ในช่วงที่ทุกคนต้องพยายาม เว้นระยะห่างทางสังคม โดยบางบริษัทให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ (Work from Home) แต่รู้หรือไม่ การทำงานและไลฟ์สไตล์ที่ไม่สมดุลขณะอยู่บ้าน ทำให้ หมดไฟทำงาน ได้เหมือนกัน
หมดไฟทำงาน (Burn Out) มักเป็นสิ่งที่คนนึกถึงว่าเกิดจากการทำงานที่ออฟฟิสมากเกินไป หมดแรงจูงใจทำงาน หรือสาเหตุอีกมากมาย แต่ภาวะหมดไฟทำงาน ก็เกิดขึ้นได้แม้ทำงานจากบ้าน (Work from Home) เช่นกัน
เมื่อทำงานที่บ้าน บางทีก็ไม่ง่ายเลยทีจะถอยห่างจาก อีเมล จากแชทเรื่องงาน จากทวิตเตอร์ หรือความกังวลเรื่องโปรเจ๊กต่างๆ และหลายคนหลงลืมที่จะหยุดพักจากงาน ปลีกตัวจากเสียงรบกวน และหาเวลาให้ตัวเอง พฤติกรรมทำงานจนไม่สมดุลเหล่านี้ คือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หมดไฟทำงาน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การทำงานจากบ้าน เสี่ยงเกิดภาวะหมดไฟทำงานยิ่งกว่าการออกไปทำที่ออฟฟิสเสียอีก
บทความซีเอ็นเอ็นอ้างผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ไม่ว่าจะเริ่มทำงานจากบ้าน ที่บางคนอาจมีเวลาไม่พอตั้งตัว การที่บางคนต้องให้พี่เลี้ยงลูกหรือแม่บ้านหยุดทำงาน และความตึงเครียดจากสถานการณ์โรคระบาดที่ยังมองไม่เห็นตอนจบ หมายความว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้หมดไฟมากขึ้นมากว่าสถานการณ์ปกติ
การแบ่งเวลาระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวที่ไม่สมดุล
เมื่อคุณต้องเข้าออฟฟิสทุกวันๆ ข้อดีคือเกิดเส้นแบ่งระหว่างชีวิตทำงานและเวลาส่วนตัว แต่เมื่อไม่ต้องเดินทางไปทำงาน กลายเป็นว่าเส้นแบ่งเวลาเริ่มทำงานและสิ้นสุดชั่วโมงทำงานหายไป และออฟฟิสตอนนี้อาจเป็น มุมในห้องนั่งเล่น มุมห้องครัว หรือโต๊ะทำงานในห้องนอน และกลายเป็นทำให้หลายๆ คนทำงานแทบจะตลอดเวลา
รับมืออย่างไร จัดตารางเวลาเพื่อทำงาน สื่อสารให้เจ้านายและเพื่อนร่วมงานเข้าใจ แน่นอนว่ามีวันที่ต้องทำงานดึกๆ ดื่นๆ แต่พยายามให้การทำงานนอกเวลานั้นเป็น “ข้อยกเว้น” ของวันนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องประจำ และลองทำสิ่งอะไรที่เป็นสัญญาณให้ตัวเองว่าถึงเวลาส่วนตัว เช่น ใส่เสื้อผ้ากึ่งๆ ทำงานในชั่วโมงทำงาน และเปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้านสบายๆ เมื่อถึงเวลาส่วนตัว หรือเดินออกมาจากโต๊ะ จิบชา นั่งเล่นที่ระเบียง หรือถ้ามีเวลาพอ ออกกำลัง บริหารร่างกายสัก 15 นาทีก็ยังดี
การที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
พนักงานที่รู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมเวลาการทำงานได้เอง หรือควบคุมปฏิสัมพันธ์ที่จะต้องมีกับกิจกรรมที่เกี่ยวกับงาน หรือการจัดการเวลางาน เสี่ยงที่จะหมดไฟทำงาน
รับมืออย่างไร จัดตารางเวลา แบ่งเวลาให้ชัดเจน ที่เจาะจงเพื่อการทำงาน ครอบครัว และส่วนตัว และพยายามยึดตารางที่ทำขึ้น
การขาดการเชื่อมต่อกับสังคม
แม้ว่าจะอยู่ในบ้านที่มีสมาชิกหลายคน ครอบครัวของคุณอาจไม่ได้เติมเต็มในส่วนที่เพื่อนร่วมงานมีให้ เมื่อเกิดปัญหาเรื่องเกี่ยวกับงาน
รับมืออย่างไร คุณต้องคิดว่าจะมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างไรเมื่อทำงานจากบ้าน แน่นอนว่าอาจต้องใช้ความพยายามมากกว่าสถานการณ์ปกติ เพราะทุกคนอยู่บ้านตัวเอง แต่ก็ควรพยายามเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น จัดเวลาวิดีโอคอลล์กับทีม หรือปรึกษาเรื่องงานกับคนที่คุยกันประจำ เหมือนอย่างเวลาอยู่ออฟฟิส
ต้องติดอยู่กับบ้านเป็นส่วนใหญ่ก็ไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะถ้าบ้านมีขนาดไม่ใหญ่ มันจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำแพงบ้านขยับใกล้ตัวคุณขึ้นมาทุกวัน
สิ่งที่จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น คือพยายามทำให้บ้านหรือแค่บางมุมก็ได้ ดูอบอุ่นสบายๆ และแยกพื้นที่ทำงานและ “พื้นที่บ้าน” ให้ชัดเจน ตกแต่งพื้นที่เล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้นเช่นกัน
เรียบเรียงจาก CNN Business
บทความที่เกี่ยวข้อง สำรวจตัวเองว่าเริ่มมีสัญญาณของการหมอไฟหรือยัง