Coldplay โชว์เพลง My Universe BTS ร่วมแสดงผ่านเทคโนโลยี "ฮอโลแกรม"

เพลง My Universe นับเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ของวงการเพลงแห่งปี 2021 เพราะเป็นการ featuring กันระหว่างสองวงที่มีอิทธิพลจากซีกโลกตะวันตกอย่าง วง Coldplay และซีกโลกตะวันออกอย่างวง BTS จากเกาหลีใต้ โดยหลังจากปล่อยซิงเกิ้ลนี้ออกมา ยอดวิวใน Youtube ในช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ก็พุ่งสูงขึ้นเกือบ 134 ล้านวิวแล้ว 
.
และล่าสุด ในการแสดงสด เพลง My Universe ของวง Coldplay ในรายการ The Voice's ทางช่อง NBC เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมาก็ได้เรียกเสียงฮือฮา เพราะโชว์นี้ได้ใช้เทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง "ฮอโลแกรม" นำพาสมาชิกวง BTS มาร้องแบบเคียงข้างกันด้วย แม้ว่า "ตัวเป็นๆ" ของวง BTS จะไม่ได้อยู่ในสตูดิโอก็ตาม 

 Credit : Youtube  Coldplay

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• "Coldplay - BTS" ปล่อยเพลงใหม่ My Universe การ Collaboration ระดับโลก

• Girls’ Generation จ่อคัมแบ็กยูนิต oh!GG ปลายปีนี้ ภาพทีเซอร์สวยจนใจเจ็บ!

• 15 ไอดอลเกาหลี สมาชิกเกิร์ลกรุ๊ป ที่ถูกค้นหามากที่สุดใน YouTube เกาหลี 2021

โดยงานนี้ 7 หนุ่ม สมาชิกวง BTS ทั้ง อาร์เอ็ม, จิน, ชูก้า, เจโฮป, จีมิน, วี และจองกุก ปรากฏตัวมาร้องเพลงเคียงข้าง คริส มาร์ติน นักร้องนำวง Coldplay ได้อย่างสมจริง เล่นเอาแฟนๆที่ชมการถ่ายทอดสด และแฟนๆในสตูดิโอ 
.
ทั้งนี้ เทคนิค "ฮอโลกราฟี่" (holography) นั้น หมายถึง กระบวนการสร้างภาพฮอโลแกรม ซึ่งเป็นภาพ 3 มิติขึ้นมา  โดยเป็นภาพที่บันทึกลงบนฟิล์ม หรือ แผ่นเคลือบด้วยสารสำหรับบันทึกแสง ซึ่งผ่านเทคนิคการบันทึกด้วยการใช้แสงที่มีหน้าคลื่นสอดคล้องกัน (coherence) เช่น แสงเลเซอร์ และเมื่อถูกส่องสว่างอย่างเหมาะสม จะแสดงให้เห็นภาพที่มีลักษณะ 3 มิติ เคลื่อนไหวได้อย่างสุดล้ำและเหมือนจริงเลยทีเดียว และประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้ก็คือการทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้

สำหรับเพลง My Universe อยู่ในสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 9 ของ Coldplay ในชื่อ Music of Spheres ส่วนในประเด็นที่แฟนเพลงทั่วโลกสงสัยว่า เพราะเหตุใด 2 วงนี้จึงมาร่วมงานกันได้นั้น คริส มาร์ติน (Chris Martin) นักร้องนำวง Coldplay  เคยบอกไว้ว่าเสมอๆว่า ดนตรีของวงพวกเขา ไม่อยากจำกัดให้วงต้องทำงานแต่กับศิลปินที่ดูอินดี้อย่างเดียว แต่สิ่งที่เขาอยากสร้างสรรค์คือเพลงที่จะสร้างความสุขให้กับคนทั่วโลก ดังนั้นการร่วมงานกับวงสุดป๊อปแบบ BTS ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และถือเป็นรสชาติใหม่ๆให้กับวงการดนตรีโลก ให้ได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า 

 Credit Youtube Coldplay