SHORT CUT
จับตาประชุมงบ 68 ฝ่ายค้านจัดเต็มฟาดนโยบายเรือธงรัฐบาล Soft Power เงินหมื่นดิจิทัล และงบกลางสำรองจ่าย จัดเต็มทุกแม็ก
ศึกอภิปรายงบประมาณ 68 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว หลายฝ่ายต่างจับตาว่าฝ่ายค้านจะประเดิมฟาดฟันรัฐบาลเรื่องไหนบ้าง แน่นอนว่าการขยับของฝ่ายค้านครั้งนี้หลายฝ่ายต่างจับตาว่าจะฟอร์มดีหลังจากล้างมือไปนานหลังจากการสมัยประชุมสภาปิดไปนานหรือไม่
วันแรกนั้นคาดว่าฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคก้าวไกลย่อมต้องเปิดด้วยการตีไปที่หัวใจหลักนโยบายของแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคก้าว
แน่นอนว่าเรื่องที่ฝ่ายค้านต้องตรวจสอบและขยี้ให้ละเอียดคงไม่พ้นเรื่องนโยบายเงินหมื่นดิจิทัล นโยบายเรือธงหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่เรียกได้เป็นมหากาพย์ดราม่ามาโดยตลอด ทั้งจากการที่รัฐบาลตีกับแบงก์ชาติ ตีกับนักวิชาการ ศึกคราวนี้ยังต้องบู๊กับฝ่ายค้านในสภา
เงินหมื่นดิจิทัลนี้ตั้งวงเงินงบประมาณไว้ 1.5 แสนล้านบาทโดยรัฐบาลมองว่าจะเป็นพายุโหมเศรษฐกิจของประเทศให้กระเตื้อง แต่คราวนี้รัฐบาลเปรียบเสมือนโดนพายุใหญ่ในสภาที่เตรียมโหมกระหน่ำนโยบายเรือธงให้จมดิ่งในสภาให้จงได้
อีกหนึ่งนโยบายของรัฐบาลเพื่อไทยที่ปูทางมาอย่างยาวนาน ประคบประหงมเหมือนไข่ในหินคือเรื่อง Soft Power ที่ต้องใช้งบประมาณกว่า 5 พันล้านบาท หวังกระตุ้น Soft Power ไทยให้ไปดังไปไกลถึงต่างประเทศเพราะเชื่อว่าจะส่งต่ออิทธิพลทางวัฒนธรรมและสร้างรายได้ให้กับประเทศ แถมงบดังกล่าวยังถูกกระจายไปหลายกระทรวงและมี 2 กระทรวงที่มีเจ้ากระทรวงมาจากพรรคเพื่อไทย คือกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
แต่ทำไปทำมาก็ยังงงงวยข้ามไม่พ้นสินค้าทางวัฒนธรรมมากกว่า ช่างคล้ายนโยบายสินค้า OTOP ของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เสียนี่กระไร
แน่นอนว่าฝ่ายค้านย่อมไม่พลาดเป้าเตรียมบุกกระหน่ำนโยบายนี้ที่มีช่องโหว่อย่างแน่นอน รัฐบาลต้องเตรียมใจเรื่องนี้ไว้ได้เลยเพราะเรื่องนี้มีช่องโหว่เยอะมาก และที่ผ่านมา เช่นกระตุ้นเรื่องการจัดเทศกาลสงกรานต์ตลอดเดือนก็ทำไม่ได้จริงจนคนล้อติดหูมาแล้ว
ฝ่ายค้านเตรียมบุกทะลวงไปที่งบกลางในส่วนของเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน ที่มีจำนวนงบประมาณไม่น้อยกว่า 9.5 หมื่นล้านบาท
ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตกันว่า การตัดลดงบประมาณในส่วนอื่นไปเพิ่มไว้ในงบประมาณรายจ่ายประเภทงบกลางมากเกินไปนั้นอาจจะไม่ส่งเสริมหลักการงบประมาณที่ดี เพราะเท่ากับสนับสนุนให้รัฐบาลสามารถใช้ดุลพินิจในการใช้จ่ายงบประมาณโดยละเลยต่อความเห็นชอบหรือการตรวจสอบของรัฐสภาตามหลักการแบ่งแยกอำนาจ
หากสังเกตดีๆ วันแรกในการอภิปรายเรื่องงบประมาณ 68 นี้ฝ่ายค้านเน้นกระหน่ำไปที่งบประมาณด้านเศรษฐกิจของรัฐบาเพราะรัฐบาลเพื่อไทยนั้นมั่นอกมั่นใจด้านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของตนเองตั้งแต่ไทยรักไทยมาแล้ว
แน่นอนว่าการตีและขยี้นโยบายรัฐบาลด้านเศรษฐกิจ หัวหอกใหญ่ของฝ่ายค้านและพรรคก้าวไกลคงไม่พ้น ไหม ศิริกัญญา ตันสกุล สส. บัญชีรายชื่อจากพรรคก้าวไกลอย่างแน่นอน
เรียกได้ว่าศึกอภิปรายงบประมาณ 68 นี้คอการเมืองห้ามกะพริบตา เพราะเพียงเปิดมาพรรคฝ่ายค้านก็จัดหนักจัดเต็มรัฐบาลแบบไม่ยั้งมือ
วันแรกฝ่ายค้านก็ตั้งยึดหัวหาดชิงพื้นที่ให้ประชาชนได้รับฟังและติดตามการอภิปรายแบบชุดใหญ่ไฟกะพริบแล้ว