พิชัย นริพทะพันธุ์ พร้อมด้วยทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ซัด 8 ปีรัฐบาลประยุทธ์ สร้าง 8 มรดกบาปให้กับประเทศ ค่าไฟพุ่ง ดอกเบี้ยเพิ่ม รายได้คนไทยไม่พอรายจ่าย
พิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยทีมเศรษฐกิจ แถลงข่าวประเด็นเศรษฐกิจประจำสัปดาห์พร้อมกล่าวถึงผลงานการทำงานของพลเอกประยุทธ์ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาว่าทิ้งมรดกบาปไว้ให้คนไทย มากกว่าที่จะทิ้งมรดกความเจริญรุ่งเรืองให้ประเทศ
8 มรดกของพลเอกประยุทธ์ ที่ส่งมอบต่อให้กับคนรุ่นต่อไปของประเทศไทย ซึ่งเป็นเหมือนตราบาป ยิ่งอยู่นานประเทศไทยยิ่งเสื่อมถอย ดังนั้นการที่เข้าใจไปเองว่าเป็นมรดกความเจริญรุ่งเรืองน่าจะเป็นความเข้าใจผิดอย่างรุนแรง และควรจะต้องละอายใจและสำนึกได้แล้ว โดย พิชัย นริพทะพันธุ์ กล่าวถึงมรดกบาปที่พลเอกประยุทธ์ได้ทำทิ้งไว้ให้กับประชาชน มีดังต่อไปนี้
มรดกบาป 8 ประการ
1. ประเทศไทยพัฒนาน้อยที่สุด จากตัวเลขการเจริญเติบโตที่ต่ำมาตลอด ประเทศไทยได้ฉายาเป็นคนป่วยของเอเชีย และถูกประเทศเพื่อนบ้านแซงทุกด้าน
2. ประเทศก่อหนี้มากสุด โดยมีหนี้สาธารณะทะลุ 10 ล้านล้านบาท กู้เงินมากที่สุดแต่เศรษฐกิจขยายตัวต่ำสุด ประชาชนต้องมาใช้หนี้ไปอีก 50 ปีกว่าจะใช้หนี้หมดสิ้นพร้อมดอกเบี้ยมหาศาล
3. ค่าครองชีพแพงสุด เงินเฟ้อมากสุด แต่รายได้ของคนไทยไม่เพิ่มแถมลดลง
4. ความสามารถแข่งขันของไทยที่ลดลง โครงสร้างพื้นฐานที่เสื่อมถอย การพัฒนาด้านต่างๆที่ล้าหลัง
5. อุตสาหกรรมที่เริ่มล้าสมัย ไม่มีการลงทุนใหม่ๆ นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศขาดความมั่นใจและขาดความเชื่อถือ ไปลงทุนประเทศอื่นกันหมด
6. คนจนพุ่ง คนตกงานเพิ่มมาก คนฆ่าตัวตายมากที่สุด มีทหารและตำรวจกราดยิงประชาชน
7. การทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุดตามดัชนีวัดขององค์กรสากล การส่งเสริมการผูกขาด การเอื้อประโยชน์แก่เจ้าสัว
8. การปิดกั้นความคิดเห็น การปิดปากห้ามวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล การจับคนเห็นต่าง การปรับทัศนคติของคนจำนวนมาก
ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น และจะแพงขึ้นไม่หยุด
ส่วน เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.เลย ได้กล่าวถึงปัญหาราคาค่าไฟฟ้า ที่ขึ้นราคาจากหน่วยละ 4 บาท เป็น หน่วยละ 4.72 บาท และยังมีแนวโน้มที่จะขึ้นราคาอีก เพราะ กฟผ. ยังมีค่าเชื้อเพลิงติดลบจากการบริหารค่าเชื้อเพลิงที่ผิดพลาดของรัฐบาลเป็นจำนวนกว่าแสนล้านบาท ดังนั้นการแก้ไขปัญหาต้นทุนเชื่อเพลิงการผลิตไฟฟ้าจึงเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นในการพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคต ปัจจุบันราคาไฟฟ้าของไทยแพงกว่าราคาไฟฟ้าของเวียดนามอย่างมาก ซึ่งทำให้ความสามารถแข่งขันของไทยและความน่าลงทุนของไทยลดลงมาก
ดอกเบี้ยขาขึ้น คนไทยรายได้ไม่ทันรายจ่าย
ส่วน จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางรัก พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าปัญหาอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อกระทบคนทุกรุ่น แต่คนเจน Z น่าเป็นห่วงสุด เพราะจะเข้าสู่ตลาดแรงงานในภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย โอกาสในการสร้างความมั่งคั่งน้อยกว่าคนรุ่นก่อนมาก
โดยกว่า 1 ใน 3 กังวลปัญหาค่าครองชีพมากที่สุด และโอกาสในการออมเงินเพื่อซื้อบ้าน ซื้อรถ ทำได้ยากกว่าคนรุ่นก่อน เพราะราคาที่ดินสูงขึ้นแต่รายได้ยังต่ำ เพิ่มความเครียด และก่อให้เกิดอาการหมดไฟในคนกลุ่มนี้ได้ง่าย เพื่อไทยพร้อมสนับสนุน คนรุ่นใหม่ให้พัฒนาทักษะ พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจ
ที่มา FB : พรรคเพื่อไทย