ย้อนตำนานโอลิมปิก คริสติน อาร์มสตรอง เหรียญทองจักรยานไทม์ไทรอัล 3 สมัยซ้อน

คริสติน อาร์มสตรองเหรียญทองโอลิมปิก 3 สมัยซ้อน

ทำความรู้จักกับ คริสติน อาร์มสตรอง เป็นอันดับแรกกันก่อน ,คริสติน อาร์มสตรอง ชื่อเธออาจจะมีนามสกุลคล้ายกับแลนซ์ อาร์มสตรอง ยอดนักปั่นจักรยาน จนทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเธอกับแลนซ์ อาร์มสตรอง เป็นสามี-ภรรยากัน แต่ความจริงแล้วทั้งคู่ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆเลย เป็นเพียงนักกีฬาจักรยานเหมือนกัน

คริสติน อาร์มสตรอง เริ่มเรื่องราวการเป็นตำนานบทแรก จากการเป็นตัวแทนทีมชาติสหรัฐ คว้าแชมป์เหรียญทองโอลิมปิกจักรยานไทม์ไทรอัลหญิง ในโอลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่ง ซึ่ง ณ เวลานั้น เธออายุ 35 ปีแล้ว
.
หากจินตนาการไม่ออกว่า การแข่งขันจักรยานไทม์ไทรอัล มีความโหดร้ายและท้าทายความสามารถของมนุษย์มากเพียงใด อยากให้ลองนึกถึงว่าอัตราการเต้นของหัวใจของนักจักรยานไทม์ไทรอัลจะพุ่งสูงถึงขีดแดงใกล้ความตายเกือบตลอดเวลา ไม่ต่างอะไรกับหัวใจของนักวิ่งระยะสั้นที่ระเบิดพลังกล้ามเนื้อความเร็วสูงในระยะเวลาอันสั้น 10 วิ.ใน 100 เมตร หรือ 20.วิใน 200 เมตร. แต่การแข่ง จักรยานไทม์ไทรอัล หัวใจของนักกีฬาต้องเต้นสุดเพดานแบบนั้นตลอดการปั่น ซึ่งบางสนามอาจจะยาวนานถึงเกือบชั่วโมงเลยทีเดียว!
.
แค่เหรียญทอง 1 เหรียญจากโอลิมปิก 2008 บนวัย 35 ปีซึ่งถือว่ามากเกินพอแล้วสำหรับนักกีฬา...ทำให้คริสติน อาร์มสตรอง ตัดสินใจรีไทร์ออกจากวงการในปี 2009 เพราะตอนนั้นเธอเองก็หมดไฟแล้ว ไฟในการแข่งขันของเธอมันมอดดับลงไปแล้ว เธออยากจะใช้ชีวิตกับครอบครัว รวมถึง 1 ปีให้หลังจากตอนประกาศรีไทร์ เธอก็มีลูกชายที่ชื่อว่า "ลูคัส" ในปี 2010

credit : Olympics

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ฟาน ฟลูเท่น จักรยานหญิงฮอลแลนด์ ผ่านทุกดราม่า ซิวเหรียญทองโอลิมปิก2020 ซะที

• โอลิมปิก 2020 : ย้อนความทรงจำในอดีต พ่อ-ลูก เรดมอนด์ ประคองกอดเข้าเส้นชัยด้วยความเจ็บปวด

• น้องเทนนิส ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก ถึงภูเก็ตแล้ว สุดประทับใจ กราบเท้าคุณพ่อ

