ฟุตบอลยูโร 2020 : 10 เกร็ดน่ารู้หลังเกมอังกฤษเปิดสนามสวย เนเธอร์แลนด์เด่น

1.) ฟุตบอลยูโร 2020 เกมเมื่อคืนวัน 13 มิถุนายนที่ผ่านมา อังกฤษ สิงโตคำรามขวัญใจมหาชนประเดิมสนามนัดแรกที่เวมบลี่ย์ ด้วยผลงานเฉือนชนะโครเอเชีย รองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูชัยของราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกจากแมนฯซิตี้  นาที 57 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยังเป็นตัวนำโชคของทีมชาติอังกฤษได้เสมอ เพราะ 11 นัดหลังที่ราฮีม สเตอร์ลิ่งทำประตูให้ทีมชาติได้ อังกฤษ ภายใต้ยุคของแกเร็ธ เซาธ์เกตชนะทั้งหมด

2.) ขณะที่ คาลวิน ฟิลลิปส์ ที่ใครหลายคนเรียกกันว่า "ปิร์โล่แห่งอังกฤษ"  มีสถิติมหัศจรรย์อย่างการเป็นคนเดียวที่ผ่านบอลได้ 100% ในครั้งแรกของเกมกับ โครเอเชีย โดยจ่ายบอลทั้งหมด 18 ครั้ง นอกจากนี้เขายังโดดเด่นในเกมรับอีกด้วย

3.) ขณะที่ ตัวสำรองอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม  จากสโมสรโบรุสเซียดอร์ทมุนด์ กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงสนามให้อังกฤษในฟุตบอลยูโร ด้วยวัยเพียง 17 ปี 349 วัน และเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากที่ชัยชนะเกมนี้ของอังกฤษ ถือเป็นชัยชนะนัดเปิดสนามฟุตบอลยูโร เป็นครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้ 9 ครั้ง เสมอไปถึง 5 และ แพ้ 4 ไม่มีชนะเลย

4.) คู่ต่อมา ออสเตรีย ชนะ มาซิโดเนียเหนือ 3-1 ซึ่งออสเตรีย มาได้ 2 ประตูท้ายเกมจาก 2 ตัวสำรอง หลังจากที่เกมทำทำว่าจะเสมอกัน 1-1 อยู่แล้ว โดย 2 ตัวโจ๊กเกอร์ซูเปอร์ซับที่ลงมายิงท้ายเกมให้ออสเตรีย คือ มิเชล เกร์กอริตช์ และ มาร์โค อาร์เนาโตวิช

5). ชัยชนะของออสเตรีย ใน ฟุตบอลยูโร2020  ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าจดจำ เพราะนี่คือชัยชนะในทัวร์นาเมนต์หลักของออสเตรียครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1990 หรือเมื่อ 31 ปีที่แล้วเลยทีเดียว

6)  โกรัน ปานเดฟ กองหน้าฟุตบอลยูโร 2020 ของมาซิโดเนียเหนือ กลายเป็นนักเตะอายุมากที่สุดอันดับที่ 2 ตลอดกาล ที่ทำประตูได้ในฟุตบอลยูโร ด้วยวัย 37 ปี 321 วัน โดยเจ้าของสถิติสูงสุดคือ อิวิก้า วาสติช จากทีมชาติออสเตรีย ซึ่งเคยพังสกอร์ ทำประตูในเกมพบโปแลนด์ เมื่อปี 2008 ด้วยวัย 38 ปี 357 วัน

 

7 ) ปิดท้ายที่ฟุตบอลยูโร 2020 คู่ดึก เนเธอร์แลนด์ คว้าชัยเหนือ ยูเครน 3-2 โดยทั้ง 5 ประตู เกิดขึ้นในครึ่งหลัง กลายเป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลยูโร มีการทำประตูกันถึง 5 ลูกในครึ่งหลังทั้งที่ครึ่งแรกเสมอกัน 0-0 โดยเธอร์แลนด์ มาได้ประตูชัยก่อนหมดเวลา 5 นาที จากแบ็กขวาขาลุย เดนเซล ดุมฟรายส์ , และเกมนี้ เนเธอร์แลนด์ นำก่อน 2-0 ซึ่งหนึ่งในสองประตูนั้น มี จอร์จินิโอ ไวจ์นาดุม กัปตันทีมพังประตูได้ด้วย ก่อนที่ยูเครนจะไล่มาเป็น 2-2 แต่สุดท้ายก็มาพังท้ายเกม , จากฟอร์มนัดเปิดสนามที่ผ่านมา นับว่า เนเธอร์แลนด์ เป็นทีมยักษ์ใหญ่ ที่เดินเกมรุกสนุก และใช้พละกำลังเยอะที่สุด พอๆกับอิตาลีซึ่งเปิดสนามเมื่อวันศุกร์เลยทีเดียว

8) 2,528 วัน คือระยะเวลาที่ เนเธอร์แลนด์ ไม่สามารถยิงประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ระดับชาตินับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2014 โดยความบังเอิญที่เหมือนกันคือ คนที่ยิงประตูสุดท้ายให้ ‘อัศวินสีส้ม’ ในฟุตบอลโลกหนนั้นคือ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม และคนที่ยิงประตูแรกหลังจากเวลากว่า 2,500 วันก็คือ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม  เหมือนกัน และที่สำคัญ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ยังทำท่าแสดงการดีใจระลึกถึง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังลิเวอร์พูลที่ไม่ได้มาแข่งยูโร 2020 ด้วย

 9)  มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ผู้รักษาประตู ไม่ได้เล่นเกมลีกเลย 3 ฤดูกาล ตั้งแต่ซีซั่น 2017-18,2018-19 และ 2019-20 ตอนสมัยอยู่กับเอฟเวอร์ตัน แต่กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เขายังคงไว้ใจได้และยังเป็นมือหนึ่งเสมอ บนวัย 38 ปีแล้ว

10).  ยูเครน ภายใต้การคุมทีมของอังเดร เชฟเชนโก้  ไม่อาจเจาะสกอร์ จากโอกาสต่อเนื่องกันยาวนานถึง 72 ครั้งในฟุตบอลยูโร สรุปคือปืนฝืดในยูโรมานาน แต่ เมื่อพวกเขาทำประตูได้กลับทำได้ 2 ประตูติดในโอกาส 2 ครั้ง ซึ่งระยะเวลาห่างกันแค่ 246 วินาที

ขอบคุณ เครดิตภาพเพจ ขอบสนาม

ติดตามโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 วันที่ 14 มิถุนายน คืนนี้ ถ่ายทอดสด  NBT2HD
กลุ่ม ดี เวลา 20.00 น. สก็อตแลนด์ - สาธารณรัฐเช็ก
กลุ่ม อีเวลา 23.00 น.  โปแลนด์ - สโลวาเกีย
กลุ่มอี เวลา 02.00 น. สเปน - สวีเดน

ติดตามโปรแกรมถ่ายทอดสดยูโร 2020 ทั้งหมด