สุธิยา จิวเฉลิมมิตร หรือ "ณี" เปิดเผยว่า ต้องฝืนอาการเจ็บหลังขั้นรุนแรง ที่แทบจะทำให้เธอเดินไม่ได้ ก่อนมาลุยแข่งยิงเป้าบิน โอลิมปิก 2020 แต่เธอก็ยืนยันว่า เส้นทางการเป็นนักกีฬาจะยังไม่จบ เพราะเธอ ‘จะไม่ยอมแพ้’ และอาจมีโอกาสที่จะเห็นเธอลุยโอลิมปิกครั้งที่ 5 ในชีวิต
เจ็บครั้งนี้ เพื่อชาติ!
กลายเป็นเรื่องราวที่แฟนกีฬาชาวไทยแห่แชร์และแบ่งปันจำนวนมากในโลกออนไลน์ เมื่อ สุธิยา จิวเฉลิมมิตร หรือ "ณี" ทีมชาติไทย กีฬายิงเป้าบิน ประเภทสกีตหญิง โอลิมปิก 2020 ออกมาเปิดเผยว่า เธอไปแข่งยิงเป้าบินในโอลิมปิกครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 ในชีวิตของเธอ แต่ก่อนแข่ง เธอแทบไม่ได้ซ้อมเลย เพราะว่า เธอเองโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนัก ถึงขั้นสาหัสกับชีวิต และแทบจะขยับร่างกาย เดินไปไหนไม่ได้ ต้องจมอยู่กับเตียงเกือบตลอดเวลา
.
โดย สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักกีฬายิงเป้าบินทีมชาติไทย เผยว่า ในช่วงก่อนแข่งโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่น 2 สัปดาห์ เธอมีอาการบาดเจ็บที่เส้นประสาทในกระดูกสันหลัง จนต้องขึ้นรถฉุกเฉินจากสนามซ้อมที่บ้าน จังหวัดสระแก้ว เข้ามาทำ MRI ด่วน. ณ เวลานั้น เมื่อประเมินจากสภาพร่างกายแล้ว เธอแทบไม่มีโอกาสกลับมาแข่งโอลิมปิก 2020 ได้ทันเลย แต่ด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งและห้าวหาญของเธอ ก็จึงสู้ต่อจนหยดสุดท้าย
.
สุธิยา จิวเฉลิมมิตร เผยว่า เธอต้องทำกายภาพทุกวัน แต่สภาพร่างกาย ณ ตอนนั้นคือแทบกระดิกตัวไม่ได้เลยด้วยซ้ำ...ความเจ็บมันกระหน่ำ...ซ้ำและทิ่มแทง
.
...แต่เธอก็ยืนยันว่า เธอไม่ขอยอมแพ้ และขอฝืนร่างกายสังขารของตัวเอง จนมาลุยโอลิมปิก 2020 ได้ แม้ผลงานจะไม่สามารถเข้าสู่รอบชิงฯชนะเลิศได้ก็ตาม ...และสื่อก็จับจ้องกับดาวรุ่งของวงการยิงเป้าบินคนใหม่ อย่าง "วอร์ม" อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข ที่ทะลุได้ถึงรอบชิงฯ และคว้าอันดับ 4 มาได้ มากกว่าเธอก็ตาม...แต่เธอก็ขอทำหน้าที่ของตัวเองจนถึงที่สุด
สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักยิงเป้าบินทีมชาติไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สุธิยา : ‘ไม่เคยยอมแพ้’
.
สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักแม่นปืนในประเภทยิงเป้าบิน สกีตหญิง บอกว่า เธอไม่เคยมีคำว่า "ยอมแพ้" อยู่ในความคิด เพราะไม่ว่าจะอย่างไร เธอก็จะทำหน้าที่ของตัวเองสุดชีวิต เรื่องอาการบาดเจ็บที่เสี่ยงต่อการเป็นอัมพาตนั้น เรื่องบาดเจ็บที่เส้นประสาทในกระดูกสันหลังนั้น...เธอขอพับเก็บไว้ในซอกเล็กๆในความคิดก่อน ไม่ให้มันมาบดบังการทำหน้าที่ลุยโอลิมปิก 2020 ของเธอ
สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักยิงเป้าบินทีมชาติไทย ที่ลุยโอลิมปิกมาแล้ว 4 ครั้งเปิดเผยว่า "ใช่...มันน่าเสียดายอีกสองเป้าเท่านั้นณีก็จะเข้ารอบชิง… ใช่มันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่มันก็อาจจะแย่กว่านี้มากๆก็ได้ วันนี้ณีแข่งเสร็จด้วยคะแนน 118 อีกสองแต้มมีโอกาสเข้ารอบชิงชนะเลิศ วันนี้เป็นอีกวันที่ณีภูมิใจในตัวเองมากที่สุด “เพราะณีไม่เคยยอมแพ้ สองอาทิตย์ก่อนเดินทางมาแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเกมส์ ณีมีอาการบาดเจ็บที่เส้นประสาทในกระดูกสันหลัง วันนั้นณีต้องขึ้นรถฉุกเฉินจากสนามซ้อมที่บ้านที่สระแก้ว เข้ามาทำ MRI ด่วน เพราะเดินแทบจะไม่ได้แล้ว ในตอนนั้นคิดว่า เราคงไม่ได้ไปแข่งโอลิมปิคแล้ว จบกัน การเตรียมตัวต่อเนื่องมา 5 ปี สภาพนี้ยังไงก็ไม่ไหว"
.
