นายกฯ สั่งการดูแลผู้บาดเจ็บเหตุพลุระเบิดที่สุพรรณ กำชับให้ช่วยเหลือผู้เสียหายเต็มที่ และต้องรายงานความคืบหน้าให้ทราบทุกชั่วโมง ส่วน "อนุทิน" สั่งสอบสวนต้นตอเหตุสลด !
วันนี้ (17 มกราคม 2567) เวลา 11.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองดาวอส ซึ่งช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง) ณ ศูนย์ประชุม Congress Centre เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต่อสายโทรศัพท์ถึง พล.ต.ท นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการภาค 7 ติดตามสถานการณ์พลุระเบิด
โดยนายกฯได้สอบถามเหตุการณ์ด้วยความเป็นห่วง พร้อมสอบถามจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งนี้ นายกฯ ได้แสดงความกังวลต่อผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตขอให้ช่วยนำคนบาดเจ็บออกมาจากพื้นที่ระเบิด กำชับให้นำส่งคนเจ็บส่งโรงพยาบาล เตรียมสถานที่รองรับผูับาดเจ็บ ขอให้ดูแลอย่างเต็มที่ ถ้ามีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือขอให้แจ้งมายังสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลพร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่และขอให้รายงานความคืบหน้าอย่าต่อเนื่องทุกชั่วโมง
ขณะเดียวกัน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้รับรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เกี่ยวกับเหตุการณ์โรงงานผลิตพลุระเบิด ในพื้นที่ ต.ศาลาขา อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเหตุเกิดเมื่อประมาณ 15.30 น. โดยสถานที่ตั้งของโรงงานอยู่กลางทุ่งนา อยู่ห่างไกลชุมชน ไม่มีบ้านพักอาศัยใกล้เคียง
ทั้งนี้ จากการเข้าควบคุมสถานการณ์ของของเจ้าหน้าที่กู้ภัยและดับเพลิง เจ้าหน้าที่ EOD อำเภอ และองค์การบริหารส่วนตำบล ขณะนี้ได้ควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ในรายงานเบื้องต้นระบุว่าโรงงานแห่งนี้มีคนงานกว่า 20 คน ขณะนี้ไม่พบผู้รอดชีวิต
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ประกอบการโรงงานพลุแห่งนี้ ได้รับใบอนุญาตให้ทำและค้าซึ่งดอกไม้เพลิง (แบบ ป.5) เลขที่ 2/2566 ออกโดยนายทะเบียนท้องที่อำเภอเมืองสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 66 สิ้นอายุ 23 ส.ค. 67 ซึ่งหลังจากนี้จะได้มีการเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการสอบสวนถึงสาเหตุ และดำเนินการตามกฎหมาย
"ขณะนี้อำเภอเมืองสุพรรณบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจำนวนผู้ประสบเหตุและความเสียหาย ซึ่ง รมว.มหาดไทย มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นกำชับให้เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเคลียร์พื้นที่เก็บกู้วัตถุระเบิดหรือสิ่งอันตรายให้ปลอดภัยก่อน ขอให้ทางจังหวัดดูแลการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ครอบครัวเสียชีวิตและให้เร่งตรวจสอบถึงสาเหตุของการระเบิดซึ่งนำไปสู่ความสูญเสียในครั้งนี้ ว่ามาจากสาเหตุใดเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป" น.ส.ไตรศุลี กล่าว
นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังขอให้ทุกจังหวัดทุกพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการกวดขันทั้งการออกใบอนุญาต การตรวจสอบสถานประกอบการ ซึ่งได้รับอนุญาตในการผลิตหรือขายพลุ ดอกไม้ไฟ ให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชนเนื่องจากเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ละครั้งก็สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง