svasdssvasds

กสทช. จัดงานสัมมนาวิชาการ”กสทช. ประจําปี 2565”

กสทช. จัดงานสัมมนาวิชาการ”กสทช. ประจําปี 2565”

สํานักงานกสทช. จัดงานสัมมนาวิชาการ”กสทช. ประจําปี 2565” ขับเคลื่อนการพัฒนากิจการสื่อสารของ ประเทศอย่างยั่งยืนบนฐานวิชาการ

สำนักงาน กสทช. จัดสัมมนาวิชาการ กสทช. ประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิด “ Knowledge Prosperity “ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มช่องทางในแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในกิจการสื่อสารตลอดจนวิทยาการที่ ทันสมัยและทรงคุณค่าทางวิชาการให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง

โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจาก พลอากาศโท ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช. ด้านกิจการกระจายเสียง,ผศ.ดร. ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการกระจาย เสียงและโทรทัศน์ และ ผศ.ดร. บุญประเสริฐ สุรักษ์รัตนสกุล ประธานสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเทคโนโลยี สารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังร่วมเสวนา



 

พลอากาศโท ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช. กล่าวในหัวข้อ ทิศทางการกํากับดูแลกิจการ ดาวเทียมในประเทศไทยว่า "กิจการดาวเทียมกำลังเปลี่ยนผ่านจากระบบสัมปทานมาสู่ระบบการอนุญาต เสมือนเป็นการ ปลดล็อก จากเดิมผู้ประกอบการรายเดิมไม่สามารถสร้างและส่งดาวเทียมใหม่ได้ และผู้ประกอบการรายใหม่ก็ไม่สามารถ กระทำได้เช่นกัน แต่การเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ท้าทายยิ่งกว่าการเปลี่ยนผ่านคลื่นความถี่ในกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากกิจการดาวเทียมสื่อสารเป็นกิจการที่มีการแข่งขันไม่ใช่เฉพาะในประเทศเหมือนกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีการ ประมูลคลื่นความถี่ 4G หรือ 5G ที่ประกอบกิจการในประเทศเท่านั้น แต่กิจการดาวเทียมสื่อสารสามารถให้บริการทั้งใน ประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งสิทธิในการใช้วงโคจรดาวเทียมเป็นสิทธิที่ทาง ITU ที่เป็นผู้กากับกิจการสื่อสารในระดับ นานาชาติ มีอำนาจในการเพิกถอนสิทธิของประเทศไทย หากไม่สามารถมีการส่งดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรได้จริง ไม่เหมือน คลื่นความถี่ ซึ่งเป็นของประเทศตลอด แม้ไม่มีการใช้งาน จึงนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ไม่นับประเด็นเทคโนโลยีการ สื่อสารดาวเทียมที่กาลังจะเปลี่ยนจากดาวเทียมวงโคจรประจาที่ (GEO) มาสู่วงโคจรต่ำ (LEO) ที่ทางบริษัทต่างประเทศ เช่น spaceX หรือ oneweb กำลังดาเนินการอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นทั้งโอกาสและภัยคุกคามต่อประเทศในอนาคตยิ่งกว่า OTT 

 

ดังนั้น หลังการประมูลสิทธิในการใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะเป็นชุด (Package) ครั้งนี้เสร็จ กสทช. ต้องมีการ ปรับปรุงประกาศ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกิจการดาวเทียมทั้ง 3 ฉบับให้รองรับกับบริบทและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่ดี ผู้ประกอบการรายเก่าและรายใหม่สามารถแข่งขันในระดับสากลได้ รวมทั้งรักษาสิทธิวง โคจรดาวเทียมของชาติตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ นับเป็นความท้าทายของ กสทช. ที่ต้องทำให้ได้  กสทช. ธนพันธุ์ กล่าว

ผศ.ดร. ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการ กสทช. กล่าวในหัวข้อ  ยุทธศาสตร์การกํากับดูแลกิจการ โทรคมนาคมในตลาดใหม่ ว่า ตลาดโทรคมนาคมแบบดั้งเดิมที่มีลักษณะของตลาดกึ่งผูกขาดที่มีผู้ประกอบการน้อยราย (Oligopoly) กำลังจะหมดไปและถูกแทนที่ด้วยการสื่อสารผ่านแอปพลิเคชันที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เนื่องจาก ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลมีความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อใช้ในการสื่อสาร บนอุปกรณ์ IoT เพิ่มขึ้นเป็นจานวนมากตามการปรับเปลี่ยนของอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดีตลาดการให้บริการอินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงก็กำลังถูกแบ่งส่วนทางการตลาดจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมขนาดเล็กที่เป็นบริษัทข้ามชาติด้วย เช่นกัน ทำให้ผู้ประกอบการเผชิญกับวิกฤตทั้งในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายโทรคมนาคมเพื่อรองรับการ พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการใช้งานจากแพลตฟอร์มต่างประเทศที่เป็นภาระเพิ่มมากขึ้น และวิกฤตในด้านส่วนแบ่งทาง การตลาดที่ลดลง ประเทศไทยจึงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมถึงส่วนแบ่งทางการตลาดที่แท้จริงและรายได้ที่เสียไปจากบริการ ของแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างประเทศ เพื่อกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ในการกากับดูแลให้ครอบคลุม รวมทั้งการกาหนด นโยบายให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมไทยสามารถแข่งขันได้กับต่างประเทศ

