SHORT CUT
ในปัจจุบันที่ดินเผาเริ่มถูกเลือนหายไป แต่ “ภาวินี บุญเนตร” เจ้าของร้านตาปั่นดินเผา ในตำบลด่านเกวียน ยังอยากอนุรักษ์มรดกทางภูมิปัญญานี้ไว้
ในปัจจุบันที่เครื่องประดับดินเผาเริ่มถูกเลือนหายไป แต่ “ภาวินี บุญเนตร” เจ้าของร้านตาปั่นดินเผา ในตำบลด่านเกวียน จังหวัดนครราชสีมา ที่ยังคงอยากอนุรักษ์มรดกทางภูมิปัญญานี้ไว้ เพราะไม่รู้สิ่งเหล่านี้จะหายไปเมื่อไหร่ และหวังส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้มาเรียนรู้
“ถ้าพี่อายุยืนนะ 70 80 ปี พี่ก็จะนั่งร้อยสร้อยนี่แหละ ทำเอาไว้ให้ลูกให้หลานดู จะทำจนไม่มีแรงจะทำแหละ”
ภาวินี บุญเนตร เจ้าของร้านตาปั่นดินเผา ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เธอเล่าว่าเริ่มทำสร้อยดินเผาตั้งแต่อายุ 12 ปี ในตอนนั้นมีหนังเรื่อง “น้ำพุ” ที่กำลังดังมาก หลายคนเริ่มทำสร้อยน้ำพุออกมาขาย และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นชื่อเสียงให้กับตำบลด่านเกวียน แต่หลังจากนั้นไม่นานราคาของเครื่องประดับเหล่านี้ก็เริ่มถูกลง จนเธอตัดสินใจที่จะไม่ทำต่อ
“ตราบใดที่ผู้หญิงยังแต่งตัวสวยๆอยู่ เครื่องประดับเราก็คงไม่หายไปไหนหรอก คิดว่านะ”
ในปีพ.ศ. 2547 กลุ่ม OTOP ของด่านเกวียนก็เริ่มทัวร์นักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาเที่ยว สร้อยน้ำพุและเครื่องปั้นดินเผาต่างๆก็เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างมากเพราะเป็นของฝากที่เบาและขนไปได้ง่าย นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ก็สนใจซื้อเอาไปตกแต่งบ้านและเป็นของฝาก เธอยังเล่าต่อว่า ในตอนนั้นคึกคักจนบริเวณหน้าร้านไม่มีแม้แต่ที่จอดรถ เพราะหน้าร้านเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ทุกร้านในบริเวณย่านด่านเกวียนขายได้หมดเลย โต๊ะขายสร้อยเรียงกันยาว ทุกร้านในตำบลด่านเกวียนจะต้องมีสร้อยน้ำพุ สร้อยข้อมือ พวงกุญแจ ต่างหูขายทุกร้าน ในตอนนั้นคึกคักมาก แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่งก็เหลือร้านของเธออยู่เพียงร้านเดียว
“ใจหายเลย เมื่อก่อนเราทำกลุ่ม มีสมาชิกตั้ง 22 คน ตอนนี้เหลือ 11 คน มันเงียบเพราะเศรษฐกิจหรือเงียบเพราะอะไร เราก็ไม่รู้เลย”
เธอเล่าว่า มีหลายคนเดินเข้ามาถามว่าทำไมแค่ดินทำไมถึงราคาแพง แต่เธอกลับมองว่าการมนุษย์คนหนึ่งเอาดินมาปั้นและแกะลวดลายให้มันสวยงาม ก็ต้องผ่านกระบวนการหลายอย่างกว่าจะได้งานชิ้นหนึ่งออกมา และกระบวนการแต่ละอย่างก็ไม่ได้ง่าย ทำเสร็จก็ต้องนำไปใส่เชื้อเพลิงทีละน้อยๆ เพื่อให้ภาชนะค่อยๆ ปรับตัว และเพื่อไม่ให้ตอนนำไปเผาเกิดการระเบิด ถึงในปัจจุบันพวกหยกจะมีราคาสูงกว่าและดูเหมือนจะเป็นที่นิยมมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยเพื่อไม่ให้สิ่งเหล่านี้สูญหายไป พยายามพัฒนาให้มีสีสัน ให้เข้ากับเสื้อผ้า และเริ่มเปิดขายทางช่องทางออนไลน์มากขึ้นทั้งใน Facebook Line และ TikTok
“บางคนก็เดินมาถามว่าแค่ดินทำไมถึงแพง เราก็เลยทำได้แค่ยิ้ม แล้วก็ขอบคุณค่ะที่ติ จะนำไปพัฒนานะคะ”
เธอบอกว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้อันดับแรกคือใจรัก เธอชอบเนื้อดินที่เอาปั้นแล้วแกะลายสวยๆออกมา ทำออกมาแล้วมีความสุข ให้มันประดับอยู่บนเรือนร่างคน เวลาอยู่บนชุดไทย พอได้เห็นแล้วก็มีความสุข และที่สำคัญคือเป็นมรดกตกทอดของคุณพ่อ ทำมาตั้งแต่รุ่นพ่อ จนมาถึงรุ่นลูกและหลานของเธอก็ยังทำอยู่
เธอหวังว่า ถ้าในอนาคตลูกหลานของตนเองไม่ได้มาสานต่อตรงนี้ ก็หวังว่าจะมีคนรุ่นใหม่หรือใครก็ได้ที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาที่สนใจอยากจะเรียนรู้ เธอก็พร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ให้ อยากจะทำออกมาขายหรือทำไว้ใช้เองคนเดียว ให้กลายเป็นของที่มีชิ้นเดียวในโลกก็ได้ ขอแค่ทำออกมาและอนุรักษ์ไว้ก็พอ เธอยังบอกอีกว่า ไม่จำเป็นต้องมาทำกับบ้านด่านเกวียน แต่ก็อยากให้เอาดินจากที่นี่ไป เพราะดินที่ด่านเกวียนมีความพิเศษคือเหนียว แกร่ง ทน ขึ้นรูปง่ายและสวยด้วย และยังหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นมรดกทางภูมิปัญญาของตำบลด่านเกวียนต่อไปและเป็นหน้าเป็นตาให้กับจังหวัดได้
“เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน ถ้าเราไม่อนุรักษ์ไว้ มันจะโดนจะตัดออกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ”
รับชมเพิ่มเติม