svasdssvasds

4 ประเทศ LGBTQIA+ เที่ยวได้แบบสบายใจ | ลองเล่า | EP.66

4 ประเทศ LGBTQIA+ เที่ยวได้แบบสบายใจ | ลองเล่า | EP.66

รวม 4 ประเทศ LGBTQIA+ Friendly มีครบทั้งกฎหมาย สถานที่ และกิจกรรมที่จะทำให้คุณเดินทางได้อย่างสบายใจ และสถานที่ต้องห้ามพลาด

เดือนมิถุนายนเป็นเดือนแห่ง Pride Month ที่ประเทศไทยของเราก็มีการจัดงาน ขบวนพาเหรดสุดอลังการไปแล้วและก็ยังคงมีกิจกรรมต่างๆตลอดทั้งเดือน ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบัน กลุ่ม LGBTQIA+ เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพทางการเงินและใช้จ่ายสูง โดยจากผลสำรวจล่าสุด กลุ่ม LGBTQIA+ ทั่วโลกมีกว่า 486 ล้านคน อยู่ในแถบเอเชีย 288 ล้านคน และในไทยประมาณ 4 ล้านคน โดยกลุ่ม LGBTQ พลัส จึงทำให้ประเทศต่างๆเปิดรับ และจัดสรรต์ความต้องการขั้นพื้นฐานให้กับ LGBTQIA+ หรือเรียกง่ายๆคือ LGBTQIA+ friendly นั้นเอง

Barcelona, Spain
สำหรับ สเปน ขึ้นชื่อเรื่องของการให้ความสำคัญ และสิทธิของ LGBTQIA+ เพราะที่นี่ออกกฎหมายให้การแต่งงานของเพศเดียวกันสามารถทำได้ในปี 2005 และได้ออกกฎหมายหลายฉบับที่รับรองความเสมอภาค และการคุ้มครองสำหรับชุมชนเพศเดียวกัน รวมถึงผู้ที่ไม่ใช่ Nonbinary และกลุ่มข้ามเพศด้วย ย่าน  L'Eixample ของบาร์เซโล นา ยังถือว่าเป็นเขต LGBTQIA+ ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ในย่านนั้น จะมีร้านหนังสือ ซาวน่า คาเฟ่ บาร์ ร้านอาหาร เซ็กซ์ช็อป และอีกมากมาย

Berlin, Germany
ที่กรุงเบอร์ลินมีสถานที่ที่เรียกกันว่าบาร์เกย์ และเลสเบี้ยน ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งแต่ช่วงปี 1920 (Schöneberg) และถ้าย้อนไปในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงศตวรรษที่ 20 และ 30 วัฒนธรรมของชาว queer เฟื่องฟูเป็นอย่างมากก่อนที่จะถูกนาซีกำจัดจนเกือบหมดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 

เบอร์ลิน เดิมทีก็มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่องของการสังสรรค์อยู่แล้ว สามารถปาร์ตี้กันข้ามวันข้ามคืนได้เลย แต่ที่นี่ก็จะมี คลับ สโมสร แม้กระทั่งโรงแรมต่างๆที่จัดทำเพื่อ LGBTQIA+ โดยเฉพาะ และเมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ Schwules ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งเดียวในโลกที่อุทิศให้กับการค้นคว้าและอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ของวัฒนธรรม LGBTIQ+ ทั่วโลก
 

Sydney, Australia 
ที่นี่เป็นสถานที่ที่เป็นมิตรสำหรับชุมชน LGBTQIA+ มาอย่างยาวนาน เรียกว่า ซิดนีย์เป็นศูนย์กลางของออสเตรเลียและแปซิฟิกใต้ และสร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกเกี่ยวกับการเปิดโอกาสในด้านการมีส่วนร่วม
และนอกจากสถานที่เที่ยวยามค่ำคืน ก็ยังมีมีสถานที่เกี่ยวกับศิลปะ ประวัติศาสตร์ LGBTQIA+ อย่างร้านหนังสือ Darlinghurst ขายหนังสือ นิตยสาร และภาพยนตร์ เกี่ยวกับ queer มาตั้งแต่ยุค 80 
ที่ออสเตรเลียก็มีการออกกฎหมายให้สมรสเท่าเที่ยมได้แล้วตั้งแต่ปี 2560 


Amsterdam, Netherlands
สำหรับเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศแรกในโลกที่ออกกฎหมายการแต่งงานของคนเพศเดียวกันตั้งแต่ปี 2001
และก็ยังมีการออกกฎหมายเกี่ยวกับ LGBTQIA+ จนเรียกได้ว่ามีกฎหมายคุ้มครองคนกล่มนี้เยอะที่สุดในโลกเลย และที่เมือง Amsterdam มีสถานที่สำหรับ LGBTIQ+ อยู่ทั่วทุกแห่ง แต่กิจกรรมมากมายจะรวมอยู่ในย่าน Reguliersdwarsstraat ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง เช่น Cafe't Mandje ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1927 โดยเจ้าของที่เป็น เลสเบี้ยน และยังเปิดมาถึงทุกวันนี้ และยังมีศูนย์การให้ข้อมูลที่ชื่อว่า Pink Point ที่คอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว กลุ่ม LGBTQIA+ โดยเฉพาะ

สำหรับประเทศไทยเอง ททท.มีแผนสร้างการรับรู้ให้ประเทศไทยเป็น LGBTQIA+ Friendly Destination เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวละตินอเมริกาเพิ่ม จากเดิมจะเป็นตลาดยุโรปและอเมริกา 

เพราะมีผลสำรวจระดับโลกชี้ว่า นักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBT มีมูลค่าตลาดสูงถึง 6.64 ล้านล้านบาท และมีกำลังซื้อสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 40%  และมากกว่า 9% มีรายได้ 50,000 - 85,000 บาทต่อเดือน และ อีก 4% มีรายได้มากกว่า 85,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ส่วนใหญ่มีรสนิยมเรียบหรู เน้นแบรนด์และความน่าเชื่อถือเป็นหลัก ไม่เน้นตามเทรนด์เหมือนคนทั่วไป