svasdssvasds

นายกฯ ลงพื้นที่เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี

นายกฯ ลงพื้นที่เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี

หลังเสร็จภารกิจการประชุม ครม. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช ทันที เพื่อเร่งติดตามสถานการณ์และแผนการช่วยเหลือฟื้นฟูน้ำท่วมภาคใต้

หลังเสร็จภารกิจการประชุม ครม. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช ทันที เพื่อเร่งติดตามสถานการณ์และแผนการช่วยเหลือฟื้นฟูน้ำท่วมภาคใต้

เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ฝูงเครื่องบิน กองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้าย กองทัพบก ดอนเมือง กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรสนายกฯ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

ทั้งนี้ ในส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รวมทั้งคณะกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปสมทบกับคณะของนายกฯ ในพื้นที่

 

เวลาประมาณ 13.00 น. นายกฯ เดินทางถึงอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช จากนั้นเวลา 14.30 น. นายกฯ เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัย และสั่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ (นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และพัทลุง) ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช

ก่อนที่นายกฯ จะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่บริเวณซอยพัฒนาการคูขวาง 10 (ถนนท่าโพธิ์) อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช

เวลา 17.00 น. นายกฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี บริเวณที่ว่าการอําเภอท่าฉาง อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในช่วงค่ำวันเดียวกัน

 

ศปช.คาดการณ์อีก 1 วันฝนใต้จะเริ่มซาลง

นายจิรายุ  ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า ศปช. วันนี้ ได้รายงานสถานการณ์อุทกภัยใน 6 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และพัทลุง  โดยที่ประชุมได้สั่งการให้ช่วยเหลือประชาชนทั้งในสถานการณ์เร่งด่วน โดยได้เร่งระดมกำลังพลและเครื่องจักรกล เข้าช่วยเหลือประชาชนตลอดหลายวันที่ผ่านมา ทั้งหน่วยงานทหาร ตำรวจ ฝ่ายพลเรือน ซึ่งได้กระจายกำลังและนำเครื่องจักรกล    สาธารณภัยออกปฏิบัติการเพื่อดูแลผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ทั้งตอนบนและตอนล่างอย่างเต็มที่ ทั้งการเร่งสูบระบายน้ำ การอพยพประชาชน การดูแลด้านสาธารณูปโภค อาหาร น้ำดื่มสะอาด แจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง โดยจะปักหลักให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย”

สำหรับสภาพอากาศในวันนี้ (อังคารที่ 17 ธ.ค. 67) พื้นที่ภาคใต้จะยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้อีก ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส หลังจากนั้นช่วงวันที่ 18 - 22 ธ.ค. 67 ปริมาณฝนมีแนวโน้มลดน้อยลง จนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

 “การบริหารจัดการน้ำที่อ่างเก็บน้ำรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี ได้แจ้งปิดการระบายน้ำตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 - 26 ธ.ค. 67) เพื่อบรรเทาผลกระทบน้ำท่วมให้กับประชาชน ส่วนอ่างเก็บน้ำบางลาง จ.ยะลา ปัจจุบันมีน้ำใช้การ 83% ซึ่งยังคงอัตราการระบายน้ำที่ 18 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เนื่องจากระดับน้ำต่ำกว่าเกณฑ์ควบคุมสูงสุดแล้ว (URL) เพื่อเตรียมพื้นที่รองรับน้ำช่วงปลายปี และจะมีการปรับแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อลดผลกระทบให้น้อยที่สุด”

นอกจากนี้ขอให้ประชาชนยังคงต้องติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ด้วย “กรมประชาสัมพันธ์ได้ ติดตามรายงานสถานการณ์ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นช่องทางเชื่อมโยงประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช FM 89.75 MHz , 96.75 MHz , 97.00 MHz , AM 1242 KHz และสถานีโทรทัศน์ช่อง NBT2HD (กดเลข 2), NBT South (กดเลข 11) ล้มผังรายงานสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลายและมีการไลฟ์สดผ่านเพจ Facebook  NBT นครศรีธรรมราชและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มของกรมประชาสัมพันธ์”

 

related