สำรวจคลังอาวุธเกาหลีเหนือ พร้อมรบหรือไม่ หลังปิดประตูรวมชาติเกาหลีใต้
ชวนส่อง คลังอาวุธ คลังแสงของประเทศเกาหลีเหนือ ในปี 2024 ภายใต้การนำของคิมจองอิล เวลาพร้อมทำสงครามหรือไม่ หลังปิดประตูรวมชาติเกาหลีใต้ไปแล้ว
คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ออกมาประกาศเมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมาว่า การรวมชาติกับเกาหลีใต้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อีกต่อไป และ จะสั่งปิดหน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวกับการรวมชาติ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3 หน่วยงาน พร้อมทั้งบอกว่า ควรจะมีการระบุเอาไว้ในรัฐธรรมนูญเพื่อให้ความรู้ชาวเกาหลีเหนือว่า เกาหลีใต้คือศัตรูตัวฉกาจ
และที่สำคัญ ผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบันย้ำว่า เกาหลีเหนือไม่ได้ต้องการสงคราม แต่ก็ไม่มีความตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงการเกิดสงคราม
ดร.จอห์น นิลส์สัน ไรท์ หัวหน้าโครงการเกาหลีและญี่ปุ่นศึกษา ศูนย์ภูมิรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ เปิดเผยว่า ถ้อยแถลงของคิม จองอึนครั้งนี้ เป็นอะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเป็นเรื่องไม่ปกตินักที่ผู้นำเกาหลีเหนือจะถอนตัวออกจากนโยบายรวมชาติ ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติ ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะเย็นชาต่อกัน แต่การแถลงดังกล่าวเป็นเหมือนการนำพาความสัมพันธ์ของสองเกาหลีไปสู่ทิศทางที่ต่างออกไป
ขณะที่ ประธานาธิบดียุน ซ็อกยอลของเกาหลีใต้ก็ออกมาตอบโต้ว่า ถ้าหากเกาหลีเหนือดำเนินการยั่วยุใดๆ เกาหลีใต้จะตอบโต้ด้วยความเข้มแข็งหลายเท่าตัวกลับไป
วันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา เกาหลีใต้ยังใช้มาตรการลงโทษต่อเกาหลีเหนือ แบ่งออกเป็นบุคคล 2 ราย บริษัทและองค์กร 3 แห่ง และเรืออีก 11 ลำ ที่มีความเชื่อมโยงกับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ
• ความสัมพันธ์สองเกาหลีเลวร้ายต่อเนื่อง
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ดำเนินมาอย่างไม่ค่อยสู้ดีนัก โดยเฉพาะเกาหลีเหนือที่ทดสอบขีปนาวุธ และโครงการดาวเทียมหลายต่อหลายครั้ง สร้างความไม่พอใจให้แก่เกาหลีใต้ รวมถึงญี่ปุ่น เพราะการทดสอบขีปนาวุธหลายครั้งไปตกในทะเลญี่ปุ่น
ขณะที่เกาหลีใต้ก็ตอบโต้ด้วยการฝึกซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกาหลีเหนือออกมากล่าวหาว่า เป็นภัยคุกคามขั้นสุด
ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เกาหลีเหนือยุติข้อตกลงทางการทหารกับเกาหลีใต้ ซึ่งแต่เดิมมีขึ้น เพื่อหวังบรรเทาความตึงเครียดทางการทหารลง และเกาหลีเหนือก็ประกาศที่จะส่งกำลังพลมาประจำการบริเวณชายแดนเพิ่มขึ้น ขณะที่ทางเกาหลีใต้ก็ยกเลิกข้อตกลงบางส่วน ไม่กี่วันหลังจากที่คิม จองอึนประกาศอ้างว่าเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่วงโคจร
เมื่อถึงวันสิ้นปี คิม จองอึน ก็กล่าวระหว่างการแถลงนโยบายว่า เขาต้องการกำหนดจุดยืนของเกาหลีเหนือใหม่ ในประเด็นความสัมพันธ์สองเกาหลีและนโยบายรวมชาติ เขายังขู่ที่จะโจมตีนิวเคลียร์ใส่เกาหลีใต้อีกด้วย
หลังจากนั้นเกาหลีเหนือก็ยังมีการทดสอบขีปนาวุธ และซ้อมยิงด้วยกระสุนจริงที่เกาะยอนพยอง ใกล้กับชายแดนของเกาหลีใต้ด้วย
