svasdssvasds

โควิดสิงคโปร์ : จากรับมืออันดับ 1 กลับต้องเจอผู้ติดเชื้อสูงสุดในรอบปี

โควิดสิงคโปร์ : จากรับมืออันดับ 1 กลับต้องเจอผู้ติดเชื้อสูงสุดในรอบปี

สิงคโปร์ คือประเทศที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในชาติที่รับมือโควิด-19 ได้ดีที่สุดในโลก แต่ ณ ปัจจุบันสถานการณ์โควิดสิงคโปร์กำลังเล่นงานพวกเขาอย่างรุนแรงและไม่ให้ตั้งตัว เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดในรอบปีแล้ว จากคลัสเตอร์ท้องถิ่น

•เกิดอะไรขึ้นกับสิงคโปร์

เกิดอะไรขึ้นกับสถานการณ์โควิดสิงคโปร์ ประเทศที่เคยถูกจัดให้เป็นประเทศที่ดีที่สุดในการรับมือโควิด-19 จากบลูมเบิร์ก  แต่ ณ ปัจจุบัน สิงคโปร์ต้องเผชิญกับปัญหาโควิดสายพันธุ์อินเดียระบาดในประเทศ

ณ เวลานี้ จากการสืบสวน ในบางรายไม่ทราบที่มาของเชื้อ โดยสิงคโปร์เพิ่งพบผู้ป่วยรายใหม่ 38 ราย ในวันเดียว ถือเป็นตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ที่สูงที่สุดในรอบหนึ่งปี  และตอนนี้สิงคโปร์ มีผู้ติดเชื้อสะสมตลอดการระบาดขึ้นเป็น 61,651 รายแล้ว เป็นอันดับ 105 ของโลก
    โดย ในจำนวนผู้ที่ติดเชื้อใหม่  มี 7 ราย เป็นผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์อินเดีย หรือ B.1.617 ซึ่งมีอัตราการแพร่ระบาดง่ายกว่าเดิมด้วย
    แม้ปัจจุบันสิงคโปร์ ฉีดวัคซีนไปแล้ว 3.1 ล้านโดส  นับเป็น 27.5 เปอร์เซนต์ของประชากรทั้งประเทศ  แต่ทางการสิงคโปร์ก็ยังไม่นิ่งนอนใจ เร่งฉีดวัคซีนต่อเนื่องต่อไป ไม่มีผ่อนเครื่อง ในการรับมือโควิดสิงคโปร์
    อย่างไรก็ตาม อาจจะมีการปรับเปลี่ยนแผนในรายละเอียด โดย สิงคโปร์นั้นมีจำนวนวัคซีนโควิดที่จำกัด และอยู่ระหว่างการพิจารณาใช้วัคซีนที่มีอยู่เดินหน้าฉีดวัคซีนเข็มแรกให้แก่ประชาชน แทนที่จะนำไปฉีดเป็นโดสที่สองแก่ผู้ที่ได้รับวัคซีนโดสแรกไปก่อนหน้านี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนให้ได้มากที่สุดนั่นเอง

•คลัสเตอร์สนามบิน-โรงพยาบาล

ทั้งนี้ โควิดสิงคโปร์ เจอการระบาดจากสนามบินชางงีจากการตรวจสอบเจอในเบื้องต้น เป็นจุดแรกของปฐมบทโควิดสิงคโปร์ครั้งนี้ , โดย สิ่งที่น่ากังวล ก็คือการพบโรคโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียระบาดในระดับท้องถิ่นแล้ว และมีการพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแต่ละเคสที่พบบางส่วนนั้นไม่มีความเชื่อมโยงกัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าได้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสที่ยังไม่ถูกตรวจพบนั่นเอง
    และก่อนหน้านี้ โควิดสิงคโปร์ เจอการระบาดเชื่อมโยงจากกับคลัสเตอร์การแพร่ระบาดจากโรงพยาบาลตัน ต็อก เส็ง ด้วย

•กังวลโรงเรียน-เรือนจำ

ทั้งนี้ เป็นเรื่องที่น่ากังวลว่า โควิดสิงคโปร์ อาจจะลุกลามไปยังเด็กๆ นั่นทำให้ทางการสิงคโปร์ ประกาศปิดโรงเรียน และปรับให้นักเรียนเรียนหนังสือจากที่บ้าน และเร่งฉีดวัคซีนให้แก่เด็กเล็ก ไปก่อน

 โดย สิงคโปร์ เตรียมฉีดวัคซีนให้กับเด็กอายุ 12-15 ปี ด้วยวัคซีน Pfizer หลังจากทางการอนุมัติให้วัคซีนตัวนี้ใช้เป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว
    ขณะที่ เรือนจำ ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สิงคโปร์กังวล โดยทางการได้เดินแผนรุดหน้าตรวจโรคโควิด-19 ต่อนักโทษกว่า 5,000 คน ซึ่งรวมไปถึงเจ้าหน้าที่เรือนจำ, ร้านค้า และอาสาสมัคร ที่ทำงานที่เรือนจำชางงี เพื่อระงับการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยได้มีการระงับการเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังชั่วคราว โดยญาติของผู้ต้องขังจะสามารถติดต่อผู้ต้องขังได้ผ่านการโทรศัพท์หรืออีเมลล์ได้เท่านั้น

Lazada

•กระทบต่อทราเวลบับเบิลฮ่องกง
    การที่โควิด-19 มารุกรานสิงคโปร์ในครั้งนี้ ทำให้แผน โครงการทราเวลบับเบิลระหว่างสิงคโปร์กับฮ่องกง ซึ่งหนึ่งในจุดประสงค์หลัก คือเพื่อการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศต้องถูกเลื่อนไปอีกครั้ง
    โดยที่จริงแล้ว ทั้งสองประเทศ คิดจะทำทราเวลบับเบิลกันมานานแล้ว  ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่ถูกเลื่อนออกมา เพราะโควิด-19 ระบาดที่ฮ่องกงเสียก่อน และครั้งนี้ก็ต้องมาเลื่อนไปอีกครั้งจากการเจอโควิดสิงคโปร์

    ทั้งนี้ สิงคโปร์ ไม่ใช่ประเทศเดียวในเอเชีย ที่สถานการณ์รับมือโควิด-19 แย่ลงในช่วงนี้ เพราะยังมี  "เวียดนามและไต้หวัน" ซึ่งเคยรับมือได้ดีต่อวิกฤตการณ์โควิด-19 แย่ลงตามไปด้วย นั่นหมายความว่า โควิด-19 ระลอกใหม่ของโลก มีความรวดเร็วในการแพร่จาย ดังนั้นสิ่งที่จะรับมือให้ได้กับพายุปัญหาครั้งนี้ นั่นคือ ต้องยกการ์ดสูงเข้าไว้ในการป้องกันตัว รวมถึงต้องรับวัคซีนโควิด-19 ให้เร็วที่สุด เพราะนี่คือทางออกที่ทุกประเทศกำลังเดินไปหา จุดนั้น

related