อิสราเอลเผชิญแรงกดดันรอบใหม่ให้หยุดทำสงครามในกาซา โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เตือน หากทิ้งระเบิดใส่ฉนวนกาซาตามอำเภอใจ จะสูญเสียแรงสนับสนุนจากนานาชาติ
อิสราเอลกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากทั่วโลกครั้งใหม่ เพื่อให้หยุดทำสงครามในฉนวนกาซา หลังจำนวนผู้เสียชีวิตในกาซาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเกือบแตะสองหมื่นรายแล้ว โดยสหประชาชาติเตรียมลงมติรอบใหม่เพื่อให้เกิดการพักรบในฉนวนกาซาวันนี้ (19 ธันวาคม) หลังความพยายามก่อนหน้านี้ถูกปัดตกไปโดยสหรัฐฯใช้สิทธิ์วีโต้
การลงมติครั้งนี้มีความน่าสนใจตรงที่สหรัฐฯอาจจะยินยอม หากมีการปรับเปลี่ยนถ้อยคำที่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับอิสราเอลพึงพอใจ เพราะก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนออกมาเตือนอิสราเอลว่า กำลังสูญเสียแรงสนับสนุนจากนานาชาติ ไม่ใช่แค่เพียงสหรัฐฯ แต่ยังรวมถึงประเทศอื่นๆด้วย
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เดินทางเยือนอิสราเอล และได้เข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอิสราเอล เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนปฏิบัติการของทหารอิสราเอล ที่ก่อนหน้านี้เน้นการโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินเป็นวงกว้างในกาซา ให้กลายมาเป็นปฏิบัติการชุดใหม่ที่จะมุ่งเน้นการปราบปรามแกนนำของกลุ่มฮามาสเท่านั้น
ออสตินเปิดเผยว่า ฮามาสไม่ควรที่จะกลับมามีความสามารถในการก่อการร้ายจากกาซาเข้าไปยังอิสราเอลได้อีก แต่ในขณะเดียวกัน การปกป้องพลเมืองชาวปาเลสไตน์ก็เป็นทั้งหน้าที่ทางศีลธรรมและคำสั่ง
ออสตินเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ที่เดินทางมาเยือนอิสราเอลรายล่าสุด นับตั้งแต่เกิดเหตุกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
รัฐบาลสหรัฐฯถือเปนพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับอิสราเอล และมีการจัดส่งความช่วยเหลือให้แก่อิสราเอลในการทำสงครามในกาซา ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตใกล้แตะสองหมื่นรายทุกขณะ อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาคมระหว่างประเทศ และถึงขั้นที่ประธานาธิบดีไบเดนออกมาเตือนว่า อิสราเอลกำลังสูญเสียแรงสนับสนุนจากนานาชาติ เพราะการทิ้งระเบิดตามอำเภอใจ
ด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เลื่อนการลงมติเรียกร้องให้มีการยุติการทำสงครามเป็นการถาวร เพื่อเปิดโอกาสให้บรรดานักการเมืองได้หารือพูดคุยกับรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อนจะออกร่างมติออกมา โดยตามกำหนดการเดิม การลงมติจะต้องมีขึ้นเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่สหรัฐฯประกาศว่า ไม่สนับสนุนการใช้คำว่า เรียกร้องให้ยุติสงครามเป็นการถาวร แต่อาจจะยอมรับข้อเสนอ “ระงับสงครามชั่วคราว”
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ตัวประกันชาวอิสราเอลสามคนถูกยิงเสียชีวิตโดยทหารของอิสราเอลเอง โดยรายงานระบุว่า ตัวประกันสามคนปรากฏตัวขึ้นห่างจากทหารอิสราเอลในหลักสิบเมตร พร้อมชูธงขาว แต่ด้วยความเกรงอันตราย ทำให้ทหารอิสราเอลตัดสินใจยิง จนทำให้ทั้งสามคนเสียชีวิต
ส่วนปฏิบัติการของกองทัพอิสราเอลในเวลานี้ ขยายไปทั่วทั้งกาซาแล้ว โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเริ่มต้นสงคราม อิสราเอลประกาศให้ชาวปาเลสไตน์อพยพลงใต้ เพราะจะกวาดล้างกลุ่มฮามาสที่อยู่ทางตอนเหนือ แต่ในเวลาต่อมา อิสราเอลชี้ว่า แกนนำกลุ่มฮามาสไปหลบซ่อนตัวอยู่ทางตอนใต้ด้วย จึงมีการขยายพื้นที่การโจมตี ซึ่งมีรายงานว่าทำให้มีชาวปาเลสไตน์ที่เป็นพลเรือนเสียชีวิตตามา
เมื่อวันจันทร์ที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา อิสราเอลก็เพิ่งจะทิ้งระเบิดลงในเขตจาบาเลีย ทางตอนเหนือของกาซา ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขในกาซา ซึ่งควบคุมโดยกลุ่มฮามาส เปิดเผยว่า เมื่อหนึ่งวันก่อนหน้านั้น ก็มีการโจมตีในพื้นที่เดียวกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอีก 110 คน และการสู้รบที่ดุเดือดก็ทำให้การจะนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเป็นเรื่องยาก
แม้รัฐบาลอิสราเอลจะยืนยันว่าต้องทำสงครามเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาสให้ถึงที่สุด เพื่อที่กลุ่มฮามาสจะได้ไม่สามารถกลับมาก่อการร้ายได้อีก แต่ชาวอิสราเอลบางส่วนก็อยากให้รัฐบาลเจรจามากกว่าการใช้กำลัง หลังเกิดเหตุตัวประกันชาวอิสราเอลถูกทหารอิสราเอลยิงเสียชีวิต ประชาชนหลายพันคนก็ออกมารวมตัวประท้วงในกรุงเทลอาวีฟเมื่อค่ำวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อประท้วงให้มีการปล่อยตัวประกัน
ราซ เบน อามี ตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวก่อนหน้านี้ร่วมชุมนุมด้วย เธอบอกว่า เธอเคยเตือนรัฐบาลอิสราเอลแล้วว่า การทำสงครามในกาซาอาจทำร้ายตัวประกันไปด้วย ขณะที่มายา เรเจฟ หนึ่งในตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อตอนที่อิสราเอลและฮามาสทำข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว ก็เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเจรจาเพื่อให้ความช่วยเหลือตัวประกัน
ทั้งนี้ ในการทำข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส ฮามาสยอมปล่อยตัวประกันประมาณ 100 คน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่อิสราเอลปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ แต่ก็ยังคงมีตัวประกันอีกราว 100 คนที่ถูกฮามาสควบคุมตัวเอาไว้
อิสราเอลยืนยันมาโดยตลอดว่าจะไม่ยุติสงคราม โดยสัปดาห์ก่อน นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า การหยุดยิงในฉนวนกาซาจะเป็นอันตรายต่อสันติภาพและเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
แต่หลังเกิดเหตุตัวประกันเสียชีวิตจากความผิดพลาดของทหารอิสราเอล นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูก็ส่งสัญญาณว่า การเจรจารอบใหม่ ซึ่งมีกาตาร์เป็นคนกลาง กำลังเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลได้เข้าพบกับนายกรัฐมนตรีของกาตาร์แล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางฮามาสก็ยืนยันว่า จะไม่เจรจาพักรบรอบใหม่ หากว่าอิสราเอลไม่ยอมหยุดยิงในกาซา
ที่มา :The Guardian / Reuters
ข่าวที่เกี่ยวข้อง