ครม.เศรษฐา1 จัดตั้งเสร็จสิ้นแล้ว มีรัฐมนตรีทั้งสิ้น 34 คน และ ณ ตอนนี้ เหลือเพียงการ แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ก็จะเริ่มงานอย่างเป็นทางการได้ทันที SPRiNG ชวนส่องไทม์ไลน์นโยบายรัฐบาล "เศรษฐา1" นโยบายเด่นๆ จะเริ่มเมื่อไหร่
ณ เวลานี้ ถือว่า ครม.เศรษฐา 1 จัดตั้งเสร็จสิ้นแล้ว มีรัฐมนตรีทั้งสิ้น 34 คน และ ณ ตอนนี้ เหลือเพียงการ แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ก็จะเริ่มงานอย่างเป็นทางการได้ทันที SPRiNG ชวนส่องไทม์ไลน์นโยบายรัฐบาล "เศรษฐา1" นโยบายเด่นๆ จะเริ่มเมื่อไหร่ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท คาด เริ่มสงกรานต์ปี 67 ส่วนรถไฟฟ้า20 บาท นายกฯขอดูรายละเอียดกับพรรคร่วมอื่นๆก่อน
โดยรัฐบาลเพื่อไทย ยุค ครม.เศรษฐา 1 แม้ ณ ปัจจุบัน จะยังไม่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาอย่างเป็นทางการ แต่นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน และรัฐมนตรีบางท่านได้เริ่มออกมาพูดถึงกรอบระยะเวลาสำคัญที่ได้มีการหาเสียงไว้กับประชาชนแล้วว่าจะสามารถเริ่มต้นได้เมื่อไหร่
SPRiNG ชวนมาดู นโยบายสำคัญๆจากพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ รวมทั้งแกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย พูดไว้อย่างไรบ้าง มีกรอบเวลาอย่างไรบ้าง เพื่อที่ทุกคนจะได้รวมกันตรวจสอบนโยบายเหล่านี้ว่าจะเริ่มต้นได้ในช่วงใดกัน เป็นการกะเกณฑ์ช่วงเวลาคร่าวๆ
1.นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท (Digital Wallet)
นโยบาย เงินดิจิทัล หรือ กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท (Digital Wallet) นี้ น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานทำงานด้านนโยบายพรรคเพื่อไทย และว่าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประชาชนได้ใช้เงินดิจิทัล ช่วงเมษายน-เทศกาลสงกรานต์ปี 2567 ให้ประชาชนเดินทางกลับบ้าน ใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน โดยนโยบายนี้ เป็นการให้ "ครั้งเดียว" ไม่มีแบ่งจ่าย เพราะเป้าหมาย คือการ “พายุหมุน” ในทางเศรษฐกิจ
นโยบาย กระเป๋าเงินดิจิทัล เป็นการ กระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นการใช้จ่ายภายในรัศมี 4 กิโลเมตร จึงเป็นหลักพิจารณาให้เงินนั้นกระจายไปในชุมชนที่ผู้รับเงินอยู่อาศัย ซึ่งสามารถยืดหยุ่นได้ตามข้อจำกัดพื้นที่ห่างไกล
2 นโยบายลดราคาพลังงาน น้ำมัน-ค่าไฟ
สำหรับเรื่องราคาพลังงาน เรื่องลดค่าไฟ ค่าน้ำมันนั้น เป็นความเดือดร้อนที่ทะลุทะลวงใจผู้คนทั้งประเทศ และเป็นเรื่องที่ประชาชน อยากรู้เป็นลำดับต้นๆ ว่า เรื่องนี้ จะได้รับการเยียวยา เมื่อไร ,เรื่องนี้ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียว่า เตรียมว่ารัฐบาลเพื่อไทยเตรียมเดินหน้าลดราคาพลังงาน ทั้งราคาน้ำมันและราคาค่าไฟทันที ใน การประชุม ครม. ครั้งแรก หลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อลดภาระประชาชน
โดยจะลด "ราคาน้ำมัน" ทันที
แนวทางการลดค่าไฟฟ้า
ส่วนแนวทางการลดค่าไฟฟ้าที่ดำเนินการได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ประกอบด้วย
1. รัฐบาลจัดงบประมาณเข้ามาช่วยอุดหนุนค่าไฟฟ้าเหมือนที่รัฐบาลชุดที่แล้วเคยดำเนินการ ที่ผ่านมาช่วยเหลือผู้ใช้ไฟเฉพาะกลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย และลดแบบขั้นบันไดให้ผู้ใช้ไฟที่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน
2. การบริหารก๊าซธรรมชาติเพื่อการผลิตไฟฟ้า จัดสรรก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย ใช้ผลิตไฟฟ้าสำหรับบ้านอยู่อาศัยก่อนภาคส่วนอื่น เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
