หนุ่มวัย 29 ปี อาศัยอยู่บ้านในเขตวัด โมโหพระสงฆ์ตีระฆังทำวัดเย็น ชกหน้าไป 3 หมัด จนพระไม่กล้าตีระฆังอีกเลย ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดรุดตรวจสอบสร้างความปลอดภัย
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (9 ก.ย.62) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพระอนุศักดิ์ ฐิตธัมโม อายุ 54 ปี พรรษา 6 พระลูกวัดแม่น้ำ ตำบลบางขันแตก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ว่าถูกชาวบ้านข้างวัดต่อยเข้าที่ใบหน้า สาเหตุเกิดจากการตีระฆังทำวัดเย็น เหตุเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.00 น. จึงไปตรวจสอบที่วัดแม่น้ำ
โดยพระอนุศักดิ์ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า อาตมาได้รับมอบหมายจากพระครูสมุห์คุณากร เจ้าอาวาสวัดแม่น้ำ ให้ตีระฆังในช่วงเข้าพรรษามาเป็นเวลา 6 ปีแล้ว และเมื่อถึงเวลา 17.00 น. หรือ 5 โมงเย็น อาตมาก็จะขึ้นไปตีระฆังบนหอระฆังเพื่อนิมนต์พระทุกรูปในวัดทำวัดเย็น ซึ่งต้องตี 3 ลา หรือ 3 รอบ เมื่อตีได้สักพักก็มีเสียงดังโวยวายมาจากด้านล่าง อาตมานึกว่าพระล้อเล่นก็ไม่ได้คิดอะไร เมื่อตีระฆังเสร็จก็เดินลงมาจากหอระฆัง
ได้มีนายพงพัฒน์ เสรีสมนึก อายุ 29 ปี ซึ่งบ้านอยู่ในเขตวัด เลขที่ 94 หมู่ 1 ตำบลบางขันแตก เดินตรงเข้ามาชกที่ใบหน้าบริเวณหางคิ้วขวา 3 ครั้งทำให้ตนถึงกับมึนและสายตาพร่ามัว นอกจากนี้นายพงพัฒน์ ยังขู่ว่าตนเองมีปืนอีก 3 วัน มาเจอกัน สร้างความหวาดกลัวให้กับอาตมาและพระในวัดทุกรูปจนไม่มีใครมากล้าขึ้นไปตีระฆังตั้งแต่เกิดเหตุ จึงปรึกษากันภายในวัดและเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรสงครามในวันเดียวกัน
ต่อมา เวลา 14.45 น.นายสมบัติ พิมพ์สอน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสงครามได้ เดินทางเข้าพบพระครูสมุห์คุณากร เจ้าอาวาสวัดแม่น้ำ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยายามไกล่เกลี่ยให้วัดกับชาวบ้านอยู่ร่วมกันอย่างสันติโดยมีพระอนุศักดิ์และมารดาของนายพงพัฒน์ มาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยต่างฝ่ายยังมีอารมย์ที่ครุกรุ่น
นายสมบัติ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากอารมย์ชั่ววูบของนายพงพัฒน์ ซึ่งเป็นวัยรุ่น ไม่เข้าใจในวัตรปฏิบัติของคณะสงฆ์จึงเกิดการทำร้ายพระขึ้น จึงได้เชิญผู้ปกครองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัตรปฏิบัติของพระในช่วงเข้าพรรษา ส่วนการทำร้ายร่างกายเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ทางวัดแม่น้ำ ยังได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสงครามเข้ามาตรวจสอบพื้นที่บริเวณรอบวัดที่มีชาวบ้านมาสร้างบ้านในเขตวัดอยู่อาศัย ซึ่งจะตรวจสอบทำให้ถูกต้องตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งตนมั่นใจว่าผู้ก่อเหตุคงเข้าใจและจะไม่ก่อเหตุซ้ำอีก และพระสงฆ์สามารถตีระฆังประกอบกิจของสงฆ์ได้ต่อไปตามปกติ
อย่างไรก็ตาม ต่อมาเวลา 15.30 น.นายพงพัฒน์ เสรีสมนึก ผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้าพบพระครูสมุห์คุณากร เจ้าอาวาสวัดแม่น้ำ และพระอนุศักดิ์คู่กรณีเพื่อกราบขอโทษกับเหตุการณ์ที่ได้ก่อขึ้น โดยนายพงพัฒน์ยอมรับว่าวันเกิดเหตุเข้าใจผิดคิดว่าพระอนุศักดิ์ลงมาตำหนิตนที่ตนตะโกนต่อว่าตีระฆังเสียงดัง จึงเกิดอารมณ์โมโหชั่ววูบจนขาดสติ นอกจากนี้หลังตีระฆังเสร็จตนยังเห็นพระอนุศักดิ์ถือไม้เดินลงมาจากหอระฆังโดยไม่รู้ว่าเป็นไม้ตีระฆังจึงคิดว่าจะเข้ามาทำร้ายตนจึงชิงลงมือก่อน ทั้งนี้นายพงพัฒน์ได้กล่าวคำขอขมาต่อพระอนุศักดิ์ ด้วย