ย้อนความทรงจำ แมตช์ไทยชนะโอมาน 2-0 เอเชียนคัพ 2007 กับ ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย ซูเปอร์ซับ ที่ ทำ 2 แอสซิสต์ และ ธชตวัน ศรีปาน กัปตันทีมชาติไทย ในเกมวันนั้น , ก่อนที่ไทยจะเจอกับโอมานอีกครั้ง ในเอเชียน 2023 ในวันที่ 21 มกราคม 2567 และทั้ง 2 คน ยังช่วยฟันธงสกอร์ให้อีกด้วย
กระแสฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 หลังจากผ่านพ้นนัดแรก ที่ไทยชนะคีร์กีซสถานได้ ด้วยรูปแบบการเล่นที่สวยงาม ดุดัน และวิธีเข้าทำเกมรุกที่หลากหลาย จนได้รับคำชมจากแฟนบอลไทยอย่างล้นหลาม
ปฏิเสธความจริงไม่ได้เลยว่า ณ เข็มนาฬิกาเดินอยู่ตอนนี้ ในสายตาแฟนบอลมีแววประกายแห่งความหวังของ "ฟุตบอลไทย" กลับมาลุกโชนอีกครั้ง และคู่แข่งในเอเชียน คัพ 2023 เกมที่ 2 ของไทย เป็น คู่ปรับในอดีตอย่างทีมชาติ โอมาน ซึ่ง "ช้างศึก" เคยเจอมาแล้ว 2 ครั้งในปี 2004 และ 2007
โดยในครั้งล่าสุด ในการเจอที่ สังเวียนแข้ง ณ ราชมังคลากีฬาสถาน ในปี 2007 ทีมชาติไทย สามารถ บดเอาชนะโอมานได้ 2-0 ซึ่งถือเป็นความทรงจำแสนหวานของทีมชาติไทยแมตช์หนึ่งในประวัติศาสตร์เอเชียนคัพ
วันเวลาผ่านไป 17 ปี , ไทย และ โอมาน ต้องโคจรมาเจอกันอีกครั้ง ในเอเชียนคัพ 2023 ในคืนวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม 2567 , SPRiNG ขอพาไปทบทวน รอยความทรงจำสีจางๆ จาก สองนักเตะในชุดเอเชียน คัพ 2007 วันนั้น กับ ธชตวัน ศรีปาน กัปตันทีมชาติไทยในวันนั้น และ ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย ซูเปอร์ซับ ทำ 2 แอสซิสต์ ในเกมวันนั้น เขาทั้ง 2 คน ยังหลงเหลือความทรงจำเหลืออยู่มากน้อยแค่ไหนกัน ?
SPRiNG กดเบอร์โทรผ่านแป้มพิมพ์โทรศัพท์ ต่อสายไปที่ "สุภาพบุรุษลูกหนัง" ธชตวัน ศรีปาน ในช่วงก่อนเกม ไทย - โอมาน ไม่กี่วัน...ช่วงเวลานี้ ยังอยู่ในห้วงแห่งความสุข หลังจาก ไทยประเดิมผลงานนัดแรกในเอเชียนคัพ ด้วยการชนะคีร์กีซสถาน 2-0 เราให้โค้ชแบนช่วยทบทวนความทรงจำ 17 ปีที่แล้ว ที่ไทยเคยปราบโอมานมาได้
"ตอนเอเชียนคัพ 2007 เป็นชุดที่ ผสมผสานระหว่าง กลางเก่ากลางใหม่และตัวเก๋า ประมาณ 4-5 คน มีพี่แบน พี่โก้ พี่เทิดศักดิ์ และก็มี ดัสกร มีพิพัฒน์ ต้นกันยา มีลีซอ ส่วนรุ่นกลางๆก็จะเป็น ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ เจษฎา จิตสวัสดิ์ สุธี สุขสมกิจ และ สุรี สุขะ และ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว มีหลักๆจะเป็นพี่โก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง" สุภาพบุรุษลูกหนัง เริ่มเล่า
ขณะเดียวกัน ธชตวัน ศรีปาน ก็ยังย้อนความหลังไปไกลกว่านั้น ไปไกลถึงเอเชียนคัพ 2004 ที่ประเทศจีน ซึ่งไทยก็เจอกับโอมานด้วย (วันนั้นปี 2004 โอมานชนะไทย 2-0) ซึ่ง ธชตวัน ไม่ได้อยู่ในทีมชาติ ณ วันนั้น และความทรงจำของ ธชตวัน ก็เริ่มลางเลือน แต่ก็ยังพอจดจำได้
