ปัจจุบันเทคโนโลยีคลาวด์ได้ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดึงดูดผู้ให้บริการและศูนย์ข้อมูลประมวลผลระบบคลาวด์ เข้ามาดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นตามการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศ
ประเทศไทยกำลังดึงดูดเหล่าผู้ให้บริการและศูนย์ข้อมูลประมวลผลระบบคลาวด์ (Cloud Computing) เข้ามาดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นตามการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศ โดยเทคโนโลยีคลาวด์จากจีนมีส่วนช่วยสร้างระบบนิเวศเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและเร่งกระบวนการสร้างความเป็นดิจิทัลของไทย
อาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) เปิดศูนย์ข้อมูลแห่งแรกในไทย ณ กรุงเทพมหานคร อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤษภาคม ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการคลาวด์สัญชาติจีนที่เข้ามาจัดตั้งศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นในไทย ซึ่งมุ่งมอบบริการสนับสนุนทางเทคนิคเพื่อการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลของการค้าปลีก โลจิสติกส์ ความบันเทิงดิจิทัล การเงิน รัฐบาล และอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
“อาลีบาบา คลาวด์ เข้ามาดำเนินงานในท้องถิ่นนานกว่า 2 ปีแล้ว โดยไทยนับเป็นหนึ่งในตลาดยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญมากของเรา” ชิวเซิ่งเหว่ย เจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจไทยของอาลีบาบา คลาวด์ กล่าว
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
ชิวเซิ่งเหว่ย เจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจไทยของอาลีบาบา คลาวด์ ระบุว่าการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมั่นคง ซึ่งศูนย์ข้อมูลของอาลีบาบา คลาวด์ สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวให้ผู้ประกอบการไทย โดยโครงการฝึกอบรมร่วมกับมหาวิทยาลัยและสถาบันท้องถิ่นช่วยเสริมสร้างทรัพยากรผู้มีความรู้ความสามารถด้านการประมวลผลระบบคลาวด์ของไทย รวมถึงแก้ไขปัญหาขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิค ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล
ณัฐวุฒิ วัย 26 ปี ผู้จบการศึกษาสาขาวิชาภาษาจีนเมื่อปี 2018 ซึ่งเข้าร่วมการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องและประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนสายงาน เล่าว่าเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตของไทยตอนเขาเรียนจบยังไม่พัฒนาเท่าปัจจุบัน เขาและเพื่อนๆ ไม่รู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีคลาวด์มากนัก ไม่เคยคิดว่าจะประกอบอาชีพด้านนี้ได้ แต่การฝึกอบรมของอาลีบาบา คลาวด์ช่วยให้เข้าใจและมองเห็นโอกาสจนมั่นใจที่จะทำงานสายนี้
ชิวเซิ่งเหว่ย เสริมว่าตลาดเอเชีย-แปซิฟิก จัดเป็นตลาดที่มีความคึกคักมากที่สุดในภาคเศรษฐกิจดิจิทัลของโลก โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้อาลีบาบา คลาวด์ เปิดตัวโครงการพิเศษในไทยเมื่อปีก่อนร่วมกับหุ้นส่วนต่างๆ เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและการพัฒนาของผู้ประกอบการผ่านความร่วมมือทางเทคนิค
ด้านรัฐบาลไทยนำเสนอยุทธศาสตร์ “ประเทศไทย 4.0” เพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ซึ่งมุ่งสร้างสิบอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ได้แก่ เศรษฐกิจดิจิทัล หุ่นยนต์อุตสาหกรรม การผลิตยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ การแปรรูปอาหาร การบินและโลจิสติกส์ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ และการแพทย์ครบวงจร เป็นตัวขับเคลื่อนใหม่ในการพัฒนาเศรษฐกิจ
ข้อมูลล่าสุดจากการ์ทเนอร์ (Gartner) บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบุว่าบริษัทจีน 3 แห่ง ได้แก่ อาลีบาบา คลาวด์ หัวเหวย คลาวด์ และเทนเซนต์ คลาวด์ จัดอยู่ในกลุ่มผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำของโลก 6 แห่งแรกในปี 2021 โดยปัจจุบันบริษัททั้งสามก้าวเข้าสู่ตลาดไทยแล้ว
นอกจากความร่วมมือระดับบริษัทผู้ประกอบการ เหล่าผู้ให้บริการคลาวด์จากจีนยังเดินหน้าความร่วมมือเชิงลึกกับรัฐบาลไทย ทำงานร่วมกับหุ้นส่วนอุตสาหกรรมรายใหญ่ของไทยในการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี 5G คลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ พร้อมสร้างโอกาสในด้านต่างๆ อาทิ สาธารณสุข การศึกษา การขนส่ง หน่วยงานรัฐ เมืองอัจฉริยะ และอื่นๆ ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจระยะยาว และการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลในไทย
Cr. www.xinhuathai.com