คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติยกเลิกโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังลำดับที่ 57 โดยมีผล 1 ต.ค. 65 ยันไม่กระทบต่อสิทธิรักษาประชาชน ขณะที่การจัดยาต้านไวรัสโควิด-19 อนุญาติให้สถานพยาบาลทุกสังกัดจัดซื้อยาเองได้ โดยเริ่ม 1 กันยายน นี้
วันนี้ (8 ส.ค. 65) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ตามพระราชบัญญติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ครั้งที่ 6 / 2565 นายอนุทิน ระบุภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อว่า ในที่ประชุมโรคติดต่อมีมติ คือเตรียมประกาศลดระดับให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง ลำดับที่ 57 เช่นเดียวกับ โรคไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออก เป็นต้น
โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ผู้ติดเชื้อเริ่มลดลง เห็นชอบกรอบนโยบายเฝ้าระวังโรคโควิด-19 เนื่องจาก โควิด-19 สามารถควบคุมได้ให้สอดคล้องกับการบริหารยาในโรงพยาบาล จึงสามารถให้โรงพยาบาลจัดซื้อยาเองได้ คณะกรรมการโรคติดต่อเห็นชอบการยกเลิกชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย และโรคติดต่อเฝ้าระวัง จึงได้ปรับโควิด-19 เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• "โอมิครอน" BA.4.6 ทั่วโลกจับตาโควิดสายพันธุ์ใหม่น่ากังวล เติบโต-แพร่เร็ว
• ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด (ผลบวก ATK) เพิ่มสูงสุดกว่า 2.3 แสนคน สะสมทะลุ 7 ล้านราย
• "หมอมนูญ" ยกเคส "ติดโควิดรอบ 2" ห่างแค่ 19 วัน อาการรุนแรงกว่าครั้งแรก
ทั้งนี้ หลังจากกระทรวงเห็นชอบให้สถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนสามารถจัดซื้อยาต้านไวรัสโควิด-19 เองได้ ก็จะให้ทาง สปสชเป็นผู้กำหนดราคากลางในการจัดซื้อ และยืนยันยาต้านไวรัสไม่ขาดแคลน แต่การจัดยาต้านไวรัสให้เป็นไปตามดุลพินิจของแพทย์
รมว.สาธารณสุข ย้ำว่า การคลายล็อกเรื่องยาต้านไวรัสโควิด-19 กระทรวงทำตามแผนที่คิดว่าเหมาะสม มีนักวิชาการผู้รู้ พิจารณาตามความเห็นชอบแล้ว ไม่ได้ช้า อย่างที่สังคมตั้งข้อสงสัย เพราะ จะดูจากเฟสบุ๊กหรือความเห็นของคนใดคนหนึ่งไม่ได้
กรณีที่มีตู้จำหน่ายกัญชาหยอดเหรียญ ตนเห็นภาพแล้ว ต้องดูว่า ได้รับการอนุญาติหรือไม่ หากไม่ได้รับอนุญาติ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายทซึ่งมีหน่วยงานท้องถิ่นกำกับดูแลอยู่แล้ว และกรณีต้นกัญชาที่นำภายในอาการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ถาม ไม่เหมาะสมตรงไหน เพราะกระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าของนโยบายในการอนุญาติให้ปลูกกัญชา
ส่วนสถานการณ์โรคฝีดาษวานร ในที่ประชุมรับทราบการสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษวานร สำหรับใช้ในกลุ่มเสี่ยงเช่น กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องดูแลผู้ป่วย กลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ไม่ได้เป็นการจัดวัคซีนให้กับทุกคน ส่วนการรักษาเป็นไปตามสภาพของโรค
ส่วนที่นายอนุทิน พูดในเวทีปราศรัยว่า หากจำเป็นต้องเป็นนายกรัฐมนตรีก็พร้อม นายอนุทินระบุว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้ง ถ้ามีที่นั่ง สส. ครบก็เป็นไปตามเกณฑ์ ซึ่งเราต้องคิดบวกไว้ก่อน ถ้าคิดว่าต้องเป็นฝ่ายค้านก็จะคิดนโยบายไม่ออก ในแต่ละพรรคก็มีการเสนอ ตัวแทนที่จะเป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรี อย่างพรรคภูมิใจไทยก็เสนอ คนเดียวมาตลอด