยข้อมูลว่า ผลการทดลองการใช้วัคซีนเฟส 2 จากทั้งหมด 3 เฟส พบว่า วัคซีนโควิดไฟเซอร์ ซึ่งเป็นวัคซีนmRNA มีความปลอดภัย และสร้างภูมิคุ้มกันสูงให้เด็กอายุระหว่าง 5-11 ปี
.
สำหรับ การศึกษาครั้งนี้ เก็บตัวอย่างจากเด็กสหรัฐ ที่มีช่วงอายุ 5-11 ปี มากกว่า 2,000 ตัวอย่าง โดยใช้การฉีดวัคซีนไฟเซอร์แบบ 2 เข็ม ห่างกัน 21 วัน ทั้งนี้ ปริมาณวัคซีนที่ฉีดให้เด็กเล็ก จะลดขนาดเหลือ 10 ไมโครกรัมต่อเข็ม น้อยกว่าปกติ 30 ไมโครกรัม ในผู้ใหญ่และเด็กโต หรือ 1 ใน 3 ของโดสที่ผู้ใหญ่ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"โจ ไบเดน" ใกล้ปิดดีลซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 500 ล้านโดส แจกทั่วโลก
CDC เผยวัคซีนโควิด-19 ประสิทธิภาพ โมเดอร์นา เหนือกว่า ไฟเซอร์และจอห์นสัน
ยูนิเซฟขอทั่วโลกเปิดโรงเรียน เหตุโควิด ทำเด็ก 77 ล้านเจอผลกระทบ อดเรียน
ผลการศึกษาในภาพรวมที่ออกมาคือกลุ่มตัวอย่างปลอดภัยดี และมีภูมิต้านทานต่อไวรัสที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลา
ถึงอย่างนั้น การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กๆ ในกลุ่มนี้ ก็พบว่า มีผลข้างเคียงในระดับที่รับได้ ที่คล้ายกับกลุ่มผู้ใหญ่ เช่น อาการปวดหัวและมีไข้ อยู่บ้าง.
.
ทั้งนี้ ในบางประเทศ เริ่มมีการใช้วัคซีนโควิด-19 กับผู้ที่มีอายุอยู่ในกลุ่มช่วงวัยรุ่นแล้ว ที่มากกว่า 12 ปีมาแล้ว อาทิ สหราชอาณาจักร เป็นต้น
ปัจจุบัน องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA อนุมัติฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ให้เด็กอายุ 16 ปีขึ้นไป และอนุญาตให้ใช้กับเด็กอายุ 12-15 ปีตามเงื่อนไขต่าง ๆ ขณะที่ผลการทดสอบท้ายสุด จะรวมถึงผลการฉีดวัคซีนในทารก 6 เดือนด้วย โดยคาดว่า จะประกาศผลการทดลองได้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้