ซื้อเสียงเลือกตั้ง ขายเสียง มีโทษอะไรบ้าง?

พฤติกรรมเข้าข่ายซื้อเสียงมีดังนี้
1. จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด
2. ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใด
3. ทำการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่างๆ ยกเว้นการใช้ความรู้ความสามารถทางศิลปะของตน หาเสียงให้แก่ตนเองโดยไม่ใช้อุปกรณ์ในการแสดงมหรสพ
4. เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด
5. หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง

ผู้ที่ซื้อเสียง มีโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี (มาตรา 158 - มาตรา 159)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• แจ้งเบาะแสทุจริตการเลือกตั้ง 66 ผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ "แอพตาสับปะรด"
• ไม่ไปเลือกตั้ง 2566 ผิดกฏหมายไหม มีโทษหรือไม่ ถูกปรับหรือเปล่า?
• 7 ข้อห้ามบัตรเลือกตั้ง 2566 ห้ามทำเด็ดขาด มีโทษติดคุก 10 ปี ปรับ 2 แสน

ส่วนคนแจ้งเบาะแส กระบวนทางกฏหมายเสร็จสิ้น เอาผิดได้ ได้เงินสินบนจากการนำจับจากจำนวนเงินชดเฉย ศาลสั่งจ่าย
ช่องทางการแจ้งเบาะแส  4 ช่องทาง
- แอพพลิเคชั่น "ตาสับปะรด"
- ศูนย์แจ้งเบาะแสทุจริตการเลือกตั้ง 02-141-8860, 02-141-8579, 02-141-8858
- แจ้งโดยตรงที่ กกต.
- สายด่วน 1444

ส่วนคนรับเงิน(ขายเสียง) มีความผิดเช่นกันโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับ 20,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
แต่ถ้ารับเงินซื้อเสียงมาแล้วแจ้งเบาะแสการทุจริต จะไม่ต้องรับโทษทางกฏหมาย โดยตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 มาตรา 164(2) ในกรณีที่ผู้ฝ่าฝืนเป็นผู้รับหรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ถ้าได้แจ้งการกระทำดังกล่าวต่อคณะกรรมการ (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) หรือผู้ซึ่งคณะกรรมการมอบหมายก่อนถูกจับกุม ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษและไม่ต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง