SHORT CUT
นางนพมาศไม่มีตัวตนจริง แต่พึ่งถูกสร้าง ในสมัยรัตนโกสินทร์ ส่งผลต่อแนวคิดการสร้างชาติและประวัติศาสตร์ยุคกรุงรัตนโกสินทร์
“นางนพมาศ” มักถูกเชื่อมโยงกับประเพณีลอยกระทง ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมไทยมาอย่างยาวนาน ข้อสังเกตที่น่าสนใจเกี่ยวกับต้นกำเนิดของเรื่องราวของ “นางนพมาศ” และความเป็นไปได้ที่ “ตำนานนางนพมาศ” อาจถูกแต่งเติมขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์
สำนวนภาษา ที่เห็นได้ชัด เมื่อพิจารณาสำนวนภาษาใน “ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์” หรือ “เรื่องนางนพมาศ” พบว่า แตกต่างจากวรรณกรรมสมัยสุโขทัยอย่างชัดเจน โดยมีลักษณะการใช้ภาษาที่ใกล้เคียงกับวรรณกรรมในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น มากกว่า ตัวอย่างคำวินิจฉัยเช่น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
“ว่าโดยทางโวหาร ใครๆ อ่านหนังสือเรื่องนี้ด้วยความสังเกตจะแลเห็นได้โดยง่าย ว่าเปนหนังสือแต่งในครั้งกรุงรัตนโกสินทร์นี้เอง แต่งในระหว่างรัชกาลที่ ๒ กับที่ ๓ ไม่ก่อนนั้นขึ้นไปไม่ทีหลังนั้นลงมาเปนแน่ ถ้าจะหาพยาน จงเอาสำนวนหนังสือเรื่องนี้ไปเทียบกับสำนวนหนังสือจาฤกครั้งศุโขไทยหรือหนังสือที่เชื่อว่าแต่งครั้งศุโขไทย เช่นหนังสือไตรภูมิพระร่วงเปนต้น หรือแม้ที่สุดจะเอาไปเทียบกับหนังสือที่แต่งเพียงในชั้นกรุงเก่า ก็จะเห็นได้แน่นอนว่า สำนวนหนังสือเรื่องนางนพมาศเปนหนังสือแต่งใหม่เปนแน่”
ต่อมาคือเรื่องข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ข้อมูลระบุว่า ใน “เรื่องนางนพมาศ” มีการกล่าวถึงสิ่งต่างๆ ที่ไม่น่าจะมีอยู่ในสมัยสุโขทัย เช่น ชนชาติฝรั่งหลายชาติ รวมถึง “ฝรั่งอเมริกัน” ซึ่งพึ่งก่อตั้งประเทศหลังสมัยสุโขทัยไปหลายร้อยปี นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงปืนใหญ่ ซึ่งยังไม่ถูกประดิษฐ์ขึ้นในสมัยสุโขทัยเช่นกัน เห็นได้จากการกล่าวถึงชื่อฝรั่งหลายชาติที่ยังไม่เข้ามาครั้งสุโขทัยเป็นราชธานี ปืนใหญ่ขนาดหนักที่ยังไม่เกิดขึ้นในโลกแต่กลับปรากฎในหนังสือเล่มนี้ และฝรั่งชนชาติอเมริกัน ที่พึงเป็นประเทศได้ไม่ถึง 200 ปี แต่กลับมีชื่ออยู่ในหนังสือเล่มนี้อย่างน่าแปลกใจ
หรือตำแหน่ง “ท้าวศรีจุฬาลักษณ์” มีข้อมูลระบุว่า ไม่พบหลักฐานการใช้ตำแหน่ง “ท้าวศรีจุฬาลักษณ์” ในเอกสารหรือศิลาจารึกใดๆ สมัยสุโขทัย ตำแหน่งนี้กลับปรากฏชัดเจนในเอกสารสมัยอยุธยา เช่น พระไอยการตำแหน่งนายพลเรือน นายทหารหัวเมือง ซึ่งบ่งชี้ว่า ตำแหน่งนี้น่าจะเกิดขึ้นหลังสมัยสุโขทัย
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ บันทึกว่า พระองค์ทรงมีข้อสังเกตเกี่ยวกับความไม่สอดคล้องของเนื้อหาใน “เรื่องนางนพมาศ” กับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ และทรงสันนิษฐานว่า หนังสือเล่มนี้น่าจะถูกแต่งขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (รัชกาลที่ 2 หรือ 3) โดยอาจมีบางส่วนที่เป็นพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3)
ด้าน ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ ระบุว่า เห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานที่ว่า “เรื่องนางนพมาศ” เป็นวรรณกรรมที่ถูกแต่งขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ โดยชี้ให้เห็นว่า มีความพยายามในการสร้างภาพ “โลกที่ไม่มีศูนย์กลาง” และให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นแนวคิดที่เริ่มแพร่หลายในสมัยรัตนโกสินทร์
ขณะที่ สุจิตต์ วงษ์เทศ เชื่อว่า “นางนพมาศ” เป็นเพียงตัวละครที่ถูกสมมติขึ้น และประเพณีลอยกระทง ไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยสุโขทัย แต่เป็นการสร้างขึ้นใหม่ในสมัยรัตนโกสินทร์
แม้แหล่งข้อมูลที่ให้มาจะไม่ได้ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงว่า เรื่องราวของนางนพมาศ อาจมีเค้าโครงมาจากเรื่องเล่าเก่าก่อนสมัยรัตนโกสินทร์ แต่ก็มีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า “ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์” ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ได้รับการแต่งเติม เสริมแต่ง และตีความใหม่ในสมัยรัตนโกสินทร์ โดยสะท้อนให้เห็นแนวคิด ค่านิยม และบริบททางสังคมของยุคสมัยนั้น
การสร้างวรรณกรรมหรือเรื่องเล่าต่างๆ ขึ้นมาล้วนต้องมีวัตถุประสงค์ในการสร้างอย่างแน่นอน เรื่อง “นางนพมาศ” ก็มีวัตถุประสงค์ของการแต่ง
เพื่อสร้างความชอบธรรมและความศักดิ์สิทธิ์ให้กับราชวงศ์จักรี
ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ราชวงศ์จักรียังมีความมั่นคงไม่มากนัก การสร้างเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับอดีตอันรุ่งเรืองของสุโขทัย อาจเป็นการสร้างความชอบธรรมและความศักดิ์สิทธิ์ให้กับราชวงศ์
การที่ "เรื่องนางนพมาศ" กล่าวถึงกษัตริย์ "พระร่วง" ผู้ทรงมีพระบารมีและปกครองบ้านเมืองอย่างรุ่งเรือง อาจเป็นการสะท้อนภาพลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรี
การยกย่อง "นางนพมาศ" ผู้เป็นสตรีที่เฉลียวฉลาดและเป็นที่โปรดปรานของพระร่วง อาจเป็นการสะท้อนบทบาทของสตรีในราชสำนัก
เพื่อส่งเสริมค่านิยมและวัฒนธรรมที่ต้องการ
การสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับนางนพมาศที่เป็นสตรีที่มีความอ่อนหวาน เรียบร้อย และเป็นกุลสตรี อาจเป็นการส่งเสริมค่านิยมเกี่ยวกับบทบาทของสตรีในสังคม
การเน้นย้ำความสำคัญของประเพณีลอยกระทง อาจเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมไทย และสร้างความเป็นปึกแผ่นในสังคม
การนำเสนอภาพความหลากหลายทางวัฒนธรรมใน "เรื่องนางนพมาศ" อาจสะท้อนถึงสภาพสังคมในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ที่มีการติดต่อค้าขายกับต่างชาติมากขึ้น
เพื่อความบันเทิงและสุนทรียะ
"เรื่องนางนพมาศ" มีลักษณะของวรรณคดีที่ใช้ภาษาไพเราะ อาจแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงแก่ผู้อ่าน การเล่าเรื่องราวความรักระหว่างนางนพมาศและพระร่วง อาจเป็นการสร้างอรรถรสให้กับเรื่องราว
ดังนั้น “นางนพมาศ” จึงเปรียบเสมือนประวัติศาสตร์ที่พึ่งสร้าง ไม่ได้มีประวัติยาวนานอย่างที่หลายคนเข้าใจแต่ครั้งสุโขทัย แต่พึ่งเกิดขึ้นในช่วงรัตนโกสินทร์ที่ตอบสนองบริบทของบ้านเมืองในยุคนั้น ทั้งในแง่สังคมและการเมือง
อ้างอิง
นางนพมาศ / SilpaMag / SilpaMag1 / Medium / Stouc / TheMatter /
ข่าวที่เกี่ยวข้อง