ศบค. เปิดฉากทัศน์โควิด ปอดอักเสบ-เสียชีวิตพุ่ง ยอดติดเชื้อรอบสัปดาห์ทะลุ 2 แสนราย ยอมรับ ATK ติดเชื้อเฉลี่ยวันละ 28,793 คน แนะกลุ่ม 608 รับวัคซีนเข็มกระตุ้น
วันที่ 4 ส.ค.2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย โดยระบุถึงรายละเอียดแนวโน้มผู้ป่วยปอดอักเสบ ในรอบ 14 วัน พบว่า มีจำนวนผู้ป่วยใส่ท่อเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนจาก 393 ราย เป็น 476 ราย คน ทั้งนี้มาจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนผู้เสียชีวิต 21 ราย เพิ่มมาเป็น 29 ราย เมื่อดูผู้เสียชีวิตพบว่าอยู่ในกลุ่ม 608 ถึง 97% และหากวิเคราะห์ในจำนวนนี้ผู้เสียชีวิต จะพบว่าเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นถึง 22 ราย และเมื่อดูจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่มีการลงทะเบียนแบบ OPSI หรือการตรวจ แบบATK มี รวม ในสัปดาห์ที่ 30 หรือระหว่าง 24-30 ก.ค. 65 มี 201,554 ราย หากเฉลี่ยเป็นการติดเชื้อรายวันจะมี 28,793 ราย
ซึ่งผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ในส่วนผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ มีแนวโน้มน่าเป็นห่วง และเพิ่มจำนวนมากขึ้น ดังนั้นกลุ่ม 608 ควรรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ส่วนเสียชีวิต ก็แนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ทลายแหล่ง "ยารักษาโควิด"เถื่อน! มูลค่ากว่า 10 ล้าน อนุทิน ย้ำยังไม่มีขาย
นวัตกรรมของไทย! เครื่องเป่าตรวจโควิด-19 จากลมหายใจ แม่นยำเสมือน RT-PCR
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า จากฉากทัศน์โควิดพบว่าผู้ป่วยรายใหม่ยังอยู่ในเส้นคาดการณ์ (สีเขียว) แต่ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจไต่ขึ้นไปที่เส้นสีแดง จากเส้นทึบที่เป็นสถานการณ์จริง ตัวเลขกลุ่ม 608 และยังไม่ได้รับวัคซีนแนวโน้มในสัปดาห์ต่อไป และถึงสิ้นปีนี้จะมีตัวเลขเพิ่ม ดังนั้นอยากให้ไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งสอดคล้องกับเส้นการเสียชีวิต พบว่ากราฟแตะเส้นประสีแดง เกินฉากทัศน์
ส่วนศักยภาพการครองเตียงในสถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน ไม่ถึง 20% ส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มสีเขียวเยอะมีแค่บางพื้นที่ที่อัตราของเตียงระดับ 3 แดงบางนิดหน่อย แต่เตียงผู้ป่วยยังสามารถขยายได้ ส่วนยาและเวชภัณฑ์มีเพียงพอ โดยยาโมลนูพิราเวียร์ มีเพียงพอ ย้ำการจ่ายยาควรทำโดยแพทย์ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เนื่องจากห่วงคุณภาพ และอาจเกิดอันตราย
ส่วนศักยภาพการครองเตียงในสถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน ไม่ถึง 20% ส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มสีเขียวเยอะมีแค่บางพื้นที่ที่อัตราของเตียงระดับ 3 แดงบางนิดหน่อย แต่เตียงผู้ป่วยยังสามารถขยายได้ ส่วนยาและเวชภัณฑ์มีเพียงพอ โดยยาโมลนูพิราเวียร์ มีเพียงพอ ย้ำการจ่ายยาควรทำโดยแพทย์ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เนื่องจากห่วงคุณภาพ และอาจเกิดอันตราย