ตัวแทนเหยื่อ "คอลเซ็นเตอร์" หอบ 156 รายชื่อ ร้อง "ปวีณา" เร่งช่วยติดตามคดี โดนหลอกเงินสูญกว่า 76 ล้าน เผยกลุ่มที่ถูกหลอกมากสุดเป็นผู้หญิงที่ทำงานอยู่บ้าน
ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี รังสิต-นครนายก คลอง 7 ธัญบุรี จ.ปทุมธานี น.ส.พรทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี พร้อมด้วย นายยศวิน (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ผู้เสียหายถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน เป็นตัวแทนนำรายชื่อกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 156 คน ความเสียหายกว่า 76 ล้านบาท ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดี และประสานตำรวจให้ช่วยสอบสวนขยายผลจากกลุ่มผู้ต้องหาที่ไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศกัมพูชา หลังตำรวจตามจับกุมมาได้ และผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกหลอกไปทำงานที่กัมพูชาที่ช่วยเหลือกลับมาประเทศไทย พร้อมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินโดยเฉพาะบัญชีม้าเพื่อเร่งนำเงินคืนให้กับผู้เสียหาย
น.ส.พรทิพย์ เปิดเผยว่า ตนสูญเงินไปกว่า 4 แสนบาท โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ DHL แจ้งว่ามีพัสดุตกค้าง มีสิ่งผิดกฎหมาย และมีความเชื่อมโยงกับ นายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ที่ถูกจับคดีฟอกเงิน ซึ่งตนไม่เคยรู้จักและไม่เคยเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายใดๆ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แจ้งให้พิสูจน์ด้วยการโอนเงินไปตรวจสอบบัญชี อ้างว่าถ้าตรวจสอบเสร็จจะโอนเงินคืนให้ ตยจึงได้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการโอนเงินไปให้ก่อนจะรู้ว่าถูกหลอก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สธ.เตือน! "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" อ้างเป็นจนท. หลอกถามข้อมูล หลังฉีดวัคซีนโควิด
วิธีตั้งค่า S.O.S. โทรศัพท์ ส่งข้อความฉุกเฉิน เมื่อเจอมิจฉาชีพทำยังไง
วิกรม ตั้งรางวัลนำจับ 1 ล้าน แก๊งมิจฉาชีพแอบอ้างชื่ออมตะหลอกลวงคนร่วมลงทุน
น.ส.พรทิพย์ กล่าวอีกว่า จากการรวบรวมกลุ่มผู้เสียหายพบว่าในจำนวนเหยื่อ 156 ราย เป็นผู้หญิงถึง 95% ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่อยู่บ้าน แม่เลี้ยงเดี่ยว แม่ลูกอ่อน หญิงตั้งครรภ์ หญิงในวัยเกษียณ และผู้หญิงที่ดูแลเด็กและคนชรา จึงทำให้มีเวลาคุยกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ครั้งละนาน ๆ บางรายคุยถึง 3 ชั่วโมงจนหลงเชื่อและโอนเงิน
นายยศวิน กล่าวว่า ช่วงเดือน พ.ย.64 น้องสาวของตนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาลักษณะเดียวกัน อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ DHL แจ้งว่ามีพัสดุตกค้างมีสิ่งผิดกฎหมาย และมีความเชื่อมโยงกับนายสมศักดิ์ ที่ถูกจับคดีฟอกเงิน น้องของตนก็ต้องการแสดงความบริสุทธิ์จึงโอนเงินไป 2.1 ล้านบาท ในครั้งเดียว และคิดว่าเขาจะโอนกลับคืนมาให้หลังตรวจสอบเสร็จ แต่ดูแล้วไร้วี่แววจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก จากนั้นตนได้พาน้องสาวไปแจ้งความแต่คดีไม่คืบหน้า
นายยศวิน กล่าวอีกว่า ตนได้สืบหาข้อมูลพบว่ามีผู้เสียหายที่ถูกหลอกเช่นเดียวกันจำนวนมากที่แจ้งความตาม สน. และ สภ.กระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงได้รวมตัวกันขึ้นมาและอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมคดีและเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดเพื่อเร่งนำเงินคืนให้กับผู้เสียหาย เนื่องจากบางรายเดือดร้อนจนเป็นโรคซึมเศร้าเคยคิดฆ่าตัวตายกันหลายคน
ล่าสุดเห็นข่าวที่มูลนิธิปวีณาฯ ประสานตำรวจช่วยเหลือเหยื่อที่อ้างว่าถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศกัมพูชากลับมา จึงได้ตัดสินใจรวมตัวกันเข้าขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ
ทั้งนี้ หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ศูนย์ PCT สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยนางปวีณา จะติดตามร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดคดีให้เกิดความเป็นธรรมต่อไป
ข้อมูลจาก : คมชัดลึก