svasdssvasds

ตามติดชีวิต ‘ทักษิณ ชินวัตร’ 1 ปี หลังกลับบ้านจันทร์ส่องหล้า ทำอะไรไปบ้าง

ตามติดชีวิต ‘ทักษิณ ชินวัตร’ 1 ปี หลังกลับบ้านจันทร์ส่องหล้า ทำอะไรไปบ้าง

18 ก.พ. 2568 เป็นวันอะไร? ติ๊กต๊อกๆ.. เฉลยเลยว่าวันนี้คือ วันครบรอบ 1 ปีนับตั้งแต่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้รับการพักโทษ และกลับบ้านจันทร์ส่องหล้าเป็นครั้งแรก

SHORT CUT

  • ตั้งแต่ทักษิณได้รับการพักโทษกลับบ้านจันทร์ส่องหล้าในวันที่ 18 ก.พ. 2567 เป็นเวลาครบ 1 ปีในวันที่ 17 ก.พ. 2568
  • เขากลับมาโลดแล่นในแวดวงการเมืองและปรากฎตัวในที่สาธารณะไปแล้ว 60 ครั้ง เดินทางไป 21 จังหวัด 1 ประเทศ
  • กระชับความสัมพันธ์พบบิ๊กเนมนอกพรรคเพื่อไทยอีกหลายครั้ง อาทิ อนุทิน สุวัจน์ ธรรมนัส เนวิน ฯลฯ

18 ก.พ. 2568 เป็นวันอะไร? ติ๊กต๊อกๆ.. เฉลยเลยว่าวันนี้คือ วันครบรอบ 1 ปีนับตั้งแต่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้รับการพักโทษ และกลับบ้านจันทร์ส่องหล้าเป็นครั้งแรก

รวมสถิติ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทักษิณใช้เวลาไปกับอะไรบ้าง? SPRiNG ได้ติดตามชีวิตของอดีตนายกฯ คนนี้ผ่านการรายงานข่าวของสื่อไทย สื่อต่างประเทศ รวมถึงช่องทางโซเชียล มีเดียของคนใกล้ชิด เพื่อหาคำตอบว่า 

ทักษิณทำอะไร กับใคร ที่ไหนบ้าง นับตั้งแต่ได้รับการพักโทษกลับสู่บ้านจันทร์ส่องหล้า พ้นโทษ จนกระทั่งครบรอบ 1 ปีที่เข้าได้รับอิสระเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ทักษิณแสดงวิสัยทัศน์ครั้งแรกที่พารากอนฮอลล์ในงาน DINNER TALK : VISION FOR THAILAND 2024 ของ Nation Group วันที่ 22 ส.ค. พ.ศ. 2567

ผมกลับมาแล้ว ทักษิณปรากฏตัวในที่สาธารณะกี่ครั้ง?  

จากการเก็บข้อมูลของ SPRiNG ตลอดระยะเวลา 366 วันในปี 2567 ทักษิณปรากฏตัวในที่สาธารณะทั้งหมด 104 วัน (คิดเป็น 28%) และไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะ หรือไม่มีการรายงานข่าวออกมาทั้งหมด 262 วัน (คิดเป็น 72%) 

ทั้งนี้ จากการปรากฏตัวในที่สาธารณะทั้งหมด 104 วัน ทักษิณมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับงานการเมืองทั้งหมด 60 วัน หรือแปลว่ามากกว่าครึ่งของการปรากฏตัวในที่สาธารณะเกี่ยวข้องกับงานการเมือง 

โดยกิจกรรม 5 ประเภทที่ทักษิณทำมากที่สุด ได้แก่ 


 

 

  • เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 28 ครั้ง 

โดยมีทั้งการประชุมแบบเปิดและเปิด เช่น การประชุมกับ สส.เพื่อไทย, การประชุมกับ เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ในช่วงมีข่าวปรับคณะรัฐมนตรี, ประชุมกับเครือข่ายบ้านใหญ่ หรือประชุมลับกับผู้นำชาติในอาเซียน

ทักษิณกลับพรรคเพื่อไทยครั้งแรก วันที่ 26 มี.ค. พ.ศ. 2567

  • เข้าร่วมงานศพ/ งานบุญ/ งานแต่ง/ งานบวชทั้งหมด 17 ครั้ง 

เช่น งานศพของ วิชัย ช่างเหล็ก คนขับรถคู่บุญที่เคยผ่านการคาร์บอมมาด้วยกัน, งานแต่งงานระหว่าง สส.สองพรรค เพื่อไทย – ประชาชน หรืองานบวชของลูกชายนักการเมืองท้องถิ่น

 

  • หาเสียงทั้งหมด 14 ครั้ง 

โดยเฉพาะในช่วงที่จะมีการเลือกตั้งนายกฯ อบจ. ทักษิณใช้เวลาส่วนมากในการขึ้นปราศรัยตามจังหวัดสำคัญต่างๆ เช่น เชียงใหม่, เชียงราย, อุดรธานี, ลำพูน หรือศรีสะเกษ

ทักษิณขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกที่ จ.อุดรธานี วันที่ 13 พ.ย. พ.ศ. 2567

  • ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว 11 ครั้ง 

นอกจากช่วงเวลาที่ไม่ปรากฏเป็นข่าว มีภาพที่ทักษิณใช้เวลาร่วมกับครอบครัวปรากฏตามสื่อ เช่น ร่วมงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ของ เยาวเรศ ชินวัตร น้องสาว หรือกินข้าวที่บ้านจันทร์ส่องหล้าพร้อมลูกทั้ง 3 คน 

 

  • ขึ้นศาล 9 ครั้ง 

ด้วยสถานะที่ยังติดพันอยู่กับคดีความโดยเฉพาะ ม.112 (ทักษิณได้รับการพระราชทานอภัยโทษคดีอื่นเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2567) ทำให้ทักษิณต้องเดินทางมาขึ้นศาลบ่อยครั้ง ทั้งการรายงานตัว, ไต่สวน หรือขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ 


 

ทักษิณไปต่างจังหวัดครั้งแรก จ.เชียงใหม่ วันที่ 14 มี.ค. พ.ศ. 2567

อ้ายแม้วออนทัวร์ ทักษิณแอ่วไหนมาบ้างแล้ว? 

ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ทุกคนรู้โลกรู้ว่าทักษิณไม่ได้อยู่บ้านเลี้ยงหลานเพียงอย่างเดียว แต่เขาเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ทำงานอย่างแข็งขัน โดยทักษิณเดินทางไปมาแล้วอย่างน้อย 21 จังหวัด ดังนี้ 

  • ภาคเหนือ: เชียงใหม่, เชียงราย และ ลำพูน 
  • ภาคกลาง: กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี, อ่างทอง และ นครปฐม
  • ภาคตะวันออก: ฉะเชิงเทรา และ ชลบุรี 
  • ภาคอีสาน: นครราชสีมา, อุดรธานี, นครพนม, บึงกาฬ, มหาสารคาม, ศรีสะเกษ, สุรินทร์ และ อุบลราชธานี 
  • ภาคใต้: ภูเก็ต, ประจวบคีรีขันธ์ และ สตูล 

ทักษิณขออนุญาตศาลออกนอกประเทศครั้งแรกไปมาเลเซีย วันที่ 31 ม.ค. พ.ศ. 2568

นอกจากเดินทางทั่วไทย ทักษิณยังเดินทางออกนอกประเทศ 1 ครั้ง โดยเดินทางไปประชุมร่วมกับ อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย ที่ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 2 - 3 ก.พ. 2568 ในฐานะที่ปรึกษาส่วนตัวของอันวาร์ ในการเป็นประธานอาเซียนของมาเลเซียในปี 2025

โดยเฟซบุ๊กของอันวาร์ได้ระบุรายละเอียดการพบกันไว้ว่า ได้มีการพูดคุยกันเรื่องสถานการณ์ในเมียนมา, การพัฒนาเงินสกุลดิจิทัล และระหว่างพบกันยังได้มีการกินข้าวร่วมกับ จอร์จ เยียว อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสิงคโปร์ด้วย 

 

แก๊งเพื่อนโทนี่ ทักษิณเจอใครนอกเพื่อไทยบ่อยที่สุด 

แน่นอนว่าการกลับบ้านครั้งนี้ทักษิณต้องเจอคนในครอบครัวบ่อยที่สุด ไม่ว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ, สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และน้องเขย, ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และขุนพลคู่ใจ และคนอื่นๆ ในพรรคเพื่อไทยที่พบเจอกันบ่อยครั้งตามที่ประชุม 

อย่างไรก็ตาม นอกจากครอบครัวและคนในพรรคเพื่อไทยล่ะ ทักษิณพบปะกับใครบ่อยที่สุดนับตั้งแต่ได้รับการพักโทษ 

