หน้าที่ต่อทุกชีวิต ของ หมอล็อต ภัทรพล | สำเร็จสุข | EP.170

หมอล็อต หรือ นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์ ผู้ทำหน้าที่ต่อชีวิต เพื่อรักษาทุกชีวิต ผ่านการทำงานตลอดอาชีพ และเขาไม่อยากให้มองเป็นผู้เสียสละ แต่เป็นรักในหน้าที่ และเพื่อ"โอกาสในการอยู่รอด"ต่อไป ของทุกสรรพชีวิตนั่นเอง

หมอล็อต เล่าว่า โลกใบนี้คือโลกของความหลากหลายทางชีวภาพ เราคือ “หมอ” เราคือความคาดหวังของสัตว์หลากหลายชนิด เราเห็นช้างมาตั้งแต่เด็กเพราะเติบโตที่สุรินทร์ พอมาเรียนสัตวแพทย์ก็รู้ว่าช้างตัวนึงค่ารักษาเป็นแสนๆ แต่พอเรารักษาฟรีเราก็ไม่จำเป็นต้องกั๊กอะไร ไม่ต้องคิดว่ายาจะหมด เราก็แค่รักษาและคิดแค่ว่าต้องทำยังไงก็ตามเพื่อให้ช้างเขาหายเจ็บป่วย และสุขภาพดีแข็งแรง

ทั้งหมดที่เราทำ เราทำคนเดียวไม่ได้ แต่เราต้องหาเครือข่าย ต้องทำให้คนเขาคิดและเข้าใจแบบเราและมาช่วยเรา เราทำทุกอย่างก็เพื่อบอกกับธรรมชาติว่า มนุษย์เองเนี่ยก็เป็นสิ่งมีชีวิตสิ่งหนึ่งที่ควรจะอยู่รอดบนโลกใบนี้ด้วยเช่นกัน

ในวัยเด็กเราอาจจะคิดแตกต่างหน่อย เราเป็นลูกตำรวจ แต่พอมีคนถามว่า “ล็อต โตขึ้นอยากเป็นอะไร” แทนที่เราจะตอบว่าเราอยากเป็นตำรวจ แต่เราตอบว่า “เราอยากเป็นโจรที่ใครก็จับไม่ได้ แต่จะมาให้พ่อจับ แล้วพ่อจะได้มีผลงาน ได้เลื่อนขั้น”

"จริงๆ เราเป็นคนเรียนไม่เก่ง แต่ชอบเล่นกีฬา ชอบเล่นบาส รุ่นพี่ที่เรียนจบไปเรียนมหาวิทยาลัยก็ชอบมาบอกว่าต้องเลิกเล่นบาสไปเลยเพราะเรียนหนัก ไม่มีเวลา แต่นั่นกลับกลายเป็นคำถามในใจเราว่าจริงหรือเปล่า แล้วเราก็เลยอยากพิสูจน์ พอต้องเลือกเข้ามหาวิทยาลัยก็เลยเลือกเรียนสัตวแพทย์ แล้วพอไปเรียนจริงๆ ปีแรกก็รู้แล้วว่ามันยากจริงๆ ได้เกรดไม่ถึงสองเพราะมัวแต่เล่นกีฬาแล้วก็ไม่ค่อยเข้าเรียน แต่นั่นก็ทำให้รู้ว่าเราอาจจะยังบาลานซ์ชีวิตตัวเองได้ไม่ดี แล้วก็มาแบ่งเวลาใหม่ ทำให้ทั้งได้เรียนด้วย ใช้ชีวิตที่เราอยากใช้ เล่นกีฬา ทำกิจกรรมไปด้วย แล้วก็เรียนจบได้พร้อมเพื่อนใน 6 ปี" หมอล็อต เล่า

พอเรียนจบก็เติบโตขึ้น ก็ยึดมั่นในความเป็นสัตวแพทย์ของตัวเอง แล้วก็อยากทำอะไรเพื่อสังคมด้วยเลยกลับไปเป็นหมอรักษาช้างที่บ้านเกิดที่จ.สุรินทร์มากกว่าเลือกเปิดคลินิกในเมือง อีกอย่างเราก็ได้อยู่กับพ่อแม่ด้วย ตอนนั้นเขาเกษียณกันพอดีเลยได้ดูแลพ่อแม่ แล้วก็มีความสุข ณ ขณะนั้น

พอได้ขยับขยายการทำงาน จากเป็นหมอรักษาสัตว์ในป่า ได้เข้าไปทำงานในกรม ในรัฐสภา ทำงานเชิงนโยบายก็ได้คิด ได้เห็นอะไรมากขึ้น เราอยู่กับป่าเราเห็นสัตว์ป่า พอไปที่ทะเลเราเห็นชีวิตของปลา ของสัตว์ทะเล ก็เลยตระหนักได้ว่าโลกใบนี้เป็นโลกของความหลากหลายทางชีวภาพ ถ้ามีสิ่งมีชีวิตใดอย่างหนึ่งได้รับผลกระทบ มันก็กระทบถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ด้วย รวมถึงมนุษย์ด้วยเช่นกัน มันเลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เราทำทุกอย่างเพื่อสิ่งมีชีวิตบนโลก

เราอยากให้คนเข้าใจว่าสัตวแพทย์ คือคนที่ถือไมโครโฟน คนที่ยืนบรรยายออกทีวี เพราะนั่นคือการรักษาสัตว์แบบรายฝูง รักษาสัตว์ทุกตัว การรักษาสัตว์ป่าคือเราพยายามทำให้เขาพ้นจากวิกฤต และให้ธรรมชาติและสัญชาตญาณรักษาตัวเขาเองต่อ

หมอล็อต เล่าต่ออีกว่า เวลาเข้าป่าเราก็เอาแค่ของที่จำเป็นไป ของอะไรที่จะทำให้เกิดผลกระทบกับธรรมชาติเราก็ไม่ใช้ เช่นพวกครีมกันแดด แต่สิ่งที่คนจะจำหมอล็อตได้คือคนที่สวมผ้าคาดผม แว่นตากันแดด และนาฬิกา ซึ่งอะไรที่เลือกก็ต้องกระชับ ทะมัดทะแมง และมีฟังก์ชั่นการใช้การที่เป็นประโยชน์กับตัวเราและการทำงานในป่าของเรา

ทุกวันนี้เราก็แค่ใช้ชีวิตของเราไป ทำหน้าที่ของเรา ใช้ชีวิตโดยที่ไม่ไปเปรียบเทียบกับคนอื่น รักษาระดับความสุขของตัวเองไว้ในระดับที่เป็นเส้นตรงตลอด นอกจากการรักษาสัตว์ การได้ช่วยเหลือหรือสนับสนุนคนก็เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่ง

แต่ที่สุขที่สุดก็คงจะเป็นการเห็นแก่ตัวนี่แหละ เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนมาเห็นแก่ตัวด้วยการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ทำดีต่อสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติกันเถอะ และเมื่อไหร่ที่สิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเราไม่เกิดผลกระทบ มันก็จะทำให้เราอยู่รอดได้