ด้านการกำกับดูแล นอกจากหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการโทรคมนาคม ต้องมีหน่วยงานอื่นเข้า มาร่วมด้วยเพื่อให้การกากับดูแลสามารถขับเคลื่อนได้อย่างสอดรับกับตลาดโทรคมนาคมใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต้องมีการปรับปรุงกฎระเบียบด้านการอนุญาตและกำกับดูแลที่ยืดหยุ่น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนสอดคล้อง ตามการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ครอบคลุมการกำกับดูแลการบริการจากต่างประเทศ และมีการกำหนดนโยบายด้าน ส่งเสริมผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมไทยให้เข้าสู่ตลาดแข่งขันในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ ต้องกำหนดนโยบาย ด้านรักษาความมั่นคงปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานทางโทรคมนาคมให้สามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผศ.ดร. บุญประเสริฐ สุรักษ์รัตนสกุล ประธานสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวในหัวข้อ ระบบนิเวศบล็อกเชนเพื่อยกระดับอุตสาหกรรม การสื่อสารโทรคมนาคมประเทศไทยให้ก้าวไปสู่การเป็นสังคมอัจฉริยะตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ว่า บล็อกเชนเป็น เทคโนโลยีที่มีการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะการสร้างความน่าเชื่อถือและการยืนยันตัวตนในโลกดิจิทัล โดย การศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีอภิปรายกลุ่มเพื่อเก็บข้อมูลจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และนาข้อมูลมาใช้ออกแบบระบบนิเวศบล็อกเชนใน อุตสาหกรรมการสื่อสารโทรคมนาคม ผลการวิจัยแสดงถึงสภาพแวดล้อมการทางานภายใต้ระบบนิเวศบล็อกเชน และการ พัฒนาระบบสารสนเทศต้นแบบ 5 ระบบ ได้แก่ ระบบสารสนเทศต้นแบบเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารของ กสทช. ระบบการ จัดเก็บและตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดการโทรและค่าใช้บริการ ระบบการจัดเก็บและการบริหารจัดการข้อมูลการ ตรวจสอบการแสดงเครื่องหมายที่เครื่องวิทยุโทรคมนาคม ระบบตรวจสอบโปรโมชั่นและการใช้งานแบบออนไลน์เพื่อให้ ประชาชนตรวจสอบได้ และระบบการย้ายค่ายเบอร์เดิม ซึ่งสอดคล้องกับการนำบล็อกเชนไปใช้ประโยชน์ในหน่วยงาน ภาครัฐของสาธารณรัฐเอสโตเนีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และทุกระบบสารสนเทศต้นแบบที่ผู้วิจัยออกแบบจะมีการ ยืนยันตัวด้วยบุคคล (Identity management) ด้วยการใช้บล็อกเชนซึ่งสอดคล้องกับการประยุกต์ใช้งานบล็อกเชนในการ ยืนยันตัวตนของสหรัฐอเมริกา ผลการประเมินประสิทธิภาพของระบบจากกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ด้านประสิทธิภาพในหน้าที่ ของโปรแกรมและด้านความปลอดภัยอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนด้านความสามารถของระบบที่ทางานตรงตามความต้องการ ของผู้ใช้และความยากง่ายในการใช้งานระบบ อยู่ในระดับมาก ซึ่งจะเห็นได้ว่า บล็อกเชนซึ่งได้ถูกกล่าวถึงอย่างมากในด้าน ความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูล จากผลการประเมินประสิทธิภาพของระบบดังกล่าว ด้านความปลอดภัยอยู่ระดับมากที่สุด

ด้วยรูปแบบของเทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถเลือกการพัฒนาได้หลายรูปแบบ แต่ในประเทศไทยยังไม่มีมาตรฐาน กลาง การใช้งานจึงอยู่ในกลุ่มสกุลเงินดิจิทัลเท่านั้น หาก กสทช. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันการสร้างกรอบงานการ ประยุกต์ใช้งานบล็อกเชน (Conceptual blockchain technology framework) การผลักดันให้เกิดความสมบูรณ์ระบบ นิเวศบล็อกเชนในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม จะเกิดประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพใน อนาคตและยกระดับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศไทยให้ก้าวไปสู่การเป็นสังคมอัจฉริยะตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0


 

related