แพทย์เตือน! ฝุ่น PM 2.5 ภัยร้ายกระทบสมอง-ระบบประสาท ผ่าน 3 ช่องทาง
กรมการแพทย์ เผยฝุ่น PM 2.5 เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสุขภาพอนามัยของคนไทย ส่งผลกระทบทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ มีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยเฉพาะโรคทางสมองและระบบประสาท
ปัจจุบันสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาอย่างมากโดยเฉพาะปัญหาเรื่องสุขภาพ ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และมีอัตราการนอนโรงพยาบาล และเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น และยังเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
ฝุ่น PM2.5 กระทบสุขภาพ เข้าไปสะสมในสมองได้
ด้านนายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เตือนฝุ่น PM 2.5 กระทบสุขภาพ สามารถผ่านเข้าไปสะสมในสมองได้ ผ่านอย่างน้อย 3 ช่องทาง คือ
- ผ่านผนังโพรงจมูกส่วนติดต่อสมองรับกลิ่น โดยจะซึมผ่านขึ้นไปที่สมองส่วนหน้าด้านล่าง
- ผ่านเข้าไปในปอด เข้าไปถึงหลอดลม แล้วซึมเข้าสู่กระแสเลือดที่ไหลเวียนไปยังสมอง
- ผ่านเข้าสู่ทางเดินอาหาร โดยการกลืนลมที่มีฝุ่นปะปนในระหว่างการพูดคุยแล้วดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด หรือไปเปลี่ยนจุลชีพและสภาวะแวดล้อมในทางเดินอาหารก่อนจะไหลเวียนไปที่สมองต่อไป
ด้าน นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา อธิบายเพิ่มเติมว่า มีการศึกษาพบถึงการสะสมของอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กในสมองโดยเฉพาะในสมองส่วนหน้า ซึ่งผ่านมาจากผนังโพรงจมูกส่วนติดต่อสมองรับกลิ่น โดยจะซึมผ่านขึ้นไปที่สมองส่วนหน้าด้านล่าง เพราะสามารถตรวจพบอนุภาคฝุ่นจิ๋วในสมองส่วนหน้าคล้าย ๆ กลุ่มโรคที่เกิดขึ้นในสมองโดยทั่วไป ไม่ว่าจะในเด็กเล็กที่อยู่ในช่วงเจริญเติบโต จะพบว่าพัฒนาการของสมองช้ากว่าเด็กที่ไม่ได้รับฝุ่น
โรคอุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกันระบบประสาท
นอกจากนี้ในสมองส่วนลึก ก็พบว่ามีโรคอุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกันระบบประสาทเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แปรผันตรงกับช่วงเวลาที่มีการเพิ่มขึ้นของฝุ่นจิ๋ว โดยอธิบายได้ว่า
ฝุ่นจิ๋วมีผลกระตุ้นให้เกิดกระบวนการอักเสบในระบบประสาทส่วนกลาง และหากผลกระทบนี้ลุกลามไปยังสมองที่ทำหน้าที่อื่น ๆ ก็จะส่งผลให้การทำงานของสมองในตำแหน่งนั้นผิดปกติไป เช่น ทำให้เกิดความจำเสื่อม เป็นต้น
ขอให้ประชาชนระมัดระวังป้องกันตนเองจากฝุ่นจิ๋ว หากพบว่ามีฝุ่นในปริมาณสูง ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นควัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