"แต่หลังจากได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน และทำกายภาพทุกวัน ตอนนั้นณีทำได้แค่นอนกับที่เป็นเวลา 2 อาทิตย์ ได้ซ้อมก่อนเดินทางมาแข่ง 3 ครั้งเบาๆ ณ เวลานี้ 2 เป้าที่ขาดหาย มันทำให้เราภูมิใจ 2 เป้าที่ขาดหายมันทำให้เรารู้ว่าเราใกล้ ไม่ได้ไกลเลย
โดยเฉพาะ รอบสุดท้ายของการแข่งขัน ณียิงถูกหมดทุกเป้า ทั้งๆที่รู้ว่า สุดท้ายก็ไม่ได้เข้ารอบชิงแน่นอน นี่แหละคือสิ่งที่อยู่ในตัวเรามาตลอด ณี ‘ไม่เคยยอมแพ้’ เส้นทางนี้ยังไม่จบ เพราะเรา ‘จะไม่ยอมแพ้’ ขอบคุณทีมงานทุกคนที่สนับสนุนและทำงานอย่างเต็มความสามารถ เส้นทางสำคัญกว่าจุดหมายเสมอ"
ยังมีความหวังกับโอลิมปิกครั้งที่ 5
.
ที่ผ่านมา สุธิยา จิวเฉลิมมิตร คือดาวเด่นในวงการกีฬาเป้าบินของทีมชาติไทยมานานตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เธอได้แชมป์ทุกดีกรีมาหมดแล้ว เหรียญทองซีเกมส์ 3 สมัย เหรียญทองเอเชียนเกมส์ปี 2018 เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก 2 สนาม และเคยได้ตำแหน่งรองแชมป์โลกเมื่อปี 2009 ที่สโลวีเนีย . อย่างไรก็ตาม เวทีโอลิมปิกสำหรับสุธิยา จิวเฉลิมมิตร ดูจะเป็นของแสลงของเธอ เพราะเธอไม่เคยไปไกลถึงการหยิบเหรียญโอลิมปิกได้เลย...และ โอลิมปิก 2020 เธอก็ยังมาเจออาการบาดเจ็บเส้นประสาทในกระดูกสันหลังเล่นงานอีก
.
"โดยรวมก็ยังขาดนู้นนี่อีก จังหวะชีวิตมันไม่ได้ก็คือไม่ได้ เรายังทำได้ดี ไม่ได้มีโมเมนต์ที่ยอมแพ้ ส่วนคำถามว่าณีจะไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์หนหน้าหรือไม่ ก็น่าจะได้ถ้าหลังไม่พังไปเสียก่อน ค่อยว่ากันอีกที" สุธิยา จิวเฉลิมมิตร เปิดเผยหลังแข่งโอลิมปิก 2020
.
นี่คือคำยืนยันที่ยังเปิดช่องทางไว้เสมอว่า สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักยิงเป้าบินทีมชาติไทย พร้อมที่จะเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่ไปแข่งโอลิมปิก 5 สมัยซ้อน!
.
ครั้งหนึ่ง สุธิยา จิวเฉลิมมิตร เคยพูดไว้ว่า "หากเรายังมีใจและสภาพร่างกายที่พร้อมเสมอต่อทุกการแข่งขัน มันทำให้ยิ่งมีความทะเย่อทะยาน อยากก้าวเดินในเส้นทางนี้ต่อไปเรื่อยๆ" และนี่คือคำยืนยันว่า ต่อให้ชีวิตเธอเต็มไปด้วยบาดแผล แต่เธอก็จะก้าวต่อไปในการยิงเป้าบิน...บางที เราอาจจะเห็นเธอ ในโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส ฝรั่งเศสอีกครั้ง