โควิดสายพันธุ์เดลต้า ทำ ธุรกิจสายการบิน จีน-สหรัฐชะงัก ยุโรปแค่ฟื้น-ทรงตัว

พิษโควิด-19 จากโควิดสายพันธุ์เดลต้า เล่นงานเศรษฐกิจและธุรกิจไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจสายการบิน ซึ่งถึงแม้ จะมีนโยบาย "วัคซีนพาสปอร์ต" เป็นตัวกระตุ้นการเดินทางและการท่องเที่ยวจากหลายๆประเทศแล้ว แต่ดูเหมือนว่า ธุรกิจสายการบินจะยังอยู่ในวิกฤตต่อไป จากการเปิดเผยของรายงาน บลูมเบิร์ก
.
โดยในรายงาน ระบุว่า ที่สหรัฐ สายการบิน เวสต์เทิร์น แอร์ไลน์ (Southwest Airlines) ต้องเจอกับปัญหาการยกเลิกเที่ยวบิน จำนวนมาก แม้ว่าจะมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นมากกว่าเมื่อปี 2020 แล้วก็ตาม ขณะที่ ประเทศจีน ก็มีปัญหาในธุรกิจสายการบินเช่นกัน เพราะมี ยอดจองตั๋งเครื่องบิน ต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน
.
โดย จอห์น แกรนท์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก OAG (บริษัทให้ข้อมูลและวิเคราะห์การธุรกิจการเดินทาง และสายการบิน) ได้ให้ความเห็นว่า ที่ทุกอย่างต้องเกิดการชะลอตัว นั่นเป็นเพราะโลกยังเจอกับปัญหาโควิดสายพันธุ์เดลต้า ระบาดหนักนั่นเอง "ในทุกๆโอกาสที่ธุรกิจนี้จะฟื้นตัวได้นั้น กลับถูกโควิดสายพันธุ์เดลต้าทำลายพังเสียหมด!"
.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ส่อง ล็อกดาวน์ นิวซีแลนด์ ในขณะที่โควิดเดลต้าเริ่มคืบคลาน

• สหรัฐ อนุมัติวัคซีนไฟเซอร์เต็มรูปแบบ ส่งผลดี เอกชนจัดซื้อเองได้

• ตีแผ่แง่มุม ทุกมิติ : ตัวละครหญิงสุดแสนลำบาก จากภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์

นั่นหมายความว่า การระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้า ทำให้นักท่องเที่ยวขาดความมั่นใจในการเดินทาง และส่งผลกระทบต่อธุรกิจสายการบินโดยตรง
.
อย่างไรก็ตาม ถือว่ายังมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เล็กๆ เพราะมีสัญญาณในเชิงบวกเล็กๆ จากธุรกิจสายการบินในทวีปยุโรป เพราะว่าในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา ตัวเลขของธุรกิจการบิน เริ่มฟื้นขึ้นมาบ้าง และมีตัวเลขของการเดินทางของนักท่องเที่ยวแตะถึง 80% เมื่อเทียบจากตอนช่วงเวลาก่อนเกิดโควิด-19 ระบาดทั่วโลกด้วย

.

ด้าน ประเทศจีน ต้องเจอกับการชะงักตัว โดยมีการจัดการไฟลท์บินทั้งสิ้น 360,509 ถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุด นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งนั่นก็เป็นเพราะในประเทศจีนมีการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้าอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง
.
ส่วนที่ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์  ธุรกิจสายการบินยังถือว่ายังห่างไกลจากคำว่าฟื้นตัว เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศยังอยู่ในมาตราการล็อกดาวน์โควิด-19 อยู่ นั่นเอง  อย่างไรก็ตาม ทุกๆธุรกิจสายการบินทั่วโลก ยังอยู่ในภาวะติดลบ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนการเกิดโควิด-19