เที่ยวป่าหน้าฝนได้อะไรมากกว่าที่คิด วันนี้ขอพาไปอีสานเขียวเที่ยวหน้าฝน ชมธรรมชาติ ยลวิถีท้องถิ่น 3 จังหวัด สกลนคร นครพนม มุกดาหาร
เมืองไทยไม่ว่าภาคไหนๆ ก็น่าเที่ยวเหมือนกันหมด เรียกได้ว่าสุขทันทีที่เที่ยวไทย เพราะแต่ละภาคมีแหล่งท่องเที่ยวที่แตกต่างกันออกไป ทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตท้องถิ่น จะพูดว่าเมืองไทยเที่ยวได้ทั้งปีก็ว่าได้ อย่างเช่น ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน ก็น่าท่องเที่ยวไปอีกแบบหนึ่ง เนื่องจากธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพร ที่เขียวขจี มองไปทางไหนก็สดชื่น บางพื้นที่น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ล่องแก่งกันได้อย่างสนุกสนาน หลังแล้งมานาน และยังท่องเที่ยวเชื่อมโยงวิถีท้องถิ่น ได้อะไรมากมายจากการท่องเที่ยวช่วงหน้าฝน
วันนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีสถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน 3 จังหวัดภาคอีสานมาแนะนำสำหรับใครที่กำลังวางแผนเที่ยวอยู่ตอนนี้ เตรียมเก็บกระเป๋า พร้อมออกเดินทางกันเลย
ที่แรกที่จะนำเสนอ คือ กิจกรรมล่องแก่งน้ำพุง ชุมชนท่องเที่ยวกกปลาซิว ตั้งอยู่ที่บ้านโพนแพง ต.กกปลาซิว อ.ภูพาน จ.สกลนคร มีต้นน้ำมาจาก "เขื่อนน้ำพุง" และไหลตามแก่งไปลงที่หนองหาร จ.สกลนคร ระดับความลึกของน้ำในแก่งประมาณ 2 - 3 เมตร สามารถทำกิจกรรมพายเรือคายัคล่องแก่ง ผ่านแก่ง 3 แก่ง ได้แก่ แก่งหัวคุณ แก่งยานหนู และแก่งยายศรีพรม ชมวิวสวยงามสองข้างทาง ตลอดระยะทางการล่องประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 2-3 ชั่วโมง
**กิจกรรมพายเรือคายัคล่องแก่ง ต้องติดต่อชุมชนล่วงหน้าเพื่อจัดเตรียมเรือและตรวจสอบระดับน้ำ ติดต่อได้ที่ Facebook : แก่งน้ำพุง ชุมชนท่องเที่ยวกกปลาซิว
ไม่เพียงเท่านี้บริเวณใกล้เคียงจุดล่องแก่ง ยังสามารถเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนได้อีกหลายจุด เช่น ชมภาพรอยสลักผา 3,000 ปี ที่ภูผายล, ล่องแพไม้ไผ่ชมวิว เล่นน้ำ รับประทานอาหารกลางวันกลางลำน้ำ นั่งซุ้มแพริมน้ำ มีร้านค้าอาหาร ห่วงยาง เสื้อชูชีพ เรือคายัค ไว้บริการ หรือเดินเล่นชมวิวที่สะพานบุญ สะพานแขวนหนึ่งเดียวของชุมชนกกปลาซิว
หลังจากสนุกสนานกับกิจกรรมล่องแก่งแล้ว ชวนเดินทางไปที่ ชุมชนบ้านท่าแร่ อำเภอเมืองสกลนคร ชุมชนชาวคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ถ่ายรูปเก๋ๆ กับตึกโบราณสวยๆ สไตล์โคโรเนียลแบบฝรั่งเศสอายุนับ 100 ปี สัมผัสวิถีชุมชนชาวคาทอลิคที่เรียบง่าย ชมโบสถ์อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ซึ่งเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่รูปทรงคล้ายเรือเพื่อระลึกถึงการอพยพมาตั้งถิ่นฐานของคริสต์
ก่อนกลับเพื่อความเป็นสิริมงคล อย่าลืมไปสักการะ พระธาตุเชิงชุมวรวิหาร พระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดสกลนคร เจดีย์ก่ออิฐถือปูน ฐานสี่เหลี่ยม สูงประมาณ 24 เมตร ยอดฉัตรทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ ภายในวิหารประดิษฐานหลวงพ่อองค์แสนพระพุทธรูปศิลปเชียงแสน ปางมารวิชัย อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวสกลนคร
จากนั้นข้ามจังหวัดไปที่ ถ้ำนาคี อุทยานแห่งชาติภูลังกา มีพื้นที่ครอบคลุม อ.บ้านแพง จ.นครพนม และ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2522 มีลักษณะเป็นภูเขาเรียงซ้อนกันตามแนวแม่น้ำโขง คือ ภูลังกาเหนือ ภูลังกากลาง และภูลังกาใต้ ทอดยาวตามแนวทิศเหนือกับทิศใต้และสลับด้วยเทือกเขาขนาดเล็กหลายลูกสลับซับซ้อนกัน พร้อมทั้งทอดยาวตามแนวลำน้ำโขง มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ที่จุดสูงสุดบนภูลังกาเหนือ สูง 563 เมตรจากระดับน้ำทะเล สภาพโดยทั่วไปของพื้นที่เป็นภูเขาหินทราย
ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติภูลังกานับเป็นที่ที่มีความโดดเด่นในเรื่องธรณีวิทยา ก้อนหินบนภูลังกาแต่ละก้อนมีลักษณะแปลกตาคล้ายเกล็ดพญานาค ปรากฏให้เห็นหลายจุดบนภูลังกา รวมทั้งมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติฝั่งถ้ำนาคี ซึ่งมีหินหัวพญานาคให้ชมถึง 9 เศียร
ในช่วงฤดูฝน เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกตาดโพธิ์ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินสู่ถ้ำนาคี จะมีความสวยงามเขียวชอุ่มเป็นอย่างมาก และมีจุดท่องเที่ยวที่สวยงามให้แวะชมได้ตลอดเส้นทาง เช่น
จากนั้นมาต่อกันที่ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม สักการะพระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม พระธาตุประจำวันผู้เกิดวันอาทิตย์ หรือ ผู้ที่เกิดปีวอก เป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมือง และศูนย์รวมจิตใจของชาวนครพนม ชาวไทยภาคอื่น ๆ และพี่น้องชาวลาวอีกด้วย
เมื่อเดินทางถึงตัวเมืองนครพนมแล้ว ชวนไปไหว้ขอพร พญาศรีสัตตนาคราช เป็นรูปปั้นพญานาคเจ็ดเศียร พ่นน้ำ ขดลำตัวและหาง หล่อด้วยโลหะทองเหลือง หันหน้าออกสู่แม่น้ำโขงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และบริเวณใกล้กัน คือ ลานพนมนาคา หมาะกับการเดินชิลๆ ชมทิวทัศน์ริมแม่น้ำโขง และชมความสวยงามของทิวเขาฝั่งเมืองท่าแขก สปป.ลาว
ไปต่อกันที่ จ.มุกดาหาร พาชมดอกไม้ป่า ดูหินเทิบ พายซัพบอร์ด ที่ อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ อ.เมือง โดยสถานที่แห่งนี้ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ
ปิดท้ายทริปชวนไปเที่ยวตามรอยเส้นทางพญานาค 3 พิภพ ความมหัศจรรย์ของพญานาค 3 องค์ ที่บังเอิญตั้งอยู่บนแนวเส้นลองจิจูดเดียวกันที่ตำแหน่ง 104 องศา 43 ลิปดา เป็นตัวแทนแห่งพญานาค 3 พิภพ ซึ่งชาวมุกดาหารเชื่อว่าเป็นสิ่งปกปักคุ้มครองเมืองมุกดาหารให้สงบร่มเย็น ได้แก่ พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ตั้งอยู่ภายใน วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ (เปรียบเสมือนพญานาคฟ้า) พญาอนันตนาคราช (เปรียบเสมือนพญานาคน้ำ) อยู่บริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 และ พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช (เปรียบเสมือนพญานาคดิน) โดดเด่นสวยงามบริเวณสวนสาธารณะแก่งกะเบา
ชวนทุกคนเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า และออกเดินทางไปเที่ยวเมืองไทย สัมผัสบรรยากาศชุ่มฉ่ำและความสวยงามของธรรมชาติในช่วงหน้าฝนกัน รับรองว่าจะฟินไม่น้อย เรียกได้ว่า “สุขทันที ที่เที่ยวไทย”
#AmazingThailand
#สุขทันทีที่เที่ยวไทย