ความสัมพันธ์ของสองเกาหลีดูจะตึงเครียดหนัก เนื่องจากรัฐบาลเกาหลีใต้ปัจจุบัน ภายใต้การนำของประธานาธิบดียู ซ็อกยอล ไม่ได้มีนโยบายประนีประนอมกับเกาหลีเหนือ เหมือนในสมัยของอดีตประธานาธิบดีมุน แจอิน ผู้นำคนก่อน
โรเบิร์ต คาร์แลง อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ และซีกไฟรด์ เฮ็กเกอร์ นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ มองตรงกันว่า พวกเขาเห็นสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีในตอนนี้ อันตรายมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามเกาหลีเริ่มขึ้นในปี 1950 ทั้งคู่บอกว่า มันจะอาจจะฟังดูดราม่าไปหน่อย แต่พวกเขาเชื่อว่า คิม จองอึนกำลังตัดสินใจที่จะเข้าสู่สงคราม ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่ที่คิม จองอึนจะลั่นไก
•คลังอาวุธของเกาหลีเหนือ มีศักยภาพแค่ไหน
น่าจะเป็นคำถามสำคัญที่หลายคนอยากรู้ว่า เกาหลีเหนือมีศักยภาพทางการทหารมากน้อยเพียงใด โดยจากรายงานที่ผ่านมา เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธหลายครั้ง ตั้งแต่ระยะใกล้ ระยะกลาง และขีปนาวุธข้ามทวีป หรือ ICBM ซึ่งขีปนาวุธข้ามทวีปนี้ มีพิสัยการยิงไกลถึง 15,000 กิโลเมตร หมายความว่า มันสามารถยิงจากกรุงเปียงยางไปยังออสเตรเลีย หรือแม้กระทั่งแผ่นดินสหรัฐฯได้เลย
ณ ปัจจุบัน ขีปนาวุธ ICBM ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือคือรุ่น ฮวาซอง 18 ซึ่งเป็นขีปนาวุธรุ่นแรกที่ใช้เชื้อเพลิงจรวดแบบแข็ง ซึ่งจะทำให้สามารถเคลื่อนพลได้เร็วกว่าในช่วงเวลาทำสงคราม
นอกจากนี้ ยังมีขีปนาวุธรุ่นฮวาซอง 17 ซึ่งมีขนาดพอๆกับฮวาซอง 18 แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือความสามารถที่สามารถยิงหัวรบได้หลายหัวในเวลาเดียวกัน ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 และเกาหลีเหนืออ้างว่า ประสบความสำเร็จในการทดสอบในวันที่ 24 มีนาคมปี 2022 อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่า เกาหลีเหนือไม่ได้ทดสอบประสบความสำเร็จในวันนั้นจริง และการทดสอบที่ประสบความสำเร็จจริงน่าจะมีขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายนปี 2022 ต่างหาก
ส่วนขีปนาวุธรุ่นก่อนหน้านั้นที่น่าสนใจก็คือ ฮวาซอง 15 ซึ่งรายงานระบุว่า สามารถยิงไปได้ไกลถึง 13,000 กิโลเมตร เป็นระยะทางที่ไกลมากพอจะยิงไปจนถึงกรุงวอชิงตันดีซีของสหรัฐฯ ส่วนรุ่นฮวาซอง 14 เชื่อว่ามีพิสัยการยิง 10,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพิสัยที่ไกลเป็นสองเท่าของรุ่นฮวาซอง 12
แต่สำหรับคำถามที่ว่า เกาหลีเหนือมีขีปนาวุธรวมทั้งหมดเท่าใด ประเด็นนี้ยังไม่มีรายงานระบุไว้อย่างแน่ชัด ศาสตราจารย์จัสติน แฮสติงส์ แห่งมหาวิทยาลัยซิดนีย์เปิดเผยว่า ดูเหมือนว่าเกาหลีเหนือจะไม่ได้มีขีปนาวุธข้ามทวีปมากนัก เพราะเกาหลีเหนือไม่น่าจะสามารถผลิตออกมาได้เป็นหลายร้อยลูก เนื่องจากต้องใช้งบประมาณที่สูงมาก
นอกเหนือจากขีปนาวุธต่างๆแล้ว เกาหลีเหนือยังทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ด้วย โดยมีการบันทึกเอาไว้ว่า เกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์ไปแล้ว 6 ครั้ง ครั้งล่าสุดคือเมื่อปี 2017
• ทายาทคนถัดไป ของ คิม จองอึน
แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาที่คิม จองอึน ออกมาแสดงท่าทีแข็งกร้าวขึ้นต่อเกาหลีใต้ เราจะพบว่า มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งออกงานเคียงข้างเขาอยู่บ่อยๆ นั่นก็คือ คิม จูแอ บุตรสาวของเขานั่นเอง
เชื่อกันว่า คิม จองอึน กับนางรี ซอลจู ภริยา มีลูกด้วยกันทั้งหมด 3 คน และหนึ่งในนั้นเป็นเด็กผู้หญิงชื่อว่า คิม จูแอ เธอเริ่มปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกในงานทดสอบขีปนาวุธเมื่อปลายปี 2022 และหลังจากนั้นเธอก็ออกงานอยู่เนืองๆ เคียงข้างผู้เป็นบิดา
ปัจจุบัน คิม จองอึน อายุ 42 ปี มีข่าวลือมาเสมอว่าเขาล้มป่วย และทุกครั้งที่เป็นเช่นนั้น มันก็ยากที่จะตรวจสอบเพราะเรื่องภายในเกาหลีเหนือเป็นเหมือนเรื่องลึกลับที่หาคำตอบได้ยาก
แต่ที่รู้ๆกันดีคือ เกาหลีเหนือปกครองด้วยตระกูลคิมมาแล้ว 3 รุ่น ตั้งแต่คิม อิลซอง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ คิม จองอิล ผู้เป็นบิดาของนายคิม จองอึน และคิม จองอึน ผู้นำคนปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่า คิม จูแอจะกลายมาเป็นผู้นำประเทศคนถัดไปหรือไม่ แต่การที่เธอออกงานสำคัญก็บ่อยครั้งก็เป็นอะไรที่นักวิเคราะห์มองว่า เกาหลีเหนือกำลังเตรียมความพร้อมให้แก่เธอ
เมื่อตอนเดนนิส รอดแมน นักบาสเกตบอลชาวอเมริกันเยือนเกาหลีเหนือในปี 2013 เขาได้เล่าถึงการได้พบลูกสาวของคิม จองอึน นั่นเป็นครั้งแรกที่สื่อตะวันตกรับรู้ว่า คิม จองอึนมีลูกแล้ว ชื่อจูแอ โดยรอดแมนเล่าว่า เขาได้อุ้มจูแอ ลูกสาวของคิม จองอึน และได้คุยกับนางรี ซอลจู ภริยาของคิม จองอึนด้วย โดยคิม จองอึนเป็นพ่อที่ดี พวกเขามีครอบครัวที่น่ารัก คิม จองอึนเป็นผู้ชายที่ดีและรักบาสเกตบอล
แต่ก็มีรายงานข่าวด้วยว่า คิม จองอึนยังมีลูกอีกสองคน และมีข่าวลือว่า หนึ่งในสองคนนั้นมีความพิการอะไรบางอย่าง
อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วว่า ด้วยความที่เกาหลีเหนือเป็นประเทศลึกลับ ดังนั้นจึงไม่ทราบอายุของคิม จูแออย่างแน่ชัด แต่จากการบอกเล่าของรอดแมน ก็คาดเดาได้ว่า เธอน่าจะอายุราวๆ 10 ปีหน่อยๆ แต่ชื่อของลูกสาวคิม จองอึน ก็อาจจะไม่ใช่จูแอก็ได้ เพราะยังไม่เคยมีการยืนยันอย่างเป็นทางการ
เมื่อปีที่แล้ว Business Insider รายงานอ้างสายลับเกาหลีใต้คนหนึ่งว่า รอดแมนเข้าใจชื่อของลูกสาวคิม จองอึนผิด โดยจริงๆแล้วเธอน่าจะชื่อ อึนจู มากกว่า
อย่างไรก็ตาม เรดิโอฟรีเอเชีย รายงานเมื่อปีที่แล้วว่า พลเมืองคนอื่นๆในเกาหลีเหนือที่มีชื่อว่า จูแอ ถูกบังคับให้เปลี่ยนชื่อให้หมด ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ลูกสาวของคิม จองอึน ชื่อว่า จูแอจริงๆ และหลังจากนั้น คิม จูแอก็เริ่มปรากฏตัวต่อสาธารณชนในงานสำคัญๆ
สื่อของเกาหลีเหนือเคยเอ่ยถึงคิม จูแอว่า เป็นบุตรอันล้ำค่า และสุดที่รักที่สุดของคิม จองอึน
สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานเมื่อปีที่แล้ว อ้างอิงนักศึกษาที่เคยไปร่ำเรียนในเกาหลีเหนือคนหนึ่งว่า การปรากฏตัวของคิม จูแอเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของอำนาจ เพราะว่าครั้งแรกที่เธอปรากฏตัวก็คือ ยืนอยู่ใกล้ขีปนาวุธ และขีปนาวุธก็เป็นเหมือนสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่ที่สุดของกองทัพเกาหลีเหนือ
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ทราบอะไรที่แน่ชัดเกี่ยวกับคิม จูแอเท่าไหร่ แต่เราก็พอจะทราบว่า เธอต้องเป็นลูกรักของคิม จองอึนอย่างแน่นอน เธอมักสวมเสื้อผ้าราคาแพง ทำผมราวกับผู้ใหญ่ และยืนยิ้มอยู่ข้างๆผู้เป็นบิดาเวลาออกงานสำคัญ แน่นอนว่า รอยยิ้มของเธอนั้นก็ชั่งเหมือนกับรอยยิ้มของบิดาเหลือเกิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
