จากชื่อชั้นเชิงมวยของแชมเปียน "บัวขาว บัญชาเมฆ" ปีนี้ก้าวเข้าสู่วงการ NFT เต็มตัว โดยสร้าง Muay Thai NFT ขึ้นเป็นคนแรก และวางขายงานศิลปะดิจิทัลในชื่อคอลเล็กชัน BUAKAW1 ซึ่งมีทั้งหมด 10,000 ชิ้น
ใครจะคาดคิดว่าชีวิตของ บัวขาว บัญชาเมฆ สุดยอดนักมวยไทยที่โด่งดังในเอเชียและก้าวสู่แชมป์สังเวียนมวยโลก เคยต่อยมวยแล้วได้ค่าตัวเพียง 100 บาท แต่ด้วยความตั้งใจมุ่งมั่นพัฒนาฝีมือมาอย่างยาวนาน ใช้หมัดแลกหมัด สู้ยิบตากว่า 288 ไฟต์ ชนะ 254 ไฟต์ สร้างชื่อเสียงโด่งดังให้ประเทศไทยจนค่าตัวสูงกว่า 10 ล้านบาท ถือว่าสูงสุดในประวัติศาสตร์วงการมวยไทย!
ตำแหน่งแชมป์ที่ บัวขาว บัญชาเมฆ เคยได้รับ สามารถดูได้ที่ลิงก์ buakaw.club/th/#roadmap
ปรากฏการณ์ใหม่แห่งปีคือ ปีนี้บัวขาวฮุกเข้าสังเวียนดิจิทัล โดยสร้าง "BUAKAW1" NFT คอลเล็กชันแรกจำนวน 10,000 ชิ้น โดยร่วมมือกับพาร์ตเนอร์มากประสบการณ์ในวงการ Cryptocurrency และ NFT อย่าง
จากนั้นปล่อยงานศิลปะ NFT ช่วง Pre-sale แล้วจึงเปิดให้บุคคลทั่วไปเริ่มซื้อขาย NFT คอลเล็กชันแรกได้ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2565
NFT BUAKAW1 และแผนการ Mint (ซื้อ)
และหากแปลงมูลค่าโดยประมาณ ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 สกุลเงินดิจิทัล 0.09 ETH คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว 7,164 บาท โดยระบบเปิดให้ 1 wallet (กระเป๋าเงินดิจิทัล) สามารถมินต์ได้ไม่เกิน 3 ภาพ ทางลิงก์ https://mint10000.buakaw.club
สำหรับแผนการตลาด NFT Buakaw1
ผู้ที่ถือครอง NFT Buakaw1 จะได้รับสิทธิพิเศษ อาทิ
และสำหรับคอลเล็กชันแรกนี้ บัวขาวไม่ได้ทำตลาดแค่เฉพาะในประเทศไทย แต่ปักหมุดประกาศให้ชาวโลกรู้ ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ฯลฯ เช่นเดียวกับชื่อเสียงของ บัวขาว ที่โด่งดังไปไกลทั่วโลก
จุดที่นำมาชูโรงคือ NFT BUAKAW1 ไม่ใช่แค่การสะสมงานศิลปะ แต่คือ การร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ในโครงการของ บัวขาว บัญชาเมฆ
หลังจากนี้ บัวขาวอาสาพามวยไทยเข้าสู่โลก Metaverse โดยการเปิดระดมทุนผ่าน NFT คอลเล็กชัน BUAKAW1 และจะเปิดตัวนักสู้คนอื่นๆ เข้าสู่สังเวียน NFT ต่อไป
จะเป็นอย่างไรต่อนั้น ต้องติดตาม!