เด็นโซ่ บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลกฉลองครบรอบ 50 ปี ด้วยการเปิดตัวนวัตกรรมการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งาน พร้อมพัฒนาธุรกิจตามกรอบของ SDGs เพื่อขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดียิ่งกว่าอย่างยั่งยืน
เด็นโซ่ประเทศไทย พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตมุ่งสู่การเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2035 (พ.ศ. 2578) ในโอกาสครบรอบ 50 ปีนี้ เด็นโซ่จะประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ จาก 5 ทศวรรษแห่งการเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์คุณภาพระดับโลก สู่ 'ผู้นำการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดียิ่งกว่าเพื่อประชาคมโลกอย่างยั่งยืน' ภายใต้กรอบของการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs - Sustainable Development Goals" เพื่อบรรลุเป้าหมายทั้ง 3 ประการของเด็นโซ่ในภูมิภาคเอเชีย คือ ความเป็นกลางทางคาร์บอน การผลิตในยุคอนาคต และการแก้ปัญหาทางสังคมด้วยเทคโนโลยีของเด็นโซ่
นายนาโอโตะ อินนูซูกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เด็นโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชีย จำกัด กล่าวว่า "ผมขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนสำหรับการสนับสนุนที่ทำให้เด็นโซ่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จนสามารถยืนหยัดเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์เคียงข้างสังคมไทย ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา เด็นโซ่ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และความสะดวกสบายของผู้คน โดยมีจุดมุ่งหมายในการใช้เทคโนโลยีสร้างสรรค์สังคมล้ำสมัยที่ทำให้ผู้คน ยานยนต์ และสิ่งแวดล้อมอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนและสมดุล"
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
ยอดขอติดตั้ง "โซลาร์รูฟท็อป" พุ่ง ในยุคค่าไฟแพง พลังงาน ลดขั้นตอนขอใบอนุญาต
BIG ทุ่มงบกว่า 5 แสนล้านบาท สร้างศูนย์ผลิตพลังงานไฮโดรเจนปลอดคาร์บอนฯ
ดร. ธีระวัฒน์ ลิมปิบันเทิง ประธานบริษัท สยาม เด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนเด็นโซ่พร้อมทั้งประกาศเปิดตัวนวัตกรรมการผลิตแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานภายใต้แนวคิด Lean and Clean หรือ การลดความสูญเปล่าที่เกิดจากกระบวนการผลิตทั้งหมด รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยมีเป้าหมายการลดการใช้พลังงาน และส่งเสริมการผลิตด้วยพลังงานหมุนเวียน พร้อมทั้งจัดการบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปด้วยเพื่อสร้างรากฐานในการก้าวสู่ Thailand 4.0 และ Carbon Neutrality ไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะมาเป็นตัวเปลี่ยนเกมส์ที่นอกจากจะทำให้เด็นโซ่ยืนหยัดเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แล้ว ยังจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ประชาคมโลกให้ความสำคัญ ซึ่งเด็นโซ่จะนำมาใช้เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดียิ่งกว่าอย่างยั่งยืนผ่านการพัฒนาธุรกิจตามกรอบของ SDGs ดังต่อไปนี้
1. ด้านสิ่งแวดล้อม
มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ผ่านโซลูชันด้านอุตสาหกรรม อย่างเช่น การนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในสายการผลิต การออกแบบเครื่องจักรภายใต้แนวคิด 1/N หรือการลดขนาดเครื่องจักรให้มีขนาดเล็กและพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องจักรเพื่อลดการใช้พลังงานและลดการแผ่รังสีความร้อน รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถของการดักจับและจัดเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากสายการผลิต
2. ด้านเศรษฐกิจและสังคม
เพิ่มการลงทุนและการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากญี่ปุ่นให้กับคนไทย รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรผ่านโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นและรัฐบาลไทย รวมถึงการพัฒนาทักษะความสามารถของเจ้าหน้าที่ออกแบบและติดตั้งระบบการผลิตอัตโนมัติทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในอุตสาหกรรม (System Integrator หรือ SI) นอกจากนี้ ยังมีการจัดการฝึกอบรมวิทยากรเพื่อรองรับแผนเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติต่อไป