ภาพ \'ปฏิญญาเขาใหญ่\' วันที่ 21 ก.ค. พ.ศ. 2567

  • อันดับ 1: อนุทิน ชาญวีรกูล 13 ครั้ง 

พบกันตั้งแต่งานบุญยันงานศพ สำหรับทักษิณและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แต่ถ้าจะพูดถึงการพบกันที่สำคัญคงไม่พ้นที่สื่อเรียกกันว่า ‘ปฏิญญาเขาใหญ่’ หรือการนัดพบกันระหว่างแกนนำรัฐบาลกับกลุ่มทุนพลังงานอย่าง สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานกรรมการบริหารกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ และ คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่สนามกอล์ฟ Rancho Charnveee Resort & Country Club รีสอร์ต อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 

อย่างไรก็ดี ทักษิณออกมาปฏิเสธว่าไม่มีการคุยเรื่องการเมือง คุยแต่เรื่องดินฟ้าอากาศเท่านั้น 

นอกจากนี้ ก๊วนดังกล่าวยังพบกันอีกครั้งที่สนามกอล์ฟ Stone Hill Club อ.สามโคก จ.อยุธยา เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2567 อีกครั้งด้วย 

ทักษิณและสุวัจน์ ณ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 25 พ.ค. พ.ศ. 2567

  • อันดับ 2: สุวัจน์ ลิปตพัลลภ 10 ครั้ง

ชายอีกหนึ่งคนที่ทักษิณพบบ่อยเหลือเกินคือ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา โดยทั้งคู่พบกันครั้งแรกที่ จ.ภูเก็ต เมื่ออยู่ดีๆ ก็มีภาพคนทั้งคู่เดินชมราตรีที่หาดป่าตองด้วยกัน 

ท่าทีของทักษิณต่อสุวัจน์ชัดเจนมากว่าอยากจีบมาร่วมพรรคเพื่อไทย เพราะเขาพูดอย่างชัดเจนต่อหน้าสื่อเมื่อครั้งเยือน จ.นครราชสีมาเป็นครั้งแรกว่า ทั้งคู่รู้จักและร่วมงานกันมานาน และต้องการให้สุวัจน์มาเข้าร่วมพรรคเพื่อไทย 

แต่จนถึงตอนนี้ สุวัจน์ก็ยังคงสงวนท่าที และคอยหยอดคำหวานเสมอว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีเสถียรภาพครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เพียงเท่านั้น

ธรรมนัส พรหมเผ่า

  • อันดับ 3: ธรรมนัส พรหมเผ่า 9 ครั้ง 

อีกหนึ่งขุนพลการเมืองคนสำคัญตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย และกลับมาคราวนี้เรียกได้ว่าสัมพันธ์ทั้งคู่ยังเหนียวแน่น 

ผู้กองธรรมนัสและทักษิณพบกับครั้งแรกตั้งแต่ทักษิณเดินทางไป จ.เชียงใหม่ในต้นช่วง 14 - 16 มี.ค. ปีที่แล้ว และพบกันต่อเนื่องมาตลอด แม้กระทั่งเหตุการณ์นั่งเรือยอช์ตไปเจอนายกฯ มาเลเซียที่ จ.สตูล ทักษิณกับธรรมนัสก็ยังไปด้วยกัน สะท้อนความสัมพันธ์ที่แข็งแรงระหว่างคนทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี

ยิ่งภายหลังที่ธรรมนัสแตกหัก ‘คนในบ้านป่า’ และตั้งพรรคกล้าธรรมขึ้น ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนทั้งคู่มีศัตรูคนเดียวกัน และต่างต้องพึ่งพากันและกันมากกว่าที่เคย

เนวิน ชิดชอบ

  • อันดับ 4: เนวิน ชิดชอบ 2 ครั้ง 

ที่เคยบอกว่า “มันจบแล้วครับนาย” อาจกลายเป็น “มาเริ่มกันใหม่ครับนาย” สำหรับความสัมพันธ์ระหว่าง ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทยอย่าง เนวิน ชิดชอบ และ ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยขาดสะบั้นลงเมื่อครั้งพรรคภูมิใจไทยถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาลจากพรรคเพื่อไทย และเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ 

โดยทั้งคู่ได้พบกันอย่างน้อย 2 ครั้งคือ เมื่อต้นเดือนตุลาคม ที่อนุทินและเนวินได้เข้าไปเยี่ยมทักษิณในบ้านจันทร์ส่องหล้า และช่วงต้นเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา และเป็นไปได้ว่ามีอีกหลายครั้งที่ไม่มีข่าวเล็ดลอดออกมา

ถึงแม้ทักษิณอาจโกรธแค้นที่เคยถูกเนวินแทงข้างหลัง แต่ความสัมพันธ์กับพรรคภูมิใจไทยก็สะบั้นให้ขาดไม่ได้ เพราะความจำเป็นทางการเมืองในเวลานี้ ดังนั้น ทักษิณก็ย่อมต้องประคับประคองและเริ่มต้นใหม่กับเนวินไปเช่นนี้ 

นอกจากการพบกับคนในแวดวงการเมือง ทักษิณยังมีโอกาสพบปะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทใหญของไทยอีกหลายคน (แถมหลายครั้ง) สะท้อนว่าทักษิณยังเป็นแกนกลางสำคัญที่คอยเชื่อมระหว่างผู้มีอำนาจในสังคมไทยกับ แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เพื่อปกป้องและกรุยทางให้ลูกสาวทำงายได้สะดวกที่สุด

 

วาทะทักษิณ ประโยคเด็ดสะเทือนการเมืองไทย 

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด กระทั่งมีอายุ 75 ปี แต่สไตล์การพูดเฉพาะตัวก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง

ทักษิณมักมีประโยคเด็ดหลุดออกมาให้สังคมหูผึ่งอยู่ตลอดเวลา บางประโยคสร้างแรงสั่นสะเทือนจนเป็นข่าวต่อเนื่องหลายวัน จะมีอะไรกันบ้าง เรารวบรวมมาให้แล้วบางส่วน

  • “นายกฯปู อวยพรสงกรานต์ก่อนที่ผมจะเดินทางมาเชียงใหม่ ก็เลยบอกเดี๋ยวสงกรานต์ปีหน้า เรามาทำบุญด้วยกัน” ทักษิณกล่าวระหว่างลงพื้นที่เล่นสงกรานต์ที่ จ.เชียงใหม่ วันที่ 14 เม.ย. 2567 

การให้สัมภาษณ์ของทักษิณในการเยือน จ.เชียงใหม่ ทำให้เกิดการวิเคราะห์กันไปต่างๆ นานาว่าทักษิณจะนำ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และน้องสาวของตัวเองกลับมาประเทศได้อย่างไร เพราะศาลได้มีคำตัดสินจำคุก 5 ปีจากคดีทุจริตจำนำข้าวไปแล้ว 

นักวิเคราะห์หลายคนก็เชื่อว่าการกลับมาของยิ่งลักษณ์จะคล้ายกับทักษิณ กล่าวคือ อาจจะไม่ได้อยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียว 

 

  • “ไม่เกี่ยวเลย ถ้าจะมีคนวุ่นวายก็แถวบ้านในป่า ไม่เกี่ยวกับผม” กล่าวพาดพิงผู้มีอำนาจบางคน วันที่ 8 มิ.ย. 2567

ระหว่างที่เข้าร่วมงานบวชลูกชายคนเล็กนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ทักษิณถึงการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ม.112 กับอัยการสูงสุด โดยทักษิณได้ปฏิเสธว่าไม่มีการดีลใดๆ ในคดีนี้ ก่อนจะพาดพิงถึงผู้มีอำนาจว่า ถ้าจะมีใครสักคนที่วุ่นวายในคดีนี้ก็มีแต่คนที่อยู่ในบ้านป่าเท่านั้น 

ก่อนทักษิณจะเอ่ยว่าทุกวันนี้ บ้านเมืองเละเทะมากกว่าสมัยก่อนมาก ไม่ใช่ใครอยากเป็นนายกฯ ก็เป็นได้ทันที
 

  • ผมตั้งตำแหน่งให้ตัวเองว่า ‘สทร.’ แปลว่า ‘เสือกทุกเรื่อง’ เห็นอะไรน่ารำคาญก็ต้องตะโกนโวยวายในฐานะประชาชนคนชรา” กล่าวระหว่างปราศรัยช่วยหาเสียงนายก อบจ.อุดรธานี วันที่ 14 พ.ย. 2567

ระหว่างช่วยหาเสียงให้ ศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี ในนามพรรคเพื่อไทย ทักษิณได้พูดขึ้นว่าตัวเองขอรับตำแหน่งดังกล่าว และยังพูดถึงตำแหน่งนี้อีกครั้งในเดือน ม.ค. 

 

  • “อย่างนี้ไม่ใช่เลือดสุพรรณนี่หว่า! ถ้าอยู่ด้วยกันก็ต้องด้วยกันสิ ไม่อยากอยู่ต้องบอกให้ชัดเจน ต่อไปใครหนีก็ส่งใบลาออกมาด้วย ง่ายดี” กล่าวโจมตีบางพรรคร่วมรัฐบาล วันที่ 13 ธ.ค. 2567

ระหว่างงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย ทักษิณได้ขึ้นเป็นวิทยากรและกล่าวอย่างดุเดือดในหลายประเด็น โดยกับพรรคร่วมรัฐบาล ทักษิณได้พูดถึงกรณีที่มี พ.ร.ก.เกี่ยวกับมาตรการทางภาษีระหว่างประเทศเข้าที่ประชุม ครม. แต่พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคกลับไม่เข้าร่วมประชุม พร้อมย้ำว่าพรรคร่วมรัฐบาลต้องทำงานร่วมกัน ต้องตรงไปตรงมา หากไม่อยากอยู่ก็ควรออกไป

ภายหลังประโยคดังกล่าว พรรคร่วมรัฐบาลต่างออกมาปฏิเสธพัลวันว่าทักษิณไม่ได้พูดถึงพรรคตน เพราะได้เข้าร่วมประชุม ครม.ในวันนั้น 

 

  • “คอลเซ็นเตอร์ มันอยู่ที่ตึก 25 ชั้น แถวปอยเปต ผมแจ้งเขมรไปแล้ว พม่าก็เหมือนกัน ถ้าไม่มีกำลังเดี๋ยวผมส่งกำลังไปจัดการให้” กล่าวถึงปัญหาคอลเซ็นเตอร์ วันที่ 24 ธ.ค. 2567

เรียกว่าสั่นสะเทือนทันที เมื่อระหว่างช่วยนายกฯ อบจ.เชียงใหม่หาเสียง ทักษิณได้พูดถึงปัญหาคอลเซ็นเตอร์ว่ารู้แล้วอยู่ที่ไหน แถมได้ประสานจัดการไปแล้วด้วย

ทักษิณได้พูดเรื่องนี้อีกครั้งเมื่อเดือน ก.พ.และบอกว่าเจ้าของตึกมีสัญชาติไทย และเมื่อถึงเวลาจะถอนสัญชาติจากบุคคลดังกล่าว 


 

  • พรรคประชาชนเป็นพรรคที่พูดเก๊งเก่ง พูดได้แต่ทำไม่เป็น และไม่ได้ทำด้วย” วิจารณ์พรรคประชาชน วันที่ 24 ธ.ค. 2567

ระหว่างช่วยนายกฯ อบจ.เชียงใหม่หาเสียงเช่นกัน ทักษิณได้ยอมรับว่าพรรคประชาชนเป็นคู่แข่งของพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชนพูดเก่ง แต่พูดแล้วทำไม่เป็นและยังไม่ได้ทำด้วย ก่อนจะขอให้คนเชียงใหม่กลับมาเลือกพรรคเพื่อไทยเหมือนเดิม 

 

  • “ปีนี้ค่าไฟฟ้าจะต้องลงไปอยู่ที่เลข 3 ใจอยากให้เหลือ 3.50 บาท แต่คงได้แค่ 3.70 บาท ปีนี้ค่าไฟลงแน่ เห็นตัวเลขแล้วทุบได้

ในการลงพื้นที่ จ.เชียงรายเพื่อช่วยหาเสียงนายกฯ อบจ. จากพรรคเพื่อไทย ทักษิณได้ย้ำถึงปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย และบอกว่าประชาชนไม่มีเงินแล้ว ก่อนที่จะพูดถึงปัญหาค่าไฟฟ้าและยืนยันว่าจะลดค่าไฟฟ้าให้เหลือที่เลข 3 


 

ทักษิณชวนชิม แวะร้านอร่อยอะไรบ้าง? 

มิชลินด์ไกด์ก็ต้องหลบไป เมื่อเจอกับ ‘ทักษิณ ชวนชิม’ เรารวบรวมร้านอาหารที่ทักษิณเดินทางไปตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งร้านที่ลงไปชิมระหว่างหาเสียง ร้านเก่าแก่ที่ไปเป็นประจำ ตลอดจนร้านที่ไปประชุมร่วมกับนักการเมืองคนสำคัญของพรรค 

 

ระหว่างที่กลับเชียงใหม่ ทักษิณได้นัดเพื่อนร่วมรุ่น 08 โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จำนวน 38 คน รวมถึงผู้มีชื่อเสียง เช่น  คีรี กาญจนพาสน์ จากบีทีเอส, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ร่วมทานโต๊ะจีนด้วยกัน

 

ทักษิณเดินทางมาถึงร้านแห่งนี้ พร้อมสั่งว่า “เอาทุกอย่างเนอะ” ซึ่งนอกจากข้าวมันไก่ ร้านแห่งนี้ก็มีเมนูเด็ดอีกอย่างคือ หมูสะเต๊ะ 

 

หนึ่งในร้านข้าวซอยเก่าแก่ของ จ.เชียงใหม่ ที่ทักษิณแวะเวียนมากินข้าวซอยเนื้ออยู่เสมอ สำหรับคนที่อยากชิม ข้าวซอยร้านนี้มีหลายสาขาอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วย

 

ร้านบะหมี่ลูกชิ้นปลาที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นร้านถูกและดีในมิชลินไกด์ โดยร้านมีสาขาทั้งใน จ.เชียงใหม่ และ กรุงเทพฯ 

 

ทักษิณเดินทางไปกินข้าวเช้าที่ร้านแห่งนี้ ระหว่างที่เดินทางไป จ.เชียงใหม่ครั้งแรกหลังจากกลับมาที่ไทย โดยได้กินข้าวร้านนี้ร่วมกับครอบครัวก่อนเดินทางไปสวนสัตว์ไนท์ ซาฟารี

 

  • Le Coq d'Or อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ทักษิณ แกนนำพรรคเพื่อไทย และ 13 รมต. รัฐบาลได้ร่วมมากินข้าวกันระหว่างช่วงสงกรานต์ ท่ามกลางกระแสปรับ ครม.

 

ก่อนมีนัดไปพบอัยการสูงสุดเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ม.112 ทักษิณได้โผล่ไปที่ร้านฉั่วคิวเฮม ห่านพะโล้ กรุงเทพฯ ร้านขายเป็ดย่างเก่าแก่ชื่อดัง

 

ทักษิณได้โผล่ไปร่วมงานเปิดร้านเยี่ยมใต้สาขา 2 ของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. โดนงานดังกล่าวได้มีนักการเมืองทั้งในพรรคและนอกพรรคเพื่อไทยตบเท้าเข้าร่วม

 

ระหว่างที่ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต กับ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ทั้งคู่ได้ร่วมรับประทานอาหารที่ร้านภัตตาคารฮ่องกง ร้านอาหารจีนชื่อดังที่มักมีบุคคลมีชื่อเสียงมาทาน 

 

ในการเดินทางไป จ.นครราชสีมา เพื่อเข้าร่วมงานศพของคนขับรถคู่ใจ ทักษิณได้แวะทานข้าวกลางวันที่ร้านส้มตำพันล้าน สาขาดอนชมภู ก่อนไปร่วมงานศพในช่วงบ่าย

 

ภายหลังร่วมงานศพคนขับรถคู่ใจ ทักษิณได้เดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์ย่าโม ก่อนไปรับประทานอาหารจีนที่ภัตตาคารเสียว เสี้ยว ร่วมกับสุวัจน์ 

 

ทักษิณได้เดินทางไปช่วยหาเสียงนายกฯ อบจ.อุดรธานี และได้แวะทานอาหารเช้าที่ร้านคิงส์โอชา โดยสั่งทั้งไข่กระทะ ข้าวเปียกเส้น ชานมร้อน ข้าวเกรียบ ขนมปัง พร้อมกล่าวว่า “อาหารอร่อย ไม่ได้กินมานานแล้ว”

 

ทักษิณและบุคลากรพรรคเพื่อไทยได้เดินทางมาทานอาหารกลางวันร่วมกันที่ร้านครัวบ้าน อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ก่อนเดินทางไปปราศรัยที่หอประชุมสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ อ.เมือง และสนามฟุตบอล บ้านสวน ส.ส.ธเนศ เครือรัตน์ ส.ส.ศรีสะเกษ อ.เมือง 

 

รุ่งเช้าก่อนไปขึ้นเวทีปราศรัย ทักษิณได้แวะไปกินไข่กระทะ ขนมปังเวียดนาม กาแฟโบราณ และโจ๊ก ที่ร้านเจียวกี่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ก่อนเดินทางไปปราศรัยที่หอประชุมโรงเรียนปรางค์กู่ อ.ปรางค์กู่

 

รวบรวมข้อมูล: พงพิพัฒน์ บัญชานนท์ & สุทธิพัฒน์ กนิษฐกุล 

ภาพประกอบ: อภิฎฐา มุนินทร์นิมิตต์


 

related