จากกรณีร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ที่เสนอโดย สส.เพื่อไทย ล่าสุด แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมถึง ทักษิณ ชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์สื่อถึงกรณีดังกล่าว
เมื่อนักข่าวถามถึงกรณีที่ ประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยประกาศถอนร่าง กฎหมายสกัดปฏิวัติ นายกฯ บอกว่า ตนเองก็เคยได้รับผลกระทบจากรัฐประหาร แต่ทุกเรื่องต้องรับฟังทุกฝ่าย ซึ่งในรัฐธรรมนูญก็มีเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เราต้องแสดงจุดยืนว่าในพุทธศักราชนี้ รัฐบาลไม่มีเจตนาแทรกแซงกองทัพ แต่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพื่อประโยชน์กับประเทศชาติ
นายกฯ ตอบผู้สื่อข่าวต่อว่า ไม่มีความตั้งใจสุมไฟความขัดแย้งกับกองทัพ เพราะเท่าที่คุยกันมา ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน และ ภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็รับฟังความเห็นทุกด้านอยู่แล้ว
ทางด้านทักษิณให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในแนวทางเดียวกัน เขากล่าว่วา ในวันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.) พรรคเพื่อไทยจะมีการคุยกันเรื่องกฎหมายสกัดปฏิวัติ พร้อมย้ำว่ากฎหมายดังกล่าว ไม่ใช่มติของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่คำสั่งของตน และเมื่อได้ทราบข่าวก็ยังตกใจอยู่
ก่อนที่ต่อมานักข่าวจะถามถึงท่าทีของพรรคภูมิใจไทยที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกฎหมายดังกล่าว ทักษิณจึงตอบกลับมาว่า “ภูมิใจไทยอาจจะพูดเร็วไปหน่อย รีบหล่อเร็วไปนิดนึง หล่อช้าๆ กว่านี้ก็ได้” ทักษิณกล่าวต่อว่า “ทำงานด้วยกันบางทีเขาก็หล่อเร็วไปก็ไม่ดี หล่อช้านิดนึงจะหล่อขึ้น”
ที่ทำเนียบรัฐบาลผู้สื่อข่าวถามนายกฯ ต่อว่า จะเป็นตระกูล ‘ชินวัตร’ คนแรกที่ไม่ถูกรัฐประหารหรือไม่ นายกฯ หัวเราะ พร้อมทวนคำถามว่า เมื่อกี้นักข่าวถามว่านายกฯ จะเป็นนายกฯ คนแรกหรือไม่ที่ไม่ถูกปฏิวัติ ทวนคำถามให้กลัวไม่ได้ยิน ก่อนกล่าวว่าก็ไม่ทราบ ให้สื่อมวลชนช่วยตอบด้วยแล้วกัน
นายกฯ กล่าวต่อว่า ในตอนนี้ทางออกของประเทศคือการช่วยกันทำให้เศรษฐกิจดี ประชาชนมีกินมีใช้ ซึ่งในทุกการประชุม เป็นเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจเกือบ 100% ไม่มีเวลาของความขัดแย้งไม่ว่าในระดับไหน เพราะความขัดแย้งจะทำให้ประเทศไปต่อไม่ได้
ทางด้าน ทักษิณก็กล่าวคล้ายกันเมื่อถูกถามเรื่องรัฐประหาร เขากล่าวว่า “มันมีอะไรเยอะกว่านั้น รับรองว่ารัฐประหารไม่มีแล้ว มันมีวิธีการเปลี่ยนรัฐบาลหลายรูปแบบ รัฐประหารทำให้ประเทศช้ำ 9-10 ปีที่ผ่านมา ประเทศช้ำมาก และวันนี้ปัญหามันแก้ยากขึ้น ต้องใช้เงินมากขึ้น”
เมื่อถามว่าการที่ สส.เพื่อไทยถอนร่างดังกล่าวออกไป เพราะไม่ต้องการให้เกิดการสุมไฟขึ้นใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ามันเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะยื่นกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ใช่มติของพรรค