SHORT CUT
"การดิ้นรนขอครอบครองอำนาจเข้าร่วมรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นจริงในวันนี้ วันหน้าพรรคก็จะไม่มีประชาชน" มาดามเดียร์-ชวน ดึงสติ "ประชาธิปัตย์" หลังลือหึ่งจ่อร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ชวน ลั่น "อยากให้แยกแยะระหว่างพฤติกรรมของพรรคกับพฤติกรรมของคนบางคน"
วันที่ 20 สิงหาคม 2567 ภายหลังมีกระแสข่าวเรื่องพรรคประชาธิปัตย์จ่อเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ใต้การนำของ "อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร" และจะมีการตัดพรรคพลังประชารัฐส่วนที่นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกจากรัฐบาล นายชวน หลีกภัย สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตหัวหน้าพรรค รวมถึง น.ส.วทันยา บุนนาค สมาชิกพรรคและอดีตผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นดังกล่าว
น.ส.วทันยา ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์=ประชาชน เป็นสิ่งที่ตนเชื่อในการเลือกตั้งปี 2566 แม้สุดท้ายพรรคจะไม่ได้คะแนนมากเหมือนอดีตแต่ยังภูมิใจที่ทำตามเสียงประชาชน ไม่เห็นแก่อำนาจเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันกว่า 70 ปีไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่เป็นการยืนหยัดอุดมการณ์ ที่ไม่ทำการเมืองเพื่อแสวงหาอำนาจและประโยชน์เพื่อพวกพ้อง ใช้เวลาสะสมมาหลายทศวรรษ และหากวันนี้พรรคประชาธิปัตย์จะเสื่อมถอยก็ไม่ใช่เพราะความเก่าแก่ทางการเมือง แต่เป็นที่ผู้ร่วมอุดมการณ์ของพรรคเปลี่ยนแปลงไป
หากวันนี้ผู้บริหารพรรคประชาธิปปัตย์ นึกถึงประชาชนที่เลือกพรรคในวันที่พรรคต้องฝ่ามรสุมทางการเมือง จะเห็นหัวใจและแววตาประชาชนที่เลือกเรามานั้น ต่างอยากเดินทางไปกับพรรค เชื่อใจพรรค อยากเห็นพรรคกลับมาเป็นสถาบันการเมืองที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง
หากแต่การดิ้นรนขอครอบครองอำนาจเข้าร่วมรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นจริงในวันนี้ วันหน้าพรรคก็จะไม่มีประชาชน สุดท้ายวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็น “สถาบันทางการเมือง” ไม่รักษาคำพูด ไม่รักษาอุดมการณ์ ไม่รักษาจุดยืน ก็ไม่อาจรักษาศรัทธาจากประชาชนไว้ได้อีกต่อไป" น.ส.วทันยา กล่าว
ด้านนายชวน หลีกภัย สส.แบบบัญชีรายชื่อและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีมติของพรรคและท้ายที่สุดไม่ว่าจะเป็นอย่างไร สส.ประชาธิปัตย์ จะต้องเคารพมติพรรค การนำเสนอข่าวว่าเป็นเหมือนพรรคอะไหล่รอจะเสียบ ทำให้ผู้ที่สนับสนุนพรรคเสียใจ จึงอยากให้แยกแยะระหว่างพฤติกรรมของพรรคกับพฤติกรรมของคนบางคน
ส่วนตัวไม่ขอออกความเห็นว่า หากประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลจริงควรจะมีเงื่อนไขอะไรเนื่องจากตนไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค เพียงแค่มีจุดยืนส่วนตัวว่า ไม่ร่วมตั้งแต่ต้น เพราะไม่อยากถูกประณามว่าทรยศชาวบ้าน เพราะเคยหาเสียง แม้ว่าพรรคเพื่อไทยได้คะแนนท่วมท้นแต่ในภาคใต้ไม่มี สส.แม้แต่คนเดียว
ส่วนตัวมองว่า หากเป็นฝ่ายค้านก็ต้องทำหน้าที่ของฝ่ายค้านจริง ๆ แต่ถ้าหากเป็นฝ่ายค้านแล้วลังเลใจ เวลามีมติอะไรก็ไม่กล้าตัดสินใจ เพราะกลัวเขาจะโกรธและไม่ให้ร่วมรัฐบาล เพราะการเป็นฝ่ายค้านแม้ สส.น้อย แต่สามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้