"ตอนเอเชียนคัพ 2004 ที่จีน ที่เจอกับโอมานเหมือนกัน ตอนนั้นผมไม่ได้ไปด้วย วันนั้นผมน่าจะเจ็บรึเปล่า ไม่แน่ใจ ? แต่เอเชียน คัพ ปี 2000 เล่นที่ เลบานอน เป็นเจ้าภาพ ชุดนั้นก็จะเป็นชุดที่เล่นด้วยกันมานาน และไปเจอกับ อิรักกับอิหร่าน ผมอยู่ในชุดนั้นด้วย"
จากนั้น ธชตวัน ศรีปาน หรือโค้ชแบน ก็เริ่มย้อนความหลังในปี 2007 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพร่วม ในเอเชียน คัพ ครั้งนั้นให้เราฟัง
"ส่วนบรรยากาศในราชมังฯ ปี 2007 ที่ไทยเจอโอมาน ก็ค่อนข้างคึกคัก คนก็เข้ามาเชียร์กันเยอะ เพราะว่าเราเป็นเจ้าภาพร่วม ในหลายๆกรุ๊ป กลุ่มเรา มีทั้ง อิรัก ออสเตรเลีย และก็โอมานพี่ก็คิดว่าคนก็อยากเข้ามาดูฟุตบอลทัวร์นาเมนท์ใหญ่ๆที่จัดในบ้านเรา และเราเองก็ทำผลงานได้ดี ใน 2 นัดแรก เปิดสนามมาเราก็เจอ อิรัก ก็เสมอ (เสมอ1-1) นัดที่ 2 เจอโอมาน เราก็ชนะ 2-0 และส่วน ออสเตรเลีย ต้องบอกว่า เป็นทีมที่รวมนักเตะที่ไปเล่นพรีเมียร์ลีกยุคนั้น เกือบหมดเลย ทั้งทีมเป็นทีมที่เล่นอยู่ ลีกยุโรปทั้งหมดเลย มันก็ยากที่จะต่อกรด้วย รูปร่าง ด้วยทางฟุตบอล ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง"
คือถ้าเจอพวกอาหรับและเล่นในบ้านเรา ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าแพ้ยาก มีโอกาสชนะ มากกว่า 70% ไม่ว่าจะเจอ อิรัก หรือพวกอาหรับ ที่เจอในบ้าน พี่ก็ว่าค่อนข้างสู้ได้ ในทัวร์นาเมนท์นั้น ภายหลังก็มาเปลี่ยนระบบวิธีการเล่นเลย ปกติเล่น 3-5-2 ก่อนหน้านั้น ทัวร์นาเมนท์นั้นก็มาเล่น 4-4-2 หมดเลย ก็จะเรียกกันว่า 4 จตุรเทพ มีน้าเทิด (เทิดศักดิ์ ใจมั่น) มีพี่ ดัสกร ทองเหลา และ นิรุจน์ สุระเสียง เรียกได้ว่ารวมมิดฟิลจอมเก๋า" ธชตวัน ศรีปาน กุนซือสโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด หวนความทรงจำด้วยเสียงอันสดใส
จากนั้นในช่วงท้ายบทสนทนาภาษาลูกหนัง ธชตวัน ศรีปาน ยังวิเคราะห์อีกว่า ทีมชาติไทย มีโอกาสผ่านโอมานได้ในเอเชียนคัพ 2023 และทีมชาติไทยจะมีโอกาสเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้
"อย่างที่เคยบอกว่าเวลาเราเจอบอลอาหรับที่ไม่ได้เหนือกว่าเรามาก โดยเฉพาะอิหร่าน พี่มองว่าเรามีโอกาสชนะได้ทุกทีม ด้วยฟอร์มของกองปัจจุบันเอง และด้วยวิธีการของอิชิอิที่ทำทีม ด้วยแทคติค ด้วยวิธีการอาจจะทำให้สิ่งที่มันได้เกิดขึ้นเหมือนนัดแรก ก็จะมีทรานซิชั่น การหลุด การโต้กลับ ไม่ว่าจะเป็นการปรับจากรับเป็นรุก counterattack มันก็จะเห็นค่อนข้างเยอะในวันนั้น
และก็คิดว่ามีโอกาสที่จะได้ประตู จากจังหวะแบบนี้เยอะ เหมือนกับทีมแรกที่ได้ประตูมา คิดว่าเกม มันคงจะเปิด พี่ก็คิดว่าเรามีโอกาสชนะโอมาน 2-1"
สิ้นเสียงบทสนทนากับ ธชตวัน ศรีปาน , SPRiNG ต่อสายไปยัง "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ซูเปอร์ซับในวันนั้น วันที่ไทยเอาชนะโอมาน 2-0 ในเอเชียน คัพ 2007 และเขาคือ "คนจ่าย" 2 ประตูในเกมนั้น ให้กับ พิพัฒน์ ต้นกันยา เป็นผู้สังหารประตู และ ลีซอ ก็เริ่มเล่าความหลังด้วยน้ำเสียงสดใส
