Breaking News : ศบค.ยกระดับคุมเข้ม 18 จ. ห้ามขาย-ดื่มสุรา ในร้านอาหาร

วันที่ 16 เมษายน 2564 จากที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) 

ยืนยันยัง ไม่เคอร์ฟิว ไม่ล็อกดาวน์ โดยปรับระดับพื้นที่สถานการณ์เป็น 2 สี (แดง 18 จังหวัด/ส้ม 59 จังหวัด) แต่ให้ปิดสถานบันเทิง และงดจำหน่าย-ดื่มสุราในร้านอาหาร ทั่วประเทศ ปรับเวลาการเปิด-ปิดร้านอาหาร ปิดโรงเรียนหรือสถานศึกษา ห้ามกิจกรรมรวมกลุ่มมากกว่า 50 คน

พื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด

กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม ภูเก็ต นครราชสีมา นนทบุรี สงขลา ตาก อุดรธานี สุพรรณบุรี สระแก้ว ระยอง ขอนแก่น

พื้นที่ควบคุม จังหวัด 59 จังหวัด

พระนครศรีอยุธยา อุบลราชธานี สระบุรี สุราษฎร์ธานี นครสวรรค์ ชุมพร พิษณุโลก นครศรีธรรมราช นราธิวาส ราชบุรี ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี กาญจนบุรี จันทบุรี เชียงราย ปราจีนบุรี บุรีรัมย์ ลพบุรี มหาสารคาม ตราด ชัยภูมิ อ่างทอง สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุทัยธานี นครนายก สมุทรสงคราม ศรีสะเกษ แม่ฮ่องสอน ยะลา ชัยนาท สิงห์บุรี ล าพูน เพชรบูรณ์ กระบี่ ลำปาง กำแพงเพชร สุโขทัย พะเยา หนองคาย เลย พิจิตร ระนองร้อยเอ็ด สกลนคร พังงา ยโสธร ปัตตานี แพร่ ตรัง อุตรดิตถ์ น่าน อำนาจเจริญ นครพนม บึงกาฬ พัทลุง กาฬสินธุ์ สตูล มุกดาหาร

ยกระดับมาตรการในทุกจังหวัด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ดังนี้

1. ปิดสถานบริการและสถานบันเทิง

2. ห้ามการจำหน่ายและงดดื่มสุราในร้านอาหาร

3. ห้ามการจัดกิจกรรมที่มีคนรวมกลุ่มกันเกิน 50 คน (กรณีจำเป็นให้ขออนุญาตต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร)

4. ห้ามการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์

5. งดการเรียนการสอนในห้องเรียน

6. ปิดสวนสนุก และงดเล่นเครื่องเล่น ในห้างสรรพสินค้า

7. จำกัดการใช้บริการในร้านอาหารแบบนั่งในร้าน โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุด ไม่เกิน 21.00 น และพื้นที่ควบคุม ไม่เกิน 23.00 น.

มาตรการยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด 

- ห้ามดำเนินการหรือจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค โดยห้ามใช้อาคาร หรือสถานที่ของโรงเรียน และสถาบันการศึกษาทุกประเภท เพื่อจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใดๆที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม เป็นจำนวนมาก ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่โรคเว้นแต่การใช้เป็นที่เอกเทศตามกฎหมาย 

-ห้าม กิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มกันของคน 50 คนขึ้นไป เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการ โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรค

- เปิดปิดสถานบริการ หรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคทั่วราชอาณาจักร โดยให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้พิจารณาในฐานะคณะกรรมการโรคติดต่อ 

- กำหนดพื้นที่ควบคุมสถานการณ์ คือพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด 

ร้านกาแฟร้านอาหารทั่วไปสามารถเปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. และให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มได้จนถึงเวลา 23:00 น. ในลักษณะของการนำไปบริโภคที่อื่นหรือกลับบ้าน 

-การจำหน่ายเครื่องดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับร้านอาหารหรือสถานที่จำหน่ายสุรา ห้ามขายเด็ดขาด 

- ห้างสรรพสินค้า สามารถเปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติจนถึง 21:00 น. 

-ร้านสะดวกซื้อ supermarket ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่งถนนคนเดิน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติแต่ไม่เกิน 23:00 น. สำหรับร้านหรือสถานที่ซึ่งเปิดปกติตลอด 24 ชั่วโมงให้ดำเนินการเปิด 4:00 น - 23.00น. 

-สนามกีฬา หรือสถานที่ เพื่อออกกำลังกายยิมฟิตเนสสามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกิน 21.00น. 

มาตรการยกระดับพื้นที่ควบคุม 59 จังหวัด

- นั่งรับประทานอาหารในร้านได้ถึง 23.00 น.

- ห้ามขาย/ดื่ม แอลกอฮอล์ในร้าน

- ห้างสรรพสินค้า เปิดถึง 21.00 โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ / สวนสนุกตู้เกม ต่างๆ เป็นต้น 

- ร้านค้า ถนนคนเดิน ซุปเปอร์มาเก็ต สนามกีฬาเปิดได้ตามปกติ แต่ต้องมีมาตรการป้องกันเข้มงวด 

- ห้ามจัดกิจการกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค คือ งดการเรียนการสอนสอบฝึกอบรมหากจำเป็นต้องทำเรื่องขออนุญาต / ห้ามทำกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มเกิน 50 คน 

- ปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการเเพร่โรค (ผับบาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด อย่างน้อย14 วัน)

- งดกิจกรรมสังสรรค์ งานเลี้ยงรื่นเริง

- ขอความร่วมมือทำ WFH 

- มาตรการเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ ให้ทางศปค.สธ ร่วมกับ ศบค.มท จัดหาสถานที่เพื่อรักษาแยกกักผู้ป่วย และ กักกันสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ **ผู้ติดที่เชื้อทุกรายต้องเข้ารับการรักษา จนได้รับการยืนยันว่าหายป่วย

- ทดลองใช้มาตรการนี้ 2 สัปดาห์ ให้ศบค.ชุดเล็กประเมินผลและนำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อปรับมาตรการต่อไป

**โดยมาตรการทั้งหมดจากทดลองใช้ วันที่ 18 เมษายน 2564 หลังเที่ยงคืนวันเสาร์นี้ เป็น เวลา 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะประเมินภาพรวมทั้งประเทศและกําหนดมาตรการต่อไป**