เจาะขบวนการค้าหมูเถื่อนฉวยโอกาสเนื้อหมูแพงเนื่องจากโรค ASF ระบาด เมื่อใบสั่งนักการเมืองใหญ่ย้ายอธิบดีกรมปศุสัตว์เปิดทางนำเข้าหมูเถื่อน 8 หมื่นตันล้มเหลว การสวมหมูเถื่อนในรายการอาหารทะเลแช่แข็งจึงเริ่มต้นขึ้น!
หลังความพยายามผลักดันให้คณะรัฐมนตรีมีมตินำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาเนื้อหมูในประเทศขาดแคลนล้มเหลว ขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนจำต้องเริ่มต้นในเวลานั้น เมื่อเนื้อหมูจากประเทศอเมริกาใต้ และยุโรป ที่ออกจากท่าเรือต้นทางมาแล้ว ตกค้างอยู่บนเรือบรรทุกสินค้าที่ลอยลำอยู่กลางทะเลนับหมื่นตัน
แผนแรก คือ การนำเข้าผ่านช่องทางและขั้นตอนของกรมปศุสัตว์ แต่แผนนี้จะประสบความสำเร็จ ต้องมีเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ โดยเฉพาะอธิบดีกรมปศุสัตว์ ร่วมมือด้วยทุกขั้นตอน เพราะขั้นตอนการนำเข้าเนื้อสัตว์จากต่างประเทศค่อนข้างยุ่งยาก และมีระเบียบการตรวจสอบที่เข้มงวด ตั้งแต่การขอใบอนุญาตนำเข้า การตรวจสอบ ตรวจโรค ขั้นตอนการเคลื่อนย้าย
ช่วงนั้นจึงมีความพยายามที่จะเปลี่ยนตัวอธิบดีกรมปศุสัตว์ รวมทั้งหัวหน้าด่านตรวจสัตว์ในพื้นที่หลายครั้ง เนื่องจากนักการเมืองใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้าหมูเถื่อน มีความสัมพันธ์ไม่สู้ดีกับอธิบดีในเวลานั้น ซึ่งทำให้ยากที่จะประสานขอความร่วมมือ
ความพยายามในการเปลี่ยนตัวอธิบดี เริ่มจากการหยิบยกเหตุผลการไร้ประสิทธิภาพการควบคุมโรคระบาดของโรค ASF มาเสนอเพื่อขอให้มีการแต่งตั้งคนที่เหมาะสมมาแก้ปัญหา แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในขณะนั้นไม่เห็นด้วย เนื่องจากการควบคุมโรคระบาดครั้งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ และนายเฉลิมชัยลงมากำกับใกล้ชิดกับกรมปศุสัตว์มาโดยตลอด
เมื่อเปลี่ยนตัวอธิบดีไม่สำเร็จ การนำเข้าโดยตรง โดยสำแดงเป็นซากสัตว์จึงไม่สามารถทำได้ การนำเข้าหมูเถื่อนจำนวนมากในเวลานั้น จึงเบนเข็มเป็นการนำเข้าโดยการสำแดงเท็จในรูปแบบอื่น เพื่อเลี่ยงขั้นตอนการตวจสอบของกรมปศุสัตว์
ช่องทางสำคัญที่สุดที่มีการพบข้อมูลหลังจากนั้น คือ การนำเข้าในรูปแบบสำแดงเป็นอาหารทะเลแช่แข็ง เพราะการนำเข้าอาหารทะเลแช่แข็งเป็นการนำเข้าอย่างถูกกฏหมาย ต่างจากการนำเข้าเนื้อหมูที่ต้องมีมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติ ขณะที่การนำเข้าเนื้อสัตว์เกือบทุกประเภทก็จะถูกควบคุมเข้มงวด ทั้งนี้เพื่อป้องกันผลกระทบกับเกษตรกรภายในประเทศ
ปี 2565 พบว่า 5 เดือนแรก ตัวเลขการนำเข้าอาหารทะเลแช่แข็งจากประเทศต่างๆ มีการขยายตัวสูงผิดปกติ การนำเข้าอาหารทะเลแช่แข็งในช่วงเดือนมกราคม - กันยายน 2565 มีปริมาณการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.84 และมีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 28.58 และคาดว่าปี 2565 การนำเข้าสินค้าประมงของไทยจะขยับตัวสูงขึ้น ในปริมาณสูงถึง 2.18 - 2.20 ล้านตัน มีมูลค่า 149,374 - 159,332 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นมูลค่านำเข้าสินค้าประมงสูงสุดเป็นประวัติการณ์