"วันนั้นที่เจอโอมาน ก็เป็นวันที่เราเล่น ด้วยความหวัง เพราะว่าเราเล่นในบ้านด้วย และเราก็เป็นเจ้าภาพ ตอนนั้นหวังว่าเราจะได้แต้มอย่างน้อยก็อยากจะได้แต้ม เพราะว่าคิดว่า ออสเตรเลีย (คู่แข่งในกลุ่ม) ก็อาจจะเหนื่อยหน่อย"
แต่ว่า ณ ตอนนั้น และเราก็เห็น อิรักและโอมานมาแล้ว พอเห็นออสเตรเลียก็เลยคิดว่าเราก็น่าจะสู้ได้นะ ด้วยสภาพทีม สภาพร่างกาย และก็อากาศด้วย ทั้งคนเชียร์คนให้กำลังใจ ก็ค่อนข้างเยอะ เสียงเชียร์และเสียงปรบมือ ก็ยังอยู่ในความทรงจำอยู่ แต่ด้วย ณ ตอนนั้น สกอร์ 0-0 อยู่ ด้วยความที่ว่าสภาพร่างกายพร้อม เราก็ลงไปแบบคึกคักเลย ทำนองนั้น ก็รอลงอยู่แล้วตามสไตล์เรา พอลงไปก็ทำแอสซิสต์ได้ เข้าลูกแรก เกมมันกดดันมา พอได้ขึ้นนำทุกคนก็ดีใจ ส่วนลูกที่ 2 พี่ตี๋ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (ผู้รักษาประตู)น่าจะเตะมาจากข้างหลัง เราชอบอยู่แล้วที่จะขึ้นโหม่งหรือขึ้นปะทะ...มันก็ทางของเรา ก็จังหวะเตะยาวมาเราก็ขึ้นโหม่งชงเลย
แล้วก็ทิ้งจังหวะกระโดดขึ้นก่อน ก็จะมีพี่ต้น (พิพัฒน์ ต้นกันยา) ที่อยู่ข้างหลัง ก็ได้ยินเสียงเขาก็เรียกนั่นแหละ ก็ไม่รู้นะว่าเขาอยู่ตรงไหน แต่ก็ขอให้เราสัมผัสบอลโดนก่อน ...เพื่อโหม่งชง เพราะว่าถ้าสัมผัสโดนก็จะมีโอกาสที่ชิงจังหวะได้"
และ ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย ก็จบการย้อนความหลัง ด้วยน้ำเสียงที่ฉายแววความภาคภูมิใจ ที่มีส่วนในชัยชนะอันแสนหวานของทีมชาติไทยในวันนั้น แล้วจากนั้นก็เริ่มวิเคราะห์ความเป็นไปได้ ในเกมที่ไทยจะเจอกับโอมาน ในคืนวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม 2567 นี้
"โดยส่วนตัวมองว่าสู้ได้นะสู้ได้แน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่าฟุตบอล อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ เพราะชุดนี้ที่เราเห็นเกมแรกไป มันก็ทำให้เรามีความหวังว่าน่าจะมีโอกาสที่ดีได้ถ้าเล่นได้เหมือนเกมแรก แต่รูปเกม อาจจะไม่เหมือนเกมแรกหรอก เพราะว่าโอมานคุณภาพก็ต้องดีกว่าเราอยู่แล้ว เพียงแค่เราเล่นให้เหมือนแมตช์แรก (ชนะคีร์กีซถาน) และไม่พลาดง่ายๆ รู้จักรับ รู้จักรุก ช่วยกันวิ่งช่วยกันไล่ จัดตำแหน่งให้ดี ก็น่าจะต่อกรกับโอมานได้ ก็เป็นเกมที่เหนื่อยสำหรับเรา แต่โชคดีที่เราทำ3แต้มมาจากเกมแรก เพราะฉะนั้น เกมนี้ เราก็ยังไม่ได้ยากมาก ยังเสมอได้ ผมคิดว่าเกมนี้ 1-1"
สำหรับ ผลการแข่งขันระหว่างไทยกับโอมาน ในเอเชียนคัพ 2023 ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร กองเชียร์จะพบกับเสียงหัวเราะ หรือ ซึมกับความไม่สมใจ...คงต้องรอพิสูจน์ ... แต่วันนี้ เราได้มารำลึกถึงความหลัง กับ 2 นักเตะที่เคยขยี้โอมานในอดีต...ก็ถือว่า ได้ รอยยิ้ม และมีแรงเชียร์ทีมชาติไทย ต่อไป...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง