ทุกแง่มุม เรื่องราวดราม่าโรนัลโด้ ขยับขวดโคคา-โคล่า ตอกย้ำเป็นคนรักสุขภาพ เพื่อนๆร่วมวงการบางคนเอาด้วย บางคนก็แซว แต่เรื่องนี้ทำให้มูลค่าความเสียหายต่อแบรนด์ ไปจนถึงเหตุยูฟ่าต้องสั่งห้ามนักเตะขยับขวดเครื่องดื่มบนโต๊ะแถลงข่าวยูโร 2020 อีกแล้ว
ที่มาที่ไปของดราม่า
ไวรัลโลกออนไลน์ แถมยังเกาะกระแสยูโร 2020 เมื่อช่วงการแถลงข่าวก่อนเกมยูโร 2020 ระหว่างโปรตุเกสพบกับฮังการี เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ขยับขวด "โคคา-โคล่า" น้ำอัดลมที่เป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันบนโต๊ะแถลงข่าว ซึ่งวางอยู่ตรงหน้าออกไป แล้วนำน้ำเปล่าที่พกติดตัวมาวางแทน พร้อมพูดวลีอันทรงพลังว่า "ต้องดื่มน้ำเปล่าสิ"
เรื่องนี้ หากดูเผินๆ ก็เป็นเพียงแค่ การตอกย้ำว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นนักเตะที่เคร่งครัดเรื่องการดูแลสุขภาพ แต่เรื่องมันไม่ได้จบอยู่แค่นั้นเพราะว่า นั่นทำให้การรับรู้แบรนด์และภาพลักษณ์ของ "โคลา-โคล่า" ได้รับความเสียหายมาก เนื่องจากการกระทำของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้หลายๆ ฉุกคิดและตระหนักได้ว่า เครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม ไม่ใช่สินค้าที่มีประโยชน์ทางโภชนาการเพื่อสุขภาพที่ดี...
เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีการเปิดเผยตัวเลขว่า เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบไปถึงหุ้นของ โคคา-โคล่า ที่ตกลงไปมาก ซึ่งทำให้มูลค่าโดยรวมของบริษัทหายไปกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 1.25 แสนล้านบาทไทย
อย่างไรก็ตาม คงต้องให้ความเป็นธรรมกับโรนัลโด้ เพราะเขาไม่ใช่ "ปัจจัยเดียว" ที่ทำให้หุ้นโคคา-โคล่าตกลงอย่างรวดเร็ว เพราะว่าในเชิงกราฟเทคนิคในตลาดหุ้นแล้ว หุ้นตัวนี้อยู่ในช่วง ย่อพักตัว หลังจากที่เป็นกราฟขาขึ้นมาในช่วง 6 เดือน และการที่หุ้นลงมาพักตัวแบบนี้ อาจจะเพื่อสะสมพลัง ไต่กลับไปทำราคาใหม่อีกครั้งก็ได้ ...คำตอบ ใช่หรือไม่ ? ต้องรอการเฉลยจากตลาดหุ้นต่อไป...
Credit clip : The Telegraph
เพื่อนร่วมอาชีพเจริญรอยตาม - บ้างก็แซว
สิ่งที่ตามมา หลังจากโรนัลโด้เอฟเฟกต์ ขยับขวดโคคา-โคล่าเพื่อนร่วมอาชีพบางคนในยูโร 2020 ก็เลือกที่จะแสดงจุดยืนตามคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในระหว่างการเข้าห้องแถลงข่าว
ตั้งแต่ ปอล ป็อกบา กองกลางแชมป์โลกฝรั่งเศส ที่หยิบขวด ไฮเนเก้น 0.0 ซึ่งเป็นเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ออก นั่นเพราะป็อกบานับถือศาสนาอิสลามด้วย
ขณะที่ มานูเอล โลคาเตลลี่ กองกลางทีมชาติอิตาลี ที่นำเอา โคคา-โคล่า ไปวางไว้ข้างๆ ตามรอย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำไว้
นี่คือ การเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวของโรนัลโด้ เพราะประเด็นนี้ถูกนำมาพูดถึงในวงกว้าง โดยเฉพาะบนโซเชียลมีเดีย จนกลายเป็นไวรัลไปทั้งโลก...
ขณะที่ บ้างคนก็มีการแซวกัน อำกันขำๆ อาทิ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ นักเตะยูเครนที่แถลงข่าว ในสไตล์ "อยู่เป็น" พร้อมทั้งทำท่าหยิบขวดโคคา-โคล่า และ ไฮเนเก้น 0.0 พร้อมกับบอกว่า พร้อมยินดีเป็นพรีเซนเตอร์ ติดต่อเขามาได้เลย...
ส่วน สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ กุนซือทีมชาติรัสเซียที่ เปิดขวด "โคคา-โคล่า" แล้วหยิบขึ้นมาดื่มต่อหน้าสื่อมวลชนในการแถลงข่าวหลังเกมที่ 2 กลุ่มบี ซึ่งชนะ ฟินแลนด์ 1-0 , ขณะที่ รัดย่า เนียงโกลัน อดีตกองกลางเบลเยียมก็โพสต์ภาพแซวคริสเตียโน่ โรนัลโด้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกร็ด ยูโร2020 : 10 เรื่องน่ารู้ อังกฤษเจ๊าสกอตแลนด์-เช็กเสมอ-สวีเดน3แต้ม
ผลบอลยูโร 2020 สวีเดนคว้าชัย โครเอเชีย อังกฤษได้แค่เจ๊า ตารางบอล 19 มิ.ย. 64
มีคนรัก ย่อมมีคนไม่ชอบ...
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ทำนั้น หาใช่ว่าจะถูกใจทุกคนเสมอไป ...เพราะ โคคา-โคล่าซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของยูโร 2020 ย่อมไม่ชอบใจเรื่องนี้อยู่แล้ว เป็นตรรกะที่แสนธรรดาเข้าใจได้...และอีกทั้งยังมีแฟนบอลส่วนหนึ่งที่ "จับโป๊ะ" โรนัลโด้ ว่าจริงๆแล้ว เขาไม่ใช่นักกีฬาสายเฮลท์ตี้แบบที่วางตัวเองไว้ จากการขยับขวดน้ำครั้งนี้
โดยมีแฟนบอลสายขุด ที่ไปงัดเอาภาพเมื่อปี 2013 ที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้เคยเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ ไก่ทอด KFC และหากย้อนไปราวปี 2006 โรนัลโด้ ก็เคยสวมเสื้อกล้ามสีแดง เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ โคคา-โคลา มาแล้วเหมือนกันเช่นกัน
ปฏิกิริยาจากผู้จัดยูโร 2020
แน่นอนว่าในทางธุรกิจ ไม่มีสปอนเซอร์รายไหน อยากเสียเงินมหาศาล เพื่อถูกนักกีฬาปฏิเสธการร่วมเฟรมด้วย ดังนั้น สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ซึ่งเป็นผู้จัดยูโร 2020 จึงต้องออกคำสั่งที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยพร้อมปกป้องบรรดาผู้สนับสนุน และขู่ลงโทษปรับเงินทีมชาติที่ทำตาม
โดยแถลงว่า "ยูฟ่า ขอเตือน ทีมชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันว่าบรรดาผู้สนับสนุนล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการจัดการแข่งขัน และเพื่อสร้างความมั่นใจในการขับเคลื่อนและพัฒนาฟุตบอลทั่วยุโรป ทั้งในระดับเยาวชนและผู้หญิง"
นั่นหมายความว่า ยูฟ่า ก็ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เพราะนั่นคือเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่ยูฟ่าอาจจะเสียไปในอนาคตหากสปอนเซอร์ต่างๆถอนตัว และพยายามบอกว่าสปอนเซอร์น้ำอัดลมก็มีส่วนช่วยพัฒนาวงการด้านอื่นๆ
ขณะที่ โคคา-โคล่า ตัวผู้เสียหายจากเรื่องราวดราม่าครั้งนี้ ยังคงแสดงท่าทีที่ใจกว้าง โดยบอกว่า ทุกคนมีสิทธิเลือกเครื่องดื่มที่ตนเองชอบ และมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ โดยปกติแล้วนักเตะจะได้รับทั้งน้ำเปล่า โค้ก และโค้กซีโร่ เมื่อมาถึงห้องแถลงข่าว
โรนัลโด้ทำเพื่อพูดสาส์นในใจ
ศาสตราจารย์ ไซมอน แซดวิค แห่งศูนย์อุตสาหกรรมกีฬาแห่งยูเรเซียน ได้วิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ โรนัลโด้เอฟเฟกต์ไว้ว่า ที่ผ่านมาข้อตกลงด้านการค้าระหว่างหน่วยงานที่ควบคุมการแข่งขัน กับภาคธุรกิจ มักปิดโอกาสไม่ให้นักกีฬาได้แสดงออกอย่างเต็มที่
นักกีฬาอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่สามารถเลือกได้เลยว่า วันนี้จะต้องมานั่งแถลงข่าว โดยมีสินค้าอะไรวางอยู่บนโต๊ะ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามสัญญาข้อตกลงระหว่าง สปอนเซอร์กับองค์กรฝ่ายจัดการแข่งขัน หากเห็นภาพชัดๆก่อนหน้านี้ อย่างกรณี นาโอมิ โอซากะ ที่ถอนตัวจากการแข่งขันเฟรนช์ โอเพ่น เพราะเธอเป็นซึมเศร้าและไม่ต้องการเข้าห้องแถลงข่าว เป็นต้น
แต่การเติบโตของโลกออนไลน์โซเชียลมีเดีย ทำให้นักกีฬายุคใหม่กล้าที่จะพูด นักฟุตบอลรู้สึกได้ว่าเสียงของพวกเขามีพลัง สามารถส่งไปถึงผู้คนวงกว้างได้ไกลกว่าเดิม พวกเขาจึงรู้สึกเหมือนเป็นตัวแทนของผู้บริโภคเท่านั้นและทำตามที่ใจตนเองต้องการ