แม้เอกสารของกลุ่มวิเคราะห์การค้าสินค้าประมงระหว่างประเทศ กองนโยบายและแผนพัฒนาการประมง กรมประมง ในเดือนพฤศจิกายน 2565 จะวิเคราะห์อัตราการขยายตัวครั้งนี้ มาจากราคาสินค้านำเข้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามอัตาแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
แต่ตัวเลขสินค้าประมงบางรายการกลับมีปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้นสูงสุดอย่างมีนัยยะ โดยเฉพาะเนื้อปลาสดแช่แย็น แช่แข็ง มีปริมาณเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 23.79 และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 55.09 ซึ่งเป็นปริมาณและมูลค่าการนำเข้าสูงสุดอย่างผิดสังเกตุเช่นกัน โดยสินค้าที่ยังมีแนวโน้มนำเข้าเพิ่มขึ้นได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาเทราต์และปลาแม็กเคอเรลแช่เย็นแช่แข็ง
ปริมาณการนำเข้าสินค้าอาหารทะเลแช่แข็ง สอดคล้องกับปฏิบัติการตรวจค้นห้องเย็นหลังจากนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบเนื้อหมูเถื่อนที่ลักลอบนำอย่างผิดกฏหมายในห้องเย็นหลายแห่ง จนนำไปสู่การตรวจสอบห้องเย็นทั่วประเทศ 2,210 แห่ง ที่สังกัดในทุกหน่วยงาน ประกอบด้วย ห้องเย็นที่ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์, ห้องเย็นที่ขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม, ห้องเย็นที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการค้าภายใน, ห้องเย็นที่ขึ้นทะเบียนกับกรมประมง และห้องเย็นที่ไม่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานใด
นอกจากนั้นยังสอดคล้องกับข้อมูลใน ปี 2565 หลังสามารถควบคุมสถานการณ์โรคระบาด ASF ได้สำเร็จ แต่ผลผลิตเนื้อหมูภายในประเทศก็ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากเป็นช่วงที่หลายๆ ฟาร์มกำลังฟื้นฟู และเริ่มสร้างแม่พันธุ์ใหม่ นอกจากนั้นสถานการณ์ที่เริ่มฟื้นตัวจากโรคโควิด 19 ยังทำให้อัตราการบริโภคเนื้อหมูภายในประเทศมีเพิ่มขึ้น
ภาวะการณ์เช่นนั้น น่าจะทำให้เนื้อหมูภายในประเทศขาดแคลน และราคาจำหน่ายในประเทศจะต้องขยับตัวสูงขึ้น แต่สถานการณ์กลับตรงกันข้าม เมื่อราคาเนื้อหมูในประเทศไม่ได้ขยับตัวขึ้น ขณะที่มีเนื้อหมูมารองรับอัตราการขยายตัวของการบริโภคเพียงพอ โดยเฉพาะตลาดหมูกระทะที่เติบโตมากขึ้นแบบก้าวกระโดด
นอกจากนั้นยังตรงกับข้อมูลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ระบุว่า คดีหมูเถื่อนกว่าหมื่นตู้ น้ำหนักกว่า 200,000 ตัน ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2563 – 2566 พบลักษณะการกระทำความผิดเป็นขบวนการ มีการนำเข้าสินค้าซากสัตว์ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากประเทศอเมริกาใต้และทวีปยุโรป แต่มีการสำแดงสินค้าเป็นประเภทประมง โพลิเมอร์ และสินค้าแช่แข็ง และพบว่ามีกลุ่มนายทุน ข้าราชการประจำ ข้าราชการการเมือง เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งต้องขยายผลสอบเอกสารและพยานหลักฐานเพิ่มเติม
เส้นทาง ช่องทาง การนำเข้าหมูเถื่อนที่สำแดงเอกสารเป็นอาหารทะเลแช่แข็ง โพลิเมอร์ การกระทำความผิดที่ทำกันเป็นขบวนการ ใครเกี่ยวข้อง 11 บริษัทที่ความเกี่ยวข้องโยงใยกัน จะมีใครชักใยอยู่เบื้องหลัง เม็ดเงินผลประโยชน์ต่อตู้ ใครมีส่วนบ้าง EP หน้าจะมาเฉลยในประเด็นนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง