Traffy Fondue ตัวช่วยบริการภาครัฐ วันนี้อยู่จุดไหน ?

Traffy Fondue คือ แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมือง ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยทีมนักวิจัยไทย จาก สวทช. กระทรวง อว. ที่ประชาชนสามารถร้องเรียนผ่านระบบและแสดงเป็นแผนที่ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปแก้ไขได้ทันที

ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ หรือ ก.พ.ร. ได้จัดเสวนา Online หัวข้อ “Traffy Fondue”ยกระดับบริการ ตอบโจทย์บริหารเชิงพื้นที่” เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความสำเร็จของการใช้งานในหน่วยงานระดับจังหวัดและท้องถิ่น ที่นำแพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมือง Traffy Fondue มาใช้งานจริง

ปัจจุบันมีจังหวัดเข้าร่วมใช้งาน Traffy Fondue ในการรับแจ้งปัญหาของประชาชนทั้งจังหวัดแล้วจำนวน 10 จังหวัดทั่วไทย และนี่ยังไม่รวมบางหน่วยงานในอีกหลายจังหวัดที่ใช้แล้ว

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

• กางสถิติ traffy fondue คนแจ้งเรื่องกว่า 2.6 แสนเรื่อง ปัญหาถนนหนักสุด
• Traffy Fondue Manager อัปเดตใหม่ สำหรับเจ้าหน้าที่ ฉลาดขึ้น-ใช้ง่ายขึ้น
• Traffy fondue วิธีตั้งค่าแจ้งเตือนน้ำท่วมกรุงเทพฯ ฟีเจอร์ใหม่ แบบ real time

ถามว่าระบบพวกนี้จะช่วยพัฒนาประเทศได้อย่างไร ?

ยกตัวอย่าง คือ กว่าเราแจ้งให้หน่วยงานจะแก้ปัญหาอะไรสักเรื่อง เอาแค่ฝาท่อกระดก เดิมทีกว่าจะอนุมัติซ่อมได้ก็ต้องผ่านหลายขั้นตอน แต่เมื่อแจ้งผ่านทาง Traffy Fondue แล้ว ก็จะช่วยลดขั้นตอนและเวลาการทำงานลงได้มาก

ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม หัวหน้าทีมพัฒนา Traffy Fondue จาก NECTEC สวทช. สรุปไว้ในงานเสวนา  Online นี้น่าสนใจ พร้อมพูดติดตลกด้วยว่า ชื่อเล่นภาษาไทยของแพลตฟอร์มนี้คือ “ท่านพี่ ฟ้องดู”

คอนเซ็ปต์ง่าย ๆ คือ เปลี่ยนจากการที่ประชาชนต้องไปหาเบอร์ หาหน่วยงานรับผิดชอบ เป็นสิบขั้นตอนกว่าจะแก้ไข แต่นี่แค่จัดระบบด้วยการใช้เทคโนโลยีมาผสม โดยเฉพาะไลน์ ก็ลดขั้นตอนแถมเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนรู้ด้วย นอกจากนี้ หน่วยงานที่ใช้ Traffy Fondue ยังมีระบบสถิติให้ดูได้ด้วย

ดร.วสันต์ บอกว่า ปัจจุบัน เทศบาลและ อบต. กว่า 3,000 แห่ง , สถานีตำรวจท้องที่ , การประปา และการไฟฟ้า เข้าร่วมระบบนี้แล้ว นั่นแปลว่า ถ้าปัญหาบางอันไม่ใช่ของหน่วยงานหนึ่ง หน่วยงานที่เห็นก็ส่งเรื่องให้หน่วยงานอื่นได้ทันที ไม่ต้องทำหนังสือ หรือ เชิญหน่วยงานอื่นมาแก้ปัญหาด้วย เช่นสายสื่อสารของ กทม. ที่ต้องส่งให้ กสทช. และ AIS True Dtac มาช่วยจัดการ เป็นต้น

ตัวอย่าง Traffy Fondue ของ กทม. ที่ใช้งานมา 1 ปี มันก็ต้องมีสถิติและผลสำรวจออกมาแน่นอน ซึ่งผลสำรวจพบว่า ประโยชน์หลักที่ได้รับเลย คือ หน่วยงานเข้าใจปัญหาของประชาชนและความต้องการได้ดีขึ้นถึง 76% ช่วยลดระยะเวลาการทำงานต่อเรื่อง ถึง 53 ชั่วโมง หรือคิดง่าย ๆ เร็วขึ้น 6 วันทำการโดยประมาณ ซึ่งจากเรื่องที่รับเข้ามาในระบบ ทำให้หน่วยงานทำงานได้เร็วขึ้นถึง 14 ล้านชั่วโมง ที่สำคัญเลย ลดค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหาไปได้ถึง 885 ล้านบาท ก็ว่าง่าย ๆ 2,800 บาท/เรื่อง

สำหรับหน่วยงานไหนที่สนใจนำไปปรับใช้ สามารถเข้าไปติดต่อทีมงานได้ที่เว็บไซต์ traffy.in.th สำหรับประชาชนที่ต้องการแจ้งปัญหา เพียงแค่แอดไลน์เพิ่มเพื่อน @TraffyFondue ก็สามารถใช้งานได้เลย ส่วนใครที่เคยใช้งานแล้วก็คอมเมนต์มาพูดคุยกันหน่อยครับ