เปิด 8 คุณสมบัติที่ทำให้ "เบิร์ด ธงไชย" ซูเปอร์สตาร์เมืองไทย ขึ้นแท่นเป็น "ศิลปินแห่งชาติ" ประจำปี 2565 สาขาศิลปะการแสดง
อีกหนึ่งข่าวดีที่สร้างความภาคภูมิใจให้แฟนคลับเป็นอย่างมาก เมื่อ "เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์" ซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทยวัย 64 ปี ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็น "ศิลปินแห่งชาติ" พุทธศักราช 2565 ในสาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง)
ซึ่งการได้รับเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ทำให้นักร้องซูเปอร์สตาร์ตลอดกาล "เบิร์ด ธงไชย" รู้สึกปลาบปลื้มใจสุดๆ เพราะคุณสมบัติและหลักเกณฑ์การคัดเลือกศิลปินแห่งชาติที่มีคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
1. มีสัญชาติไทย
2. มีชีวิตอยู่ในวันประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ
3. เป็นผู้มีคุณธรรม มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และมีผลงานดีเด่น เป็นที่ยอมรับของวงการศิลปะในสาขานั้น
4. เป็นผู้สร้างสรรค์และพัฒนาศิลปะในสาขาที่ได้รับการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ
5. เป็นผู้ผดุง ถ่ายทอด เผยแพร่ เป็นต้นแบบศิลปะในสาขาที่ได้รับการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ
6. เป็นผู้ทุ่มเท อุทิศตนเพื่องานศิลปะ และมีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
7. ไม่มีความประพฤติเสื่อมเสีย
8. ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ศิลปินแห่งชาติ จะได้รับสวัสดิการด้วย ได้แก่
สำหรับประวัติ "เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์" ได้รับขนานนามว่าเป็น "ซูเปอร์สตาร์เมืองไทย" เพราะมีผลงานสร้างชื่อเสียงยาวนานมากกว่า 30 ปีในวงการบันเทิง โดยเส้นทางวงการเพลงนั้น เริ่มต้นจากการประกวดร้องเพลงของสยามกลการ ต่อมาได้เป็นนักร้องในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ซึ่งประสบความสำเร็จสูงสุดของประเทศไทย มียอดจำหน่ายเพลงอยู่ในระดับแนวหน้าของทวีปเอเชีย รวมมากกว่า 25 ล้านชุด
ส่วนผลงานโดดเด่น 3 ลำดับแรก ได้แก่ อัลบั้ม "บูมเมอแรง" (พ.ศ. 2533) ซึ่งเป็นศิลปินคนแรกของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ที่มียอดจำหน่ายเกิน 2 ล้านตลับ และความสำเร็จด้านการแสดงในบท "โกโบริ" จากละคร "คู่กรรม" (พ.ศ. 2533) ซึ่งเป็นละครที่มีเรตติ้งสูงที่สุดในประเทศไทย ทำให้เกิดปรากฏการณ์ "เบิร์ดฟีเวอร์" ทั้งวงการเพลงและวงการละคร
ต่อด้วยอัลบั้ม "พริกขี้หนู" (พ.ศ. 2534) มียอดจำหน่ายรวมมากกว่า 3.5 ล้านตลับ เป็นสถิติยอดจำหน่ายสูงที่สุดของยุค 90 ขณะทางด้านอัลบั้ม "ชุดรับแขก" (พ.ศ. 2545) ก็มียอดจำหน่ายมากกว่า 5 ล้านชุด เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่อัลบั้มของพี่เบิร์ด คว้ายอดจำหน่ายสูงที่สุดของประเทศไทย
ทั้งนี้หากย้อนไปช่วงวัยเด็ก เบิร์ด ธงไชย ช่วยเหลือครอบครัว โดยการช่วยพับถุง ขายเรียงเบอร์ เก็บกระป๋องนมขาย และเย็บงอบ เป็นต้น รวมถึงยังหารายได้จากการสอนภาษาอังกฤษให้เด็กที่สลัมบางแค ซึ่งมีรายได้ 5 ถึง 10 บาท
โดย เบิร์ด ธงไชย ได้เล่าถึงแง่คิดช่วงชีวิตวัยรุ่น ตอนที่อาศัยอยู่สลัมบางแคว่า
"สอนและให้เราสอบผ่านให้ได้ทุกวัน การเรียนรู้และการแบ่งแยกความคิดไปในทางที่ดี ไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่างพร้อม คนเราจะดีหรือไม่ดีขึ้น อยู่กับตัวเราเท่านั้น"