เพราะลูก จึงกลับคว้าเหรียญทองที่ 2
.
อย่างไรก็ตาม มันเหมือนมีเสียงหัวใจของจักรยาน เรียกให้คริสติน อาร์มสตรอง กลับมาแข่งอีกครั้ง เพราะในโอลิมปิก 2012 หลังจากที่เธอมีลูกชาย "ลูคัส" ได้ 2 ปี เธอก็กลับมาขึ้นคร่อมบนอานจักรยานอีกครั้ง กลับมาควงขาบนบันไดอีกครั้ง โดยคริสติน อาร์มสตรองเคยบอกว่าที่เธอกลับมาแข่งเพราะ เธอฝันและเห็นภาพตัวเองอยู่เกือบๆทุกเช้าที่ตื่นนอน ภาพนั้นเป็นภาพที่เธอกับลูกชายลูคัส อยู่บนโพเดียมโอลิมปิกด้วยกัน และเธอก็อยากทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้...
.
ในโอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน,คริสติน อาร์มสตรอง กลับมาเป็นตัวแทนสหรัฐลงดวลความเร็วท้าทายมัจจุราชอีกครั้ง บนวัย 39 ปีที่ถือว่าอาวุโสมากๆแล้วในสนามแข่ง แต่เธอก็กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างไร้ที่ติ เธอปั่นจักรยานไทม์ไทรอัลของเธอกดเวลาลงต่ำลงสุด เสี่ยงเป็นเสี่ยงในทุกๆโค้ง เพื่อแลกกับเวลาให้ต่ำลงที่สุด และสุดท้ายผลงานของเธอก็กลายเป็นอันดับ 1 คว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้อีกครั้งอย่างเหลือเชื่อ
.
ภาพบนโพเดียมโอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน ภาพที่เธอสวมกอดกับลูคัส ลูกชาย มันช่างเป็นภาพทรงจำที่น่าประทับใจ และหอมหวานในความทรงจำเหลือเกิน...
.
ภาพฝันที่เธอฝันทุกๆคืน ภาพติดตาที่ตราตึงเธอทุกๆเช้า ที่จะได้เห็นลูกชายอยู่บนโพเดียม รับเหรียญทองโอลิมปิกด้วยกัน...ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจริงแล้วตรงหน้า ทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบแล้ว ในห้วงเวลาอันสุดพิเศษแบบนี้ ไม่มีใครมาพรากมันไปจากเธอได้..วินาทีที่มีแค่ คริสติน อาร์มสตรอง ลูกชายลูคัส และเหรียญทองโอลิมปิก!...และเธอก็ประกาศรีไทร์จากวงการจักรยานอีกครั้ง ทันทีที่ได้วินาทีห้วงที่เธอต้องการ!

คริสติน อาร์มสตรอง กับ ลูคัส ลูกชาย ตอนรับเหรียญทองโอลิมปิก 2012 เป็นภาพฝันที่เป็นจริง

ตำนานเหรียญทอง3 สมัยซ้อนที่ริโอ

แต่เรื่องตำนานบทนี้ มันยังเหลือเชื่อไปกว่านั้น เพราะในโอลิมปิก 2016 ที่ริโอ บราซิล , คริสติน อาร์มสตรอง ขอกลับมาลงแข่งขันจักรยานไทม์ไทรอัลอีกครั้ง ซึ่งมาโอลิมปิกครั้งนี้ เธอมาด้วยวัย 42 ปี (วันแข่งคือวันก่อนวันเกิดของเธอ 43 ปีของเธอแค่ 1 วัน) หลายคนตั้งคำถามมากมายว่า เธอจะมาเสี่ยงทำไม ? บนวัย 42 ปี ที่ต้องมาส่งคำท้าทายกับความตายบนจักรยานที่มีความเร็วสูง เหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยก็น่าจะสวยงามมากพอแล้วกับชีวิต แต่คริสติน อาร์มสตรอง ตอบตัวเองอยู่เสมอแค่คำเดียวสั้นๆว่า "เธอทำได้!" เธอต้องการและไขว้คว้าหา ประสบการณ์ช่วงเวลาพิเศษของชีวิตอีกครั้ง เธอยังฝันถึงเหรียญทองและลูกชายอยู่ด้วยกันบนโพเดียวอยู่เสมอๆ!

ในวันแข่งโอลิมปิก 2016 ที่ริโอวันนั้น ที่บราซิลถนนที่เธอแข่งเต็มไปด้วยฝนและความลื่น ที่เพิ่มความอันตรายต่อชีวิตไปอีกหลายเท่า...แต่คริสติน อาร์มสตรองก็ยังเป็นเธอคนเดิม แม้เธอจะไม่ใช่ตัวเต็งอีกต่อไปแล้ว แต่เธอก็ยังเสี่ยงทุกโค้ง และอัดทุกวินาทีในสนาม ทำทุกอย่างสุดชีวิตราวกับว่า วันพรุ่งนี้มันไม่มีอะไรอีกแล้ว! และสุดท้าย เธอก็ทำให้เรื่องราว ที่เป็นปาฏิหาริย์ เรื่องราวที่เป็นตำนานบังเกิดเพราะเธอคือคนที่ปั่นจักรยานท่ามกลางสายฝนและลมกระหน่ำซัดตี แต่ก็ยังทำเวลาดีที่สุดอีกครั้ง! เธอคือคนที่ปั่นทำเวลาต่ำที่สุด...

