เปิดเหตุผล เพราะเหตุใด ทีมยกน้ำหนักไทย ถึงไม่ได้สิทธิ์แข่งโอลิมปิก 2020

ย้อนอดีตเหรียญโอลิมปิกจากยกน้ำหนัก

กีฬายกน้ำหนักไทยได้เหรียญโอลิมปิกติดมือกลับบ้านมาเสมอยาวนานตั้งแต่โอลิมปิก 2000 ที่ซิดนี่ย์ ออสเตรเลีย จาก เกษราภรณ์ สุตา ที่ได้เหรียญทองแดงแรกของกีฬาประเภทนี้ , หลังจากนั้น ในโอลิมปิก 2004 ,2008 และ 2012 และ 2016  นับรวมแล้ว โอลิมปิก 5 ครั้ง ไทยมีเหรียญติดมือจากโอลิมปิกมาเสมอทุกครั้ง ไม่เคยพลาดเลย
.
สรุปแล้ว ในรอบโอลิมปิกทั้ง 5 ครั้งหลังสุด ไทยได้มาทั้งสิ้นจากยกน้ำหนัก  5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 7 เหรียญทองแดง ซึ่งถือว่าเป็นสมาคมกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศไทยบนเวทีโอลิมปิกแล้ว เพราะมีเหรียญทองมากกว่า มวยสากลสมัครเล่น ที่ได้มา 4 เหรียญทอง (สมรักษ์ คำสิงห์,วิจารณ์ พลฤทธิ์,มนัส บุญจำนงค์ และ สมจิตร จงจอหอ)
.
แต่ห้วงเวลานี้ ไม่มีนักกีฬายกน้ำหนัก ไปโอลิมปิก 2020 เลย ...ซึ่งสาเหตุของเรื่องนี้ นั่นก็เพราะนักกีฬาไทย โดนโทษแบนจาก สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ (IWF) นั่นเอง

 เหตุการณ์ที่ทำให้ถูกแบน
.
สมาคมยกน้ำหนักประเทศไทย ถูกแบนห้ามแข่งโอลิมปิก 2020 จากการที่ในการแข่งยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกที่เติร์กเมนิสถาน 2018 ไทยส่งนักกีฬาลงแข่งตามปกติ แต่ทว่าในผลตรวจโด๊ปในการแข่งขันครั้งนั้น  ผลประกาศผล ออกมาเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2019 ปรากฏว่ามีนักกีฬาไทยถึง 9 คน ที่ถูกตรวจพบสารต้องห้ามในร่างกาย...ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องน่าตกใจมากและเป็นเรื่องใหญ่
.
เพราะการที่นักกีฬามีผลโด๊ปเป็นบวกเยอะแบบนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยากมาก... ลองจินตนาการถึงความเป็นจริง...ไม่มีทางจะเป็นไปได้เลยที่ผลโด๊ปจะเจอสารต้องห้ามมากมายขนาดนี้ นั่นแปลว่าต้องมีอะไรบางอย่างที่ผิดพลาดแล้ว
.
เหตุการณ์นี้ ทำให้ สมาคมยกน้ำหนัก ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งหลังใช้เวลาสืบสวนอยู่พักหนึ่งก็ค้นพบความจริง ว่าสารต้องห้ามนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากการกิน หรือ ฉีด อย่างที่นักกีฬาทุกคนระวัง
.
แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นสารต้องห้าม จาก เจลแบบพิเศษสำหรับทา แล้วมีการซึมเข้าร่างกายผ่านทางผิวหนัง ซึ่งเจลชนิดนี้  หลิว หนิง โค้ชชาวจีน มาเป็นผู้ฝึกสอนยกน้ำหนักทีมชาติไทย ซึ่งการซ้อมก็มีไปอย่างปกติ ในช่วงปี 2017-18
.
ช่วงเวลานั้น นักยกน้ำหนักไทยไปแข่งหลายรายการ  มีการตรวจปัสสาวะโดยวิธีปกติ แต่ก็ไม่พบเจอสารกระตุ้นอะไร ก็เลยไม่ได้สนใจเรื่องเจลตัวปัญหานี้เลย แต่อย่างไรก็ตาม พอไปแข่งชิงแชมป์โลก 2018 กลับเจอสารต้องห้าม และทำให้ถูกแบนแบบยกทั้งยวง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สมาคมฟุตบอลไทย ประกาศแยกทาง อากิระ นิชิโนะ เร่งหากุนซือใหม่

• โปรแจ๊ส อติวิชญ์ โปรกัญจน์ 2 นักกอล์ฟโอลิมปิก 2020 ฟอร์มดี มีสิทธิ์หยิบเหรียญ

• คีริน ตันติเวทย์ นักวิ่งคนแรกประวัติศาสตร์ไทย แข่งโอลิมปิก ระยะ 10,000 เมตร

ความผิดโดยสุจริต และ ไม่เจตนา
.
สมาคมยกน้ำหนักประเทศไทย ให้ความเห็นต่อประเด็นนี้ ว่า "นักกีฬาได้รับการอบรมว่า การใช้สารต้องห้าม มาจากการกิน การดื่ม หรือการใช้ยาฉีดเท่านั้น ไม่เคยทราบมาก่อนว่ายาทา หรือยานวด จะเป็นการซึมเข้าไปแล้วทำให้เกิดการออกฤทธิ์ของสารต้องห้ามด้วย ดังนั้นทุกคนที่ใช้เจลรักษาอาการบาดเจ็บ จึงรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้จงใจหรือตั้งใจกระทำ"  ซึ่งนั่นถือเป็นคำอธิบายที่จริงใจของสมาคมที่สุดแล้ว  
.
จากนั้น ในวันที่ 5 เมษายน 2020 สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ IWF สรุปว่า "ไทยผิดจริง" จากเจลที่ใช้ดังกล่าว  และสมาคมยกน้ำหนัก จะโดนแบนไม่ให้ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันทุกรายการของการแข่งยกน้ำหนัก เป็นเวลา 3 ปี จนถึงวันที่ 1 เมษายน 2023 พร้อมปรับเงินอีก 2 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ไทยจะมีเวลาอุทธรณ์ได้ 21 วัน นั่นเท่ากับว่าโอลิมปิกที่โตเกียว และ เอเชียนเกมส์ที่หังโจว ปี 2022 ไทยก็จะไม่สามารถส่งใครไปแข่งได้เพราะยังติดโทษแบนอยู่
.
อย่างไรก็ตาม สมาคมยกน้ำหนัก ก็ไม่ยอมยังอยากไปโอลิมปิกอยู่  จึงได้ยื่นขออุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลก สุดท้าย ในวันที่ 19 เมษายน 2021 ก็เห็นคล้อยตามกับสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ โดยศาลกีฬาโลกใช้คำว่า "ประเทศไทยเลินเล่อพลาดเอง ที่ไม่ให้ความรู้กับนักกีฬามากพอ" และลดโทษให้ไทยติดแบนถึงวันที่ 7 มี.ค 2022 นั่นหมายความ สิทธิ์การมาโอลิมปิก2020 จบสิ้นลงแล้ว
.
อย่างไรก็ตาม  ยังมีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่ในความเคราะห์ร้ายครั้งนี้อยู่บ้าง เพราะจากการที่ได้ลดโทษแบน แม้จะไม่ได้แข่ง โอลิมปิก 2020 แต่ก็ยังจะสามารถไปแข่งเอเชียนเกมส์ 2022 ที่หังโจวได้ เพราะพ้นโทษแบนทันเวลา

.

คำชี้แจงที่จริงใจและน้อมรับทุกคำตำหนิ
.
ทั้งนี้ สมาคมยกน้ำหนักประเทศไทย ได้เดินหน้าชี้แจงเรื่องนี้อยู่เสมอๆ ในช่วงเวลา 2 ปี นับตั้งแต่เกิดเรื่อง โดยสมาคมฯ มีการชี้แจงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น รวมถึงความคืบหน้าในการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลกมาโดยตลอด กระทั่งเดือนเมษายน 2021 ศาลกีฬาโลกคืนความยุติธรรมกลับคืนให้สมาคมฯในที่สุด ทำให้นักกีฬาสามารถกลับมาแข่งขันเวทีระดับนานาชาติได้แล้ว แต่ห้ามเข้าร่วมกีฬาโอลิมปิก 2020 อยู่ดี

ที่ผ่านมา สมาคมยกน้ำหนักไม่เคยนิ่งนอนใจ ...และพวกเขา หวังเป็นอย่างยิ่งว่า แฟนกีฬาชาวไทย จะยังคงให้การสนับสนุนนักกีฬายกน้ำหนักของไทยต่อไปโดยเฉพาะในโอลิมปิกเกมส์ 2024
.
สมาคมยกน้ำหนัก ยืนยันเสมอมาว่า จะสร้างจอมพลังทีมชาติไทย ให้กลับมาแข่งแกร่งอีกครั้ง และทัพยกน้ำหนักไทย จะกลับมาสร้างความสุขให้พี่น้องชาวไทยอีกครั้ง แน่นอน! และเหรียญทอง ลำดับที่ 6 ของสมาคมยกน้ำหนัก คงจะมาถึงในอนาคตอย่างแน่นอน