เปิดประวัติ จักรภพ เพ็ญแข อดีตโฆษกรัฐบาลยุคล "ทักษิณ ชินวัตร" ประกาศกลับไทยหลังลี้ภัยการเมืองนาน 10 ปี พร้อมระบุ "กลับไปรับใช้เมืองไทยครับ"
จากกรณี นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตรียมกลับประเทศไทยในรอบ 10 ปี หลังลี้ภัยทางการเมืองไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ โดยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jakrapob Penkair ระบุว่า วันที่ 28 มี.ค.67 เวลา 07.35 น. กลับไปรับใช้เมืองไทยครับ
ประวัติ จักรภพ เพ็ญแข หรือ เอก เกิดวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2510 ปัจจุบันอายุ 56 ปี อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช , โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล ดร.ทักษิณ ชินวัตร และอดีตพิธีกรนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศฯ
วัยเด็กเริ่มศึกษาชั้นประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากนั้นเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่คณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , ปริญญาโท และปริญญาเอก มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปส์กิน สหรัฐอเมริกา
จากนั้น จักรภพ เพ็ญแข เข้าทำงานที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ และเข้ารับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ทูต กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ต่อมาได้ลาออกมาทำงานสื่อมวลชนในฐานะผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เป็นระยะเวลากว่าสิบปี และเข้าสู่แวดวงการทำงานด้านการเมืองโดยได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลดร.ทักษิณ ชินวัตร ต่อมาไม่นาน ก็ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในนามพรรคไทยรักไทย
หลังจากคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549 และรัฐประหารในปี 2549 จักรภพ เพ็ญแข เข้าร่วมองค์กรต่อต้านเผด็จการ โดยเป็นหนึ่งในแกนนำจัดเวทีปราศรัยต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่ท้องสนามหลวง ใช้ชื่อว่า "แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ" (นปก.)
พ.ศ. 2551 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้จักรภพดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่กำกับดูแลสื่อมวลชนภาครัฐ ในวันที่ 1 เมษายน ปีเดียวกัน จักรภพ เป็นประธานในการเปลี่ยนแปลงสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เป็น สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที)
ทั้งนี้เจ้าตัวเคยถูกฟ้องร้องคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการปาฐกถาเป็นภาษาอังกฤษเรื่อง "ระบบอุปถัมภ์ในไทย" กับนักข่าวต่างชาติ ก่อนจะตัดสินใจลี้ภัยการเมืองเดินทางออกนอกประเทศในปี 2552
อย่างไรก็ตามคดีของจักรภพยังมีการแจ้งข้อหาต่อในยุคคสช. หลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติออกคำสั่งที่ 49/2557 เรียกให้จักรภพไปรายงานตัว แต่เขามิได้ไปตามคำสั่งดังกล่าว ศาลทหารจึงออกหมายข้อหาฝ่าฝืนการไปรายงานตัว ในวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558 1 หมายจับ และวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558 1 หมายจับ ข้อหามีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง รวมแล้วเขาถูกศาลทหารออกหมายจับ 2 หมายจับ และในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2560 ศาลอาญาได้ออกหมายจับ เลขที่ 2692/60 ใน ข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเป็นอั้งยี่