โดยหลังจากเข้าเส้นชัย คริสติน อาร์มสตรอง เธอหันไปมองนาฬิกาและถามกับตัวเองว่า "ฉันชนะหรือเปล่าเนี่ย ? " และเมื่อทันทีที่รู้ผลการแข่งขัน เธอก็ถึงกับทรุดไปนอนบนพื้นถนนที่เปียก พร้อมกับเลือดกำเดาไหลออกมาจากปัญหาสภาพอากาศ

จากนั้น คริสติน อาร์มสตรอง บนวัย 42 ปีนอนนิ่ง หายใจรวยรินราวกับปลาที่ขึ้นมาบนบก เธอนอนกับพื้นถนนอยู่เป็นหลายนาที เพื่อปรับอารมณ์ความรู้สึก และเพื่อพักให้หัวใจที่อยู่ในขีดแดงมานานตลอดการแข่งขันได้ผ่อนคลายลง

...จากนั้น น้ำตาเธอก็ค่อยๆไหลออกมา พร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้น...ความจริงต่างๆที่เกิดขึ้นประดังประเดเข้ามา ทุกอย่างไวเท่าความคิด ทุกอย่างเกินจะประมวลผลได้ทัน

ในเสี้ยวนาทีหนึ่ง ณ ตอนนั้น..ลูคัส ลูกชายที่คราวนี้กลายเป็นหนุ่มน้อย 5 ขวบเศษ ที่ตามเชียร์ในโอลิมปิก 2016 ครั้งนี้ด้วย ค่อยๆโผเข้าไปใกล้ๆคุณแม่ คริสติน อาร์มสตรอง แล้วถามว่า
.
"แม่...ร้องไห้ทำไมครับ...แม่ชนะนะแม่!"

บนวัย 42 ปี กับเหรียญทองโอลิมปิกจักรยานไทม์ไทรอัลหญิง 3 สมัยซ้อน นี่คือเรื่องราวตำนานและจะเป็นประวัติศาสตร์แห่งโอลิมปิกแน่แท้อยู่แล้ว เพราะเธอคือเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 3 สมัยซ้อนซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่ใครจะทำตามได้ ...เธอคือคนที่อายุมากที่สุดที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกจักรยานในทุกๆประเภท...แต่ไมว่าจะสถิติใดๆ เกียรติยศใดๆที่เธอได้มาก็ตาม...คริสติน อาร์มสตรอง ยืนยันเสมอว่า วินาทีที่เธออยู่บนโพเดียมรับเหรียญทองกับลูกชาย การได้เห็นแววตาของลูกชายที่มาดูเธอประสบความสำเร็จ การได้เห็นรอยยิ้มของลูกชายลูคัส ...ทั้งหมด มันคือ ห้วงเวลาที่ใครก็ตามบนโลกใบนี้ จะมาพรากไปจากความทรงจำของเธอนี้ไปไม่ได้เลย...

"ฉันไม่มีคำไหนจะอธิบายความรู้สึกนี้ได้เลย กับการที่เคยเป็นเจ้าของเหรียญทองมาแล้วถึงสองครั้ง แล้วทำไมต้องเสี่ยงกลับมาพยายามอีกครั้งนึงเป็นครั้งที่ 3 ? ฉันแค่รู้สึกว่าฉันน่าจะทำได้ แค่นั้น!” คริสติน อาร์มสตรอง เคยให้สัมภาณ์ไว้ตอนคว้าเหรียญทองที่ 3 ในชีวิต

คงมีเพียง คริสติน อาร์มสตรอง เหรียญทองโอลิมปิก 3 สมัยซ้อนเท่านั้น ที่เข้าใจความรู้สึกนี้...แบบลึกสุดหัวใจ และมันคงจะเป็นภาพความทรงจำที่จะอยู่กับเธอ ตลอดไป


(ปล. ปัจจุบัน คริสติน อาร์มสตรอง อายุ 47 ปีแล้ว เลิกแข่งโอลิมปิกจริงๆแล้ว แต่เหรียญทองจักรยานไทม์ไทรอัลหญิงโอลิมปิก 2020 ก็ยังมีเรื่องราวดราม่าแห่งความพยายาม จากแชมป์คนใหม่ นั่นคือ แอนน์มีค ฟาน ฟลูเท่น ลองอ่านเรื่องราวของเธอได้)

credit ภาพ Kristin Armstrong