จ่อขึ้นค่าไฟบิล ม.ค.-เม.ย. 67 ตั้งแต่ 4.68-5.95 บาท/หน่วย เตรียมชง 3 แนวทาง

หลังจากที่มีการประกาศลดค่าไฟได้ไม่นาน ทำเอาประชาชนดีใจกันแบบสุดๆ และล่าสุด โดย นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ไฟฟ้าที่ใช้กันหน่วยละ 3.99 บาท จะสิ้นสุดสิ้นปี 2566 เท่านั้น  ปี2567 ค่าไฟฟ้าจะเป็นไปตามต้นทุนค่าเชื้อเพลิง เพราะไม่มีการอุดหนุนจากรัฐบาลแล้ว โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้พิจารณา 3 แนวทางสำหรับค่าไฟฟ้างวดหน้า คือ เดือน ม.ค.- เม.ย.  2567  มีแนวโน้มปรับขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ LNG ในตลาดโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น

ทั้งนี้ความต้องการใช้ LNG ที่มีมากขี้นในช่วงฤดูหนาวในยุโรป ส่งผลให้การประมาณการต้นทุนการผลิตไฟฟ้างวดหน้า (ม.ค.-เม.ย. 67) เพิ่มขึ้นเป็น 64.18 สตางค์ต่อหน่วย ในขณะที่ยังมีภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. อีก 95,777 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 6 งวดๆ ละจำนวน 15,963 ล้านบาท รวมเท่ากับ 89.55 สตางค์ต่อหน่วยสำหรับเดือน ม.ค. – เม.ย. 2567 เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพิ่มขึ้นเป็น 4.68 บาทต่อหน่วย

ดังนั้นกกพ. จึงได้เคาะค่าไฟ 3 แนวทาง ไว้ตั้งแต่ 4.68-5.95 บาทต่อหน่วย โดย 3 แนวทางพิจารณาค่าไฟงวดหน้า มีดังนี้

• ชำระภาระต้นทุนคงค้างทั้งหมด 95,777 ล้านบาทในงวดเดียว (ค่าเอฟทีจะอยู่ที่ 216.42 สตางค์ต่อหน่วย รวมกับค่าไฟฐาน 3.78 บาทต่อหน่วย) จะทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นเป็น 5.95 บาทต่อหน่วย
• จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างใน 1 ปี โดยแบ่งเป็น 3 งวด งวดละ 31,926 ล้านบาท (ค่าเอฟทีอยู่ที่ 114.93 สตางค์ต่อหน่วย รวมกับค่าไฟฐาน 3.78 บาทต่อหน่วย) ทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นเป็น 4.93 บาทต่อหน่วย
• จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างใน 2 ปี โดยแบ่งเป็น 6 งวด งวดละ 15,963 ล้านบาท (ค่าเอฟทีจะอยู่ที่ 89.55 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฐาน 3.78 ต่อหน่วย) ค่าไฟจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.68 บาทต่อหน่วย

อย่างไรก็ตาม กกพ. เปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้ใช้ไฟฟ้า ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน ก่อนที่จะมีการสรุปและประกาศอย่างเป็นทางการต่อไปว่าค่าไฟงวดหน้าจะคิดหน่วยละเท่าไหร่  ดังนั้นประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นกันได้  โดยค่าไฟฟ้าถูกสุดคือ 4.68 บาทต่อหน่วย และ แพงสุด คือ  5.95 บาท ต่อหน่วย