คอการเมืองต่างจับจ้องไปที่พรรคเพื่อไทยอีกครั้ง หลังสื่อหลายสำนักรายงานคำให้สัมภาษณ์ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ลงใน Nikkei Asia ว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวและอดีตนายกฯ หญิงคนแรกของไทย จะได้กลับบ้านก่อนช่วงสงกรานต์ปีหน้า (พ.ศ. 2568)
“คิดว่าเธออาจจะได้กลับบ้านก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส (ที่เหมาะสม)” ทักษิณให้สัมภาษณ์ในช่วงหนึ่ง
SPRiNG พูดคุยกับ วันวิชิต บุญโปร่ง คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิตถึงความเป็นไปได้ที่อดีตนายกฯ หญิงผู้นี้จะกลับสู่เมืองไทย ภายใต้รัฐบาลเพื่อไทย
สถานการณ์ยิ่งลักษณ์เป็นอย่างไร เหลือคดีอะไรบ้าง?
ย้อนไปก่อนหน้านี้ คดีความของยิ่งลักษณ์เริ่มคลายตัวมากขึ้น ศาลยกฟ้องคดีจัดจ้างโครงการ Roadshow Thailand 2022 และคดีโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เลขาฯสมช.) เรียบร้อย ส่วนคดีความที่อยู่ในมือ ป.ป.ช.ไม่ว่าคดีซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G2G), คดีเยียวยา นปช. หรือกรณีแผนบริหารจัดการน้ำ 3,500 ล้านบาทก็ล้วนยุติสอบและยกฟ้องไปแล้ว
ในตอนนี้ อดีตนายกฯ หญิงเหลือคดีติดตัวเพียงคดีปล่อยปะละเลยให้มีการทุจริตจำนำข้าว ซึ่งศาลตัดสินลงโทษจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา และเพราะเธอไม่มาฟังคำพิพากษาตามหมายนัดทำให้คดีไม่มีหมดอายุความ และจะนับหนึ่งอีกครั้งทันทีที่เธอกลับไทยเพื่อฟังคำพิพากษาจากศาล
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ยิ่งลักษณ์เหลือวิธีไหนกลับเมืองไทยได้บ้าง และที่สำคัญ วิธีไหนที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยและเครือข่ายเจ็บตัวน้อยที่สุด
อยากกลับบ้าน ทางไหนเป็นไปได้บ้าง?
“คุณยิ่งลักษณ์กลับบ้านได้เสมอนะครับ ยิ่งคุณยิ่งลักษณ์กลับมาแล้วเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มันจะเป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำ” วันวิชิตกล่าว
“ผมไม่เชื่อว่าคุณทักษิณจะยอมให้คุณยิ่งลักษณ์เข้าสู่การถูกปฎิบัติตามเงื่อนไขปกติ เหมือนผู้ต้องหาหรือนักโทษทั่วไป”
SPRiNG ชวนวันวิชิตวิเคราะห์เส้นทางกลับบ้านทั้ง 3 เส้นทางที่มีการพูดถึงในขณะนี้ ตั้งแต่การรื้อฟื้นคดีจำนำข้าว, การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และทางเดียวกับทักษิณ หรือการขอพระราชทานอภัยโทษ
เส้นทางที่หนึ่ง รื้อฟื้นคดีจำนำข้าว นักวิเคราะห์หลายคนมองไปในทิศทางเดียวกันว่า การรื้อคดีจำนำข้าวคือหนึ่งในทางกลับบ้านของอดีตนายกฯ หญิง สัญญาณกรณีนี้มีให้เห็นตั้งแต่ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ แสดงกินข้าวค้าง 10 ปีออกสื่อและเดินสายหาทางปล่อยข้าวล็อตดังกล่าว
“มันเป็นการโยนก้อนหินถามทางมากกว่าครับ” วันวิชิตเริ่มต้น
“คดีนี้ไม่น่าจะรื้อฟื้นอะไรได้นะครับเพราะว่าศาลตัดสินไปแล้ว และ ครม.คุณยิ่งลักษณ์ก็เข้าสู่คําตัดสินอย่างเด็ดขาดแล้ว ต้องจําคุกได้ชดใช้เสียกันไปเท่าไหร่”
ข้อความข้างต้นของวันวิชิตหมายถึง บุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พานิชย์ และ ภูมิ สาระผล รมช.พานิชย์ ขณะนั้นที่ถูกศาลตัดสินคดีจำนำข้าว 48 ปี และ 36 ปีตามลำดับ ซึ่งว่ากันว่าทางบุญทรงเคยส่งสัญญาณไว้แล้วว่าจะไม่ยอมตายเดี่ยวในคดีนี้อย่างแน่นอน
เส้นทางที่สอง การนิรโทษกรรม ในแง่นี้วันวิชิตก็มองว่าเป็นไปได้ยากเช่นกัน เพราะมีผู้ต้องหาทางการเมืองหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ รวมถึงคดี ม.112 เองเช่นกัน
เส้นทางที่สาม การขอพระราชทานอภัยโทษ เป็นเส้นทางที่วันวิชิตมองว่าเป็นไปได้มากที่สุด โดยน่าจะขอเข้ารับการพระราชทานอภัยโทษในฐานะผู้สร้างคุณงามความดีให้ประเทศ แต่จะเป็นไปในเส้นทางเดียวกับทักษิณทั้งหมดเลยไหม อาจไม่เป็นเช่นนั้น เนื่องด้วยอายุยังไม่เข้าเกณฑ์ชราภาพ
ในกรณีของทักษิณ ก่อนกลับสู่ไทยเขามีโทษจำคุกติดตัวเหลือ 8 ปี แต่ทางกรมราชทัณฑ์ได้เสนอชื่อของทักษิณเข้ารับการพระราชทานอภัยโทษจนเหลือโทษจำคุกเพียง 1 ปี ก่อนที่ต่อมาชื่อของทักษิณจะเข้าข่ายเกณฑ์พักโทษ เนื่องจากมีอายุเกิน 70 ปีและมีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง
อย่างไรก็ตาม วันวิชิตยังคงเชื่อว่ากรณีของยิ่งลักษณ์จะเหมือนกับทักษิณ กล่าวคือ
“ไม่ได้เข้าเรือนจําแม้แต่วันเดียว”
ทั้งนี้ วันวิชิตมีคำเตือนในเรื่องนี้ 3 ข้อคือ การลงทัณฑ์ทางการเมืองต่อพรรคเพื่อไทยและเครือข่าย การลุกฮือของกระแสต่อต้านทักษิณ และความผิดหวังต่อกระบวนการยุติธรรมอีกครั้ง
"ความผิดหวังต่อกระบวนการยุติธรรมมีมูลค่าสูงแน่ๆ ในขณะเดียวกัน ประชาชนจะไม่ลืมลงทัณฑ์คนที่ใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อประโยชน์ในทางการเมืองของตัวเอง แน่นอนครับ"
“รัฐบาลคุณแพทองธารจะสิ้นสุดหรืออะไรก็ตาม แต่ตราบใดที่คุณยิ่งลักษณ์กลับมาได้อย่างปลอดภัย ไม่มีมลทิน ผมว่ามันไม่มีอะไรจะเสีย แต่ผลพวงของความคับข้องใจความขัดแย้งแต่มันจะไปลงที่ ส.ส.หรือพรรคเพื่อไทยในอนาคต ซึ่งแน่นอนเขามีสิทธิ์จะปล่อยมือ (ออกจากพรรค) ได้” วันวิชิตทิ้งท้าย
หากจะเปรียบเทียบกรณีของยิ่งลักษณ์และทักษิณ เราต้องไม่ลืมมุมการเมืองที่สำคัญมากที่ซ่อนอยู่ในนั้น เพราะหากไล่เรียงไทม์ไลน์การกลับบ้านของคุณทักษิณจะพบว่า ความล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล การจับมือตั้งรัฐบาล ‘ข้ามขั้ว’ และการกลับบ้านของทักษิณล้วนเกิดขึ้นต่อกันราวถูกวางหมากไว้แล้ว และถูกประเมินจากนักวิเคราะห์ว่าเป็นเกมดึงทักษิณกลับมาเพื่อให้เกิดศึก แดง vs ส้ม
แต่ในกรณีของยิ่งลักษณ์อาจมีคำถามต่อไปว่า ใครจะได้ประโยชน์จากการช่วยยิ่งลักษณ์กลับบ้านบ้าง นอกจากครอบครัวชินวัตร..