3. ยืดหนี้ค่าบริหารจัดการค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยรัฐบาลต้องมาแก้ปัญหาสภาพคล่องให้ กฟผ. เช่นการออกพันธบัตรรัฐบาล
4. ปรับแก้ค่าความพร้อมจ่าย (Availability Payment: AP) เจรจาการลด Margin การยืดเวลาสัญญาเดิม และไม่เร่งการเพิ่มซัพพลายการผลิตไฟฟ้า เป็นเรื่องที่โรงไฟฟ้าจะต้องเจรจากับรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอ่อนไหว
5. เร่งเจรจาหาข้อยุติพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา เพิ่มโอกาสใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าในราคาที่ถูกลง
3. นโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เพิ่งกล่าวว่า นโยบายการพักหนี้เกษตรกรว่าได้มอบหมายให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปดูเรื่องของขั้นตอนต่าง ๆ
โดยประสานงานใกล้ชิดกับกระทรวงการคลัง คาดว่าน่าจะทำได้ในช่วงเดือนต.ค.2566 เพราะเรื่อง พักหนี้เกษตรกร 3 ปี นี้ เป็นวาระเร่งด่วนของพรรคเพื่อไทย ที่ได้จัดตั้งรัฐบาล
โดยการพักหนี้จะมีการพักทั้งต้นและดอก หลักการคือเราต้องการให้พี่น้องเกษตรกรมีเวลาไปพื้นฟูตัวเอง ไปทำมาหากินโดยไม่ต้องพะวงกับเรื่องหนี้สิน จะได้มีขวัญและกำลังใจในการหารายได้
4.ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
นโยบาย ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ นี้ เป็นนโยบายหาเสียง "หลัก" ของพรรคเพื่อไทย โดยเพื่อไทยระบุว่าจะเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาทต่อวันในปี 2570 ส่วนเงินเดือนปริญญาตรีจะเริ่มต้นที่ 25,000 บาทต่อเดือนในปี 2570 เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากลงพื้นที่พบแรงงานชาวประมงที่จ.สมุทรสาคร เมื่อสัปดาห์ก่อนนายกฯเศรษฐาบอกเรื่องค่าแรงขั้นต่ำจะเริ่มเห็นการปรับขึ้นหลังเทศกาลปีใหม่ 2567
“การขึ้นค่าแรงเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่าหากปรับขึ้นจะเป็นภาระของทุกภาคส่วน แต่มีความจำเป็น เพราะค่าครองชีพสูงขึ้น ที่สำคัญคือการเน้นเพิ่มรายได้ ถ้าสามารถเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจ SME ได้ จะสามารถเพิ่มรายได้ให้ประชาชนที่มารับจ้าง ซึ่งต้องพูดคุยกัน จะทำทันที ปีใหม่ได้เห็นแน่ แต่ต้องหารือกับพรรคร่วม พร้อมต้องให้เกียรติกัน”
• รถไฟฟ้า กทม. 20 บาทตลอดสาย
นโยบาย รถไฟฟ้า กทม. 20 บาทตลอดสาย ซึ่งในส่วนนี้เป็นหนึ่งในนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่มีการรายงานต่อ กกต. และมีการกำหนดวงเงินงบประมาณไว้กว่า 4 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตามจากการที่ผู้สื่อข่าวสอบถามนายกฯเศรษฐาได้รับตำตอบว่านโยบายนี้ จำเป็นต้องหารือพรรคร่วมรัฐบาลก่อน
“ต้องขอไปพิจารณาในรายละเอียดก่อน เพราะถึงแม้จะเคยบอกว่าเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย แต่ปัจจุบันเราไม่ได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียว การที่มีพรรคร่วมรัฐบาลอีก 10 พรรค ก็ต้องไปพิจารณาในเรื่องของงบประมาณโดยรวมก่อน และจะมีการชี้แจงอีกครั้ง”
• ยกเลิกเกณฑ์ทหาร
นโยบาย การยกเลิกเกณฑ์ทหาร นั้น สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งถือเป็น พลเรือน ที่ไม่ใช่นายกฯ และเป็นรัฐมนตรีกลาโหมคนแรก ได้ให้ความเห็นว่า หลังได้หารือกับว่าที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพว่า มีการพูดคุยกับ 3 เหล่าทัพแล้ว พบว่า กองทัพดำเนินการมานานแล้วและทำมาเป็นขั้นตอน เพียงแต่หากเราอยากให้รวดเร็วและทันกับที่สังคมต้องการ รัฐบาลจะต้องเข้าไปกำกับสนับสนุน ก็ไม่หนักใจอะไร คาดว่าจะสามารถเริ่มต้นได้เลยในเดือนเมษายน 2567 หมายถึงมีการเกณฑ์ทหารนั้นเราสามารถรับสมัครได้เลย และเมื่อไปถึงเม.ย.ปีหน้าหากมีคนสมัครเต็มก็ไม่ต้องมีการเกณฑ์ทหาร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง