SHORT CUT
ศาลยกฟ้อง “วรรณา สวนสัน” จำเลยคดีวางระเบิดราชประสงค์ ปี 58 เหตุไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงถึงตัวจำเลย วรรณาดีใจได้รับความเป็นธรรมเพราะที่ผ่านมาคดีนี้มีผลกระทบต่อครอบครัวมาก
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งยกฟ้อง ในคดีของ “วรรณา สวนสัน” อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดพังงา ที่อัยการฟ้องว่าเป็นตัวการเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่ศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558
โดยกล่าวหาว่า วรรณา พร้อมสามีชาวตุรกีมีชื่อเป็นผู้เช่าห้องพักที่ไมมุนาการ์เด้นท์โฮม เพื่อให้เป็นที่พักพิงแก่ผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครอง พาอาวุธ (วัตถุระเบิด) ไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร และร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตามหมายจับศาลทหารกรุงเทพ เลขที่ 84/2558 ก่อนคดีจะถูกย้ายมาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้เมื่อเดือน พ.ย. ปี 2562
ศาลพิพากษาว่า โจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า จำเลยมีความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาอีก 2 ราย (นายบิลาล โมฮำเหม็ด หรือ อาเด็ม คาราดัก และนายเมียไรลี ยูซุฟู จำเลยที่ถูกแยกดำเนินคดีอยู่ในศาลเดียวกัน) ไม่มีภาพถ่ายจากวงจรปิด ณ สถานที่เกิดเหตุ ไม่มีสัญญาณการโทรศัพท์ ณ จุดเกิดเหตุ ไม่มีการติดต่อสื่อสารระหว่างจำเลยและผู้ต้องหาอื่นๆ
จำเลยเดินทางออกนอกประเทศกับสามีตั้งแต่ 1 กค. 58 แล้วเหตุเกิดเมื่อกลางเดือนก.ค. 58 จำเลยเคยอยุ่อาศัยที่อพาร์ตเมนต์ที่ตรวจพบสารประกอบระเบิด แต่จากการตรวจสอบหลักฐานเรื่องวัตถุที่ใช้ประกอบระเบิดที่พบที่ห้องพัก ไม่พบว่ามีจำเลยเกี่ยวข้อง จำเลยอยู่าห้องพักดังกล่าว 1 ปีก่อนหน้าจะเกิดระเบิด มีภาพถ่ายจำเลยและสามีเดินทางออกนอกประเทศไทยจากภูเก็ต ณ สนามบินภูเก็ตชัดเจน
ดังนั้นจึงไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักว่าจำเลยมีส่วนร่วมหรือรู้เห็นกับผู้ต้องหาอื่น ในการวางแผนระเบิด การตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินก็ไม่พบความเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ไม่มีน้ำหนักให้เชื่อได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ศาลพิพากษา “ยกฟ้อง”
ด้านวรรณา ให้สัมภาษณ์หลังฟังคำพิพากษาว่า ตนรู้สึกดีใจ ดีใจที่สิ้นสุด เพราะ 7 ปีที่ผ่านมามีผลกระทบต่อครอบครัวและลูก 3 คนมาก ส่วนทนายความเผยว่าคดีนี้ใช้เวลาในการสืบพยานยาวนานหลายปีเพราะมีพยานฝ่ายโจทก์มากหลักร้อยคน ส่วนอีกคดีของนายบิลาลและเมียไรลี ขณะนี้ยังอยู่ในชั้นสืบพยานโจทก์ที่มีหลักร้อยคนเช่นกัน คาดว่าจะใช้เวลาจนกว่าจะถึงชั้นพิพากษาคดี