SHORT CUT
เซปปุกุการฆ่าตัวตายอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี สะท้อนการเมืองญี่ปุ่นเรื่องฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ฉบับดินแดนอาทิตย์อุทัย
การฆ่าตัวตายในบางวัฒนธรรม เป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดบาปร้ายแรงอะไร แต่คือวิถีแห่งผู้กล้าซึ่งเป็นการฆ่าตัวตายเพื่อรักษาเกียรติเสียด้วยซ้ำไป
ตัวอย่างเช่นในวัฒนธรรมญี่ปุ่น การฆ่าตัวตายที่มีชื่อเรียกว่า เซปปุกุ เป็นวัฒนธรรมชั้นสูงที่มีเฉพาะในชนชั้นซามูไรเท่านั้น
เซปปุกุ (Seppuku) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ฮาราคิริ (Hara-kiri) เป็นพิธีกรรมการฆ่าตัวตายแบบหนึ่งในวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยเฉพาะในหมู่ซามูไร ซึ่งถือเป็นการรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของตนเอง
เซปปุกุ มาจากคำว่า เซปปุ หมายถึง การผ่าท้อง ส่วนคำว่า ฮาราคิริ มาจากคำว่า ฮาระ หมายถึง ท้อง และ คิริ หมายถึง การตัด ทั้งสองคำมีความหมายเดียวกัน แต่คำว่า เซ็ปปุกุ ถือเป็นคำที่สุภาพกว่า
เหตุผลของการเซปปุกุนั้นมีหลายประการด้วยกัน แต่ล้วนแล้วแต่มีนัยทางการเมืองเพื่อตระกูลและตนเอง ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็นการรักษาเกียรติ เพราะเมื่อซามูไรทำผิดพลาดร้ายแรง หรือรู้สึกว่าตนเองเสียเกียรติ การทำเซปปุกุถือเป็นการชำระล้างตนเองและรักษาเกียรติของตระกูล
กรณีที่เห็นได้ชัดคือหากไดเมียวหรือซามูไรแพ้สงครามจะไม่ยอมโดนศัตรูสังหาร แต่เรียกที่จะทำการเซปปุกุตัวเอง
หรือการแสดงความจงรักภักดี ในบางกรณี ซามูไรอาจทำเซปปุกุเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อเจ้านาย โชกุน รวมองค์จักรพรรดิ
ตัวอย่างเช่นกลุ่ม 47 โรนิน แม้จะไม่ได้ทำเซปปุกุเพื่อองค์จักรพรรดิโดยตรง แต่เรื่องราวของ 47 โรนินก็เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อนายของพวกเขา ซึ่งเป็นตัวแทนขององค์จักรพรรดิในระดับท้องถิ่น การกระทำของพวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณของซามูไรที่พร้อมจะสละชีวิตเพื่อปกป้องเกียรติและความภักดี
รวมถึงการประท้วง เซปปุกุอาจถูกใช้เป็นการประท้วงทางการเมือง หรือเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับการกระทำบางอย่าง
พิธีกรรมเซปปุกุเป็นพิธีกรรมที่ซับซ้อนและต้องปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด โดยมีผู้ช่วยคนหนึ่งคอยทำหน้าที่ตัดหัวให้ผู้กระทำหลังจากผ่าท้องแล้ว เพื่อความรวดเร็วและลดความทรมานของผู้ที่กระทำการเซ็ปปุกุ
สรุปแล้วนั้นเราจะเห็นได้ว่าการทำเซปปุกุเป็นพิธีกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อและค่านิยมของซามูไรเกี่ยวกับเกียรติ ศักดิ์ศรี และความตาย แม้ว่าจะเป็นพิธีกรรมที่รุนแรง แต่ก็มีที่มาที่ไปและความหมายที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่น่าสนใจ
ที่สำคัญยังเป็นการบ่งบอกวิถีทางการเมืองของซามูไรญี่ปุ่นคือการฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ซึ่งส่งผลต่อความเป็นญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน เห็นได้จากญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่กระนั้นพวกเขาก็สามารถกลับมายืนหยัดเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจ และเป็นประเทศที่เจริญแล้วเป็นอันดับต้นๆ ของโลกได้อย่างภาคภูมิ
แหล่งอ้างอิง
BBC / AllaboutJapan / SilpaMag /
ข่าวที่เกี